SCI-PARK มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี

อุทยานวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี หรือที่เรียกกันว่าเทคโนธานี เป็นหน่วยงานหนึ่งภายใต้การบริหารงานของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มีภารกิจในการให้บริการวิชาการ การส่งเสริมความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตลอดจนการนำผลงานวิจัยลงพื้นที่ถ่ายทอด ให้คำปรึกษาเชิงลึก ปรับแปลงถ่ายทอดเทคโนโลยี นำเอาผลงานวิจัยไปช่วยผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมรวมไปถึงต่อยอดเชิงพาณิช การยื่นจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาแก่บุคคลภายนอก ผลักดันให้เกิดการนำผลงานวิจัยสิ่งประดิษฐ์ และนวัตกรรมที่เกิดขึ้นภายในมหาวิทยาลัยไปสู่การใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาของชุมชนและสังคม สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ให้กับกลุ่มเป้าหมาย พัฒนาเศรษฐกิจและสังคม

มีพื้นที่ให้บริการภาคอีสาน 4 จังหวัด ได้แก่ จ.นครราชสีมา จ.ชัยภูมิ จ.สุรินทร์ จ.บุรีรัมย์ มีความเชี่ยวชาญด้านเกษตรและปศุสัตว์ โดยมีอาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาสายพันธุ์ไก่โคราช ไทยวากิว รวมทั้งเรื่องข้าว เป็นต้น

 

ด้วยความที่ชื่อว่ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จึงมีความโดดเด่นด้านเทคโนโลยี และวิศวกรรม มีคณาจารย์ที่เชี่ยวชาญในวิศวโยธาโดยเฉพาะให้คำปรึกษาด้านกระบวนการผลิต การลดต้นทุน มีศูนย์เครื่องมือที่อำนวยความสะดวกงานทุกอย่างไว้รวมกัน เพราะฉะนั้นสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัยจึงสามารถใช้ร่วมกันได้หมด บริการสำหรับSME ทุกประเภทโดยเฉพาะด้านอาหาร ด้านเกษตร แต่ด้วยเป็นพื้นที่ในภาคอีสาน ผู้ที่เข้ามารับบริการส่วนใหญ่ก็เป็นผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับด้านอาหาร ยกตัวอย่าง “แยมอิ่มใจ” ที่ทางเทคโนธานีได้ช่วยพัฒนาสูตร โดยเป็นแยมที่ไร้น้ำตาล ใช้ความหวานจากธรรมชาติล้วน  ธุรกิจ“คากิ หนังไก่ทอดกกรอบ” โดยช่วยพัฒนาในเรื่องความกรอบและลดความหืน

 

สำหรับบริการที่ผู้ประกอบการSME สามารถเข้ามาใช้บริการเพื่อบ่มเพาะธุรกิจ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ ได้แก่

1. บริการทางห้องปฏิบัติการ เป็นศูนย์กลางการบริการวิเคราะห์ทดสอบและวิจัยที่ผ่านการรับรองระบบมาตรฐาน ISO/IEC 17025 จากหน่วยรับรองกรมวิทยาศาสตร์บริการ โดยให้บริการการใช้เครื่องมือวิเคราะห์วิจัยระดับสูง ครอบคลุมทุกความต้องการ การให้บริการวิเคราะห์ทดสอบในเชิงเทคนิคและการพัฒนาคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์การถ่ายทอดเทคโนโลยี โดยการนำงานวิจัยออกสู่เชิงพาณิชย์ หรือนำ ไปดำเนินการวิจัยต่อยอด และการจัดให้มีสถานที่สำหรับการอบรมและสาธิตเทคโนโลยี มุ่งให้เกิดการนำเทคโนโลยีไปสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์

2. บริการด้านสถานที่ อุปกรณ์และเครื่องมือมีเครื่องตรวจสอบคุณภาพน้ำ เครื่องวิเคราะห์โลหะหนักในอาหาร เครื่องทดสอบคุณภาพนมและผลิตภัณฑ์นม เครื่องกำจัดมอดด้วยแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งผู้ประกอบการเข้ามาใช้บริการได้ เช่น การก่อสร้าง เรื่องของดิน เรื่องของวัดุ การทดสอบน้ำ การทดสอบอาหาร

3. บริการทรัพย์สินทางปัญญา ทำหน้าที่ให้บริการให้คำปรึกษา ยื่นจดแจ้งทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาแก่บุคคลภายนอก และผลักดันให้เกิดการนำผลงานวิจัย สิ่งประดิษฐ์ และนวัตกรรม ที่เกิดขึ้นภายในมหาวิทยาลัยไปสู่การใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์

4. ทำหน้าที่เป็น Business Buddy ให้กับผู้ประกอบการทุกประเภทที่สนใจ ผู้ประกอบการ SMEs รวมถึง Start Up โดยมีคอร์สอบรม ให้ความรู้ มีกระบวนการ Pre Screening คือการสอบถามความต้องการเบื้องต้นของผู้ประกอบการที่เข้ามาขอรับความช่วยเหลือ ทั้งแบบมีเพียงไอเดีย หรือมีความต้องการที่ชัดเจน ให้การอบรมในเรื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ให้ความรู้ในการทำแผนธุรกิจ Business Model Canvas รวมไปถึงการให้คำปรึกษาเชิงลึกการตลาดในด้านการบริหารจัดการโครงสร้างองค์กรในเรื่องของขบวนการผลิต การนำสินค้าออกไปในตลาดทั้งไทยและต่างประเทศ เช่น ผู้ประกอบการมีแต่วัตถุดิบแต่ยังไม่มีไอเดียว่าจะพัฒนาอย่างไรเราจะเป็นคนช่วยให้คำแนะนำและต่อยอด

5. การอบรมในเรื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ออกแบบผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ โลโก

6. มี Co-Working Space พื้นที่ให้ผู้ประกอบการสามารถเข้ามาใช้บริการ มีห้องประชุมห้องสัมมนาให้เช่าบริการและในอนาคตกำลังสร้างอาคารอำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ เป็นแห่งที่ 4 ของประเทศ

 

ทางศูนย์มีความเชี่ยวชาญที่หลากหลายทั้งด้านอาหาร การเกษตร หรือเทคโนโลยี ทำให้ในช่วงสถานการณ์ COVID-19 ทางมหาวิทยาลัยได้พัฒนาเครื่องแรงดันบวก-ลบ เพื่อช่วยในการรักษาในช่วงที่เกิดการระบาด และยังมีเครื่องปรับสภาพอากาศในการกรองฝุ่น PM2.5 อีกด้วย

 

มหาวิทยาลัยสุรนารี มีสโลแกนว่า “ถ้ามีปัญหา ลองมาหาเรา” โดยทางมหาวิทยาลัยจะทำหน้าที่เป็น Business Buddy ให้กับผู้ประกอบการทุกประเภทที่สนใจสามารถ walk-in เข้ามาได้เลย ผู้ประกอบการสามารถเข้ามารับบริการได้ที่

เทคโนธานีบริการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เข้ามาปรึกษาฟรี ช่องทางการสื่อสาร โทรศัพท์ 0-4422-4811 to 22

โทรสาร 0-4422-4814  อีเมล์ :   technopolis@sut.ac.th  

เว็บไซต์ :  http://technopolis.sut.ac.th/  

Facebook :  facebook.com/TNSUT

 

 

บทความแนะนำ

SCI-Park ม.นเรศวร เป็นศูนย์บ่มเพาะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี One stop service ที่มีบริการที่หลากหลาย เน้นช่วยเหลือผู้ประกอบการอาหารด้านนวัตกรรมมีบริการหลัก ๆ คือ บริการด้านโครงสร้างพื้นฐาน  การบ่มเพาะธุรกิจ  การพัฒนาผลิตภัณฑ์ วิเคราะห์ทดสอบการนำอาจารย์ไปเป็นที่ปรึกษาผู้ประกอบการ  โดยเฉพาะ ด้านเกษตร อาหาร เครื่องสำอาง ด้านการแพทย์ เช่น การออกแบบผลิตภัณฑ์ แปรรูปอาหาร เครื่องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์มากมาย รวมถึงพื้นที่ให้เช่า

 

สำหรับบริการที่ผู้ประกอบการ SME สามารถเข้ามาใช้บริการเพื่อบ่มเพาะธุรกิจ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ ได้แก่

  1. โรงงานต้นแบบเพื่อทดลองผลิต ผลิตภัณฑ์ด้านเกษตร อาหาร เครื่องสำอาง ด้านการแพทย์
  2. บริการห้องปฏิบัติการที่มีครุภัณฑ์/เครื่องมือวิทยาศาสตร์ ด้านอุตสาหกรรมเกษตร
    ด้านอุตสาหกรรมอาหารด้านเภสัชกรรม ด้านเครื่องสำอาง และด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ที่ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
  3. บริการห้องปฏิบัติการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านอาหาร เครื่องสำอางค์ ผลิตภัณฑ์ OTOP ด้านการเกษตร ได้แก่ ห้องปฏิบัติการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง และห้องปฏิบัติการผลิตภัณฑ์อาหารเสริม รวมทั้งเครื่องมือวิทยาศาสตร์ต่าง ๆ เช่น เครื่องHPP (High Pressure Processing) ใช้ทำลายเชื้อจุลินทรีย์ เอนไซม์ , RF (Radio Frequency) เครื่องฆ่ามอด , เครื่องฟรีซดาย์ , เครื่องสเปร์ดาย , เครื่องแปรรูปอาหารมากมาย , เครื่องวัดค่าความเป็นกรด-ด่าง , เครื่องวัดความหนืด , เครื่องอ่านปฏิกิริยาบนไมโครเพลท , เครื่องบรรจุแคปซูล , เครื่องทำแห้งแบบพ่นฝอย , เครื่องขึ้นรูป 3 มิติ , เครื่องตัดด้วยเลเซอร์ เป็นต้น สามารถเข้ามาผลิตเพื่อทดลองตลาดได้
  4. บริการให้คำปรึกษาเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการจดเครื่องหมายการค้า
  5. บริการพื้นที่ Co-Working Space และพื้นที่ให้เช่า สำหรับผู้ประกอบการที่เริ่มต้นธุรกิจ หรือมีเงินลงทุนไม่สูงมากนัก

 

ทางศูนย์มีบริการอื่นๆ อีกมากมายให้ผู้ประกอบการ ดังนี้

  • ความร่วมมืออุตสาหกรรม บริการให้คำปรึกษาธุรกิจเทคโนโลยี การประชาสัมพันธ์ การพบปะองค์กรเอกชน การจับคู่ธุรกิจ กิจกรรมส่งต่อความต้องการ กิจกรรมเพื่อสังคม การถ่ายทอดเทคโนโลยี เป็นต้น
  • ศูนย์ออกแบบและนวัตกรรม เช่น การออกแบบผลิตภัณฑ์ การออกแบบบรรจุภัณฑ์ การออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ การออกแบบตราสัญลักษณ์ จดเครื่องหมายการค้า 
  • ฐานข้อมูลโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
  • บริหารจัดการทรัพย์สินทางปัญญา ให้คำปรึกษาและดำเนินการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา
  • บริการออกผลวิจัย , การวิจัยวัดผล
  • บริการเรื่องการตลาดภายในต่างประเทศ
  • บริการบ่มเพาะธุรกิจ ฟรี (สำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับการคัดเลือก) ผู้ประกอบการที่เข้ามาใช้บริการแล้วประสบความสำเร็จมากมายทั้งรายใหญ่และรายเล็ก เช่น ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ผงโปรตีนจิ้งหรีด
  • รับทดลองผลิตภัณฑ์  เช่น นำผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางมาวัดค่าความเป็นกรด-ด่าง

 

ผู้ประกอบการที่มีความตั้งใจสามารถเข้ามาติดต่อได้ ทั้งผู้ประกอบการที่เคยผ่านโครงการ  ผู้ประกอบการที่ติดต่อผ่านนักวิจัยในมหาวิทยาลัย หรือผู้ประกอบการที่อยาก Walk-in สามารถเข้ามาได้เลยและรอผลการคัดเลือก

 

ติดต่อได้ที่

กองการวิจัยและพัฒนา อุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือตอนล่างมหาวิทยาลัยนเศวร

(อาคารB) อาคารมหาธรรมราชา 99 หมู่ 9 ตำบล ท่าโพธิ์ จังหวัด พิษณุโลก 65000

เบอร์ 055-96-8721-8  E-mail : sciencepark@nu.ac.th 

Website : http://scipark.nu.ac.th/

Facebook : https://www.facebook.com/pages/category/Government-Organization/NU-SciPark-547002178663488/

 

บทความแนะนำ

คุณบอส ยุทธดนัย ข้าวหมูแดงสีมรกต กับเคล็ดลับเพิ่มยอดขายด้วยการปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัล

 

SME Showcase by SMEONE

บทสัมภาษณ์ถอดแบบความสำเร็จ คุณบอส ยุทธดนัย แก้วสีมรกต เจ้าของธุรกิจข้าวหมูแดงสีมรกต สาขาเซนต์หลุย 1 ใน 10 ร้านข้าวหมูแดงที่ต้องลอง! ด้วยรสชาติที่ป็นเอกลัษณ์จนใคร ๆ ก็ต้องมากิน กับเคล็ดลับเพิ่มยอดขาย ด้วยการปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัล

 

 

จุดเริ่มต้นของข้าวหมูแดงสีมรกตคืออะไร

คุณบอส : เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยอากง เสื่อผืนหมอนใบเข้ามาที่กรุงเทพฯ ครับ แล้วก็เหมือนกับว่าไปเรียน ยอมไปเป็นลูกจ้างเขาก่อน แล้วมาเปิดเองโดยที่เป็นแบบหาบเร่มาก่อน แล้วเขาก็ปรับปรุงสูตรที่เคยเรียนมาให้ถูกปากลูกค้า ก็เริ่มมีลูกค้าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ครับ หลังจากที่อากงเสียไปเมื่อ 20 ปีที่แล้ว พ่อผมก็เข้ามาดูแล ผมอยู่กับข้าวหมูแดงสีมรกตมาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่เกิด

 

ต่อยอดธุรกิจครอบครัว

คุณบอส : หลังจากที่ผมเรียนจบปริญญาโท ก็เหมือนกับว่าร้อนวิชา อยากจะลองดูสักตั้งว่าเราจะขยายไปได้ไหม เหมือนบ้านเรามีต้นทุนที่ดีอยู่แล้ว แทนที่เราจะสานต่อธุรกิจที่บ้าน ทำไมเราต้องไปทำที่อื่น จบป.โทมาใหม่ ๆ เขาบอกว่าออกไปทำงานหาประสบการณ์ข้างนอกมาก่อน แต่ผมเห็นว่า Product มันยังไงก็ขายได้ แค่ปรับตรงนี้นิดตรงนี้หน่อย ก็น่าจะดีขึ้น

 

อะไรที่ทำให้ลูกค้าติดใจในข้าวหมูแดงสีมรกต

คุณบอส : ส่วนใหญ่คนจะติดใจรสชาติครับ รสชาติของที่นี่จะต่างจากที่อื่น จะแตกต่างตั้งแต่หมูเลยครับ หมูทุกอย่างเราจะย่างด้วยเตาถ่าน น้ำราดก็จะเป็นสูตรพิเศษที่รับสูตรมาจากอากง

 

ทำเลที่ตั้งของร้านสำคัญกับการสั่งออนไลน์อย่างไร

คุณบอส : ผมเน้นจุดที่อยู่ใจกลางเมืองเป็นหลัก อยู่ใกล้กับแหล่งออฟฟิส เพราะว่าตรงนี้ใกล้กับสาทร ลูกค้าเวลากดสั่งมาค่าส่งมันจะถูก ถ้าแบบอยู่ที่เขตออฟฟิสแต่ว่าไปสั่งที่ตรอกหัวหมู ค่าส่งมันก็จะแพงขึ้นมาอีก

 

อยากให้บอกถึงปัญหาหรืออุปสรรคในการทำธุรกิจ

คุณบอส : มีอุปสรรคนิดหน่อยครับ แต่ว่าก็ไม่เยอะ เช่นการเปิดใจของเรา อย่างตอนที่เดลิเวอรี่เข้ามาติดต่อให้ผมทำกับเขาใหม่ ๆ เขาก็จะมีการกินเปอร์เซ็นต์ ซึ่งผมก็รับไม่ค่อยได้ครับ เพราะว่าจริง ๆ ผมขายข้าวหมูแดงกำไรผมไม่ได้เยอะอยู่แล้ว กำไรก็จะเหลืออีกแค่นิดเดียว งั้นผมขอเพิ่มราคาขึ้นมาอีกนิดหนึ่งได้ไหม แต่ว่าไม่ได้เพิ่มน่าเกลียดจนลูกค้าสั่งไม่ได้ ซึ่งลูกค้าที่สั่งเดลิเวอรี่เขาก็ยอมรับได้อยู่แล้ว ขายแต่หน้าร้านอย่างเดียว ยอดขายมันก็ไม่โตครับ เราก็ต้องยอมเสียอะไรบ้างอย่างไว้บ้าง เพื่อที่จะได้บางอย่างขึ้นมา

 

ความแตกต่างของ Generation มีผลต่อการต่อยอดทำเดลิเวอรี่อย่างไรบ้าง

คุณบอส : คุณพ่อไม่เห็นด้วยเลยครับ คุณพ่อบอกว่าขายราคาเท่านี้เดี๋ยวลูกค้าเขาก็ว่าเอา เขาไม่เข้าใจครับ แต่จริง ๆ แล้วในทางลูกค้าเขาเข้าใจครับ เขาเอาตังค์ของเขาไปซื้อความสะดวกสบายของเขา เพื่อที่จะได้กินอาหารในออฟฟิส ไม่ต้องออกมา

 

การทำเดลิเวอรี่มีผลต่อธุรกิจอย่างไรบ้าง

คุณบอส : คนค่อนข้างเปลี่ยนครับ อย่างช่วงโควิด-19 ร้านอื่น ๆ ยอดตกใช่ไหมครับ แต่ว่าที่ร้านนี้รับเดลิเวอรี่เป็นหลัก กลายเป็นว่ายอดขึ้นสูงกว่าเดิม แล้วพอโควิดเริ่มซาลงไป ก็มีลูกค้าเข้ามากินในร้านบ้าง แล้วก็มีเดลิเวอรี่เหมือนเดิม ก็ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นไปอีก

 

มีการใช้ Social Network ช่วยเพิ่มยอดขายบ้างไหม

คุณบอส : ณ ตอนนี้ที่มาได้ถึงขนาดนี้ เกิดจาก Social Network มีการถ่ายรูปอาหารไป ก็มีคนกดไลค์ มีคนกดแชร์ บางรายการมาถ่ายก็มีการแชร์ แชร์ไปกระจายไปเรื่อย ๆ ทำให้เป็นที่รู้จักกันมากขึ้น จากคนต่างจังหวัดที่ไม่ค่อยรู้จักเรา กลายเป็นว่าเขาไปเห็นจากการแชร์ใน Facebook เออน่ามากิน ถ้าวันไหนแวะมากรุงเทพฯ เขาก็อาจจะต้องแวะมากิน

 

คำแนะนำที่ฝากให้กับผู้ประกอบการ SME ท่านอื่น ๆ

คุณบอส : เราต้องเข้าใจลูกค้าก่อนครับ ว่าเขาชอบรสชาติแบบไหน เขาต้องการให้เราตั้งราคาเท่าไหร่ที่เขาพอจะรับได้ แล้วเราควรจะไปอยู่ตรงไหนที่กลุ่มลูกค้าของเราเข้าถึง ผมว่าควรจะเปิดเรื่องการขายผ่านเดลิเวอรี่ได้แล้วครับ เพราะว่าตอนนี้ยุคสมัยก็เปลี่ยนไปแล้ว สมัยก่อนจริง ๆ เวลาหาทำเลก็ต้องดูทำเลที่คนผ่านเยอะ ๆ คนผ่านหน้าร้านแล้วเห็น แต่ตอนนี้ทำเลของเรามันเปลี่ยนไปแล้ว มันเปลี่ยนไปอยู่ในออนไลน์แล้ว ก็คือ Grab, FoodPanda, Lineman, Go jek ตรงนี้คือทำเลของผม

 

 

บทความแนะนำ

เฮียนพ หมูนุ่มนมสด จากกรรมกรสู่ธุรกิจหมูปิ้ง 200 ล้าน

 

SME Showcase by SMEONE

บทสัมภาษณ์ถอดแบบความสำเร็จ คุณนพ หมูนุ่ม เจ้าของบริษัทหมูนุ่มนมสด จากกรรมกรสู่ธุรกิจหมูปิ้ง 200 ล้าน

 

 

จุดเริ่มต้นของธุรกิจหมูนุ่มนมสดคืออะไร

เฮียนพ : เฮียเรียนจบแค่ม.3 อายุ 20 กว่า ก็ไปสมัครทำงานโรงงาน เผอิญมันมาประสบปัญหาวิกฤตโรงงานเขาเริ่มมีการสมัครใจลาออก เลิกจ้าง ออกมาจากงานตอนอายุสามสิบก็เร่ร่อน ได้ทุนมาก้อนหนึ่งทำขายเสื้อผ้า ขายไอศครีม ค้าขายอะไรต่าง ๆ แต่ค้าขายก็ไม่ดี จนกระทั่งเงินหมด ไปเป็นรปภ.มานอนอยู่ที่ป้อมยาม แล้วก็ไปอาศัยน้องสาวอยู่ที่โรงพักปากเกร็ด

ที่โรงพักปากเกร็ดเด็กวัยรุ่นเขาตั้งวินมอเตอร์ไซค์กันขึ้นมา และให้เสื้อมาตัวหนึ่งก็เลยขับวิน การขับวินนี่แหละเป็นที่มาของการรู้จักหมูปิ้งนมสด กลุ่มแม่บ้านโรงพักปากเกร็ดเขาทำหมูปิ้งนมสดอยู่ แล้วเขามาจ้างเราวิ่งวิน

ส่วนจุดเริ่มต้นทำจริงจังคือน้องสาวไปขอสูตรคุณอั่วมาทำ แล้วพอดีสามีของน้องสาวที่เป็นตำรวจเสียชีวิตเขาไม่มีคนช่วย น้องเลยมาขอให้เราทำส่งให้น้อง เริ่มแรกเลยทำแล้วไม่ได้ขายเอง เฮียนพเป็นคนที่ทำหมูปิ้งแต่ไม่เคยขายหมูปิ้งเอง พอเสียบไม้เสร็จก็วิ่งไปให้น้องสาว น้องก็จะมีหน้าที่ขายอย่างเดียว

 

อะไรคือแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจหมูนุ่มนมสด

เฮียนพ : ตรงที่ทำอยู่นี่อยู่ที่โรงพักปากเกร็ดและตรงข้ามเป็นโรงเรียนหอวัง ก็มีป้าคนหนึ่งเขาขายไอศครีมปั่นอยู่ เราก็บอกเขาว่าป้าขายไอศครีมแบบนี้เด็กสมัยนี้ไม่กินหรอก ป้าเอาหมูปิ้งขายสิ ป้าแกก็เลยปิ้งหมูเราขาย

ผู้ปกครองเขามารับลูกทุกวันเขาก็กินหมูป้าทุกวัน เขาอยากได้หมูไปขาย เขาก็รอเฮียตั้ง 3-4 วันแล้วไม่เจอ เพราะว่าตอนโรงเรียนเลิกเราก็ขับวินส่งนักเรียน จนกระทั่งวันนั้นมีโอกาสได้เจอ เขาเลยสั่งหมูปิ้งเรา 1,000 ไม้ ซึ่งเป็นการสั่งที่เยอะมาก ๆ เราไปส่งตั้งแต่ตี 4 บ่ายเย็น ๆ เขาก็โทรมาสั่งอีก เราก็บอกทำไมหมดแล้วหรอเอาไป 1,000 ไม้ นึกว่าเขาเอาไปแจกโรงทาน ที่แท้เขาบอกว่าคุณมาตอนมืดคุณไม่เห็น คุณมาตอนเช้าที่นี่เป็นโรงเรียนนักเรียนเยอะมาก ปรากฏว่าเขาสั่งไปขาย 1,000 ไม้ไม่พอ เขาก็เลยสั่งเราทุกวัน เขาเห็นเราวิ่งวินเขาก็บอกว่าถ้างั้นเอามาทีละ 1,000 ทุกวัน เพราะว่าขายจันทร์ถึงศุกร์นะ

ด้วยความที่เราตกงานมาเป็นสิบปี ไม่เคยมีเงินติดตัวเลย พอได้เงินมา 4,000 บาท กำเงินแน่นเลย ก็เลยนึกโอกาสว่าถ้ามีแบบนี้ซัก 10 เจ้า รวยแน่! ณ วันนั้นพอส่งของเสร็จก็จอดตั้งแต่ตลาดเตาปูน เจอตลาดสดตรงไหนจอดตรงนั้น เดินเข้าไปหาคนที่ขายไส้กรอก หมูปิ้ง บอกเขาว่าพี่เอาหมูปิ้งผมขายไหม หมูผมขายได้ไม่ต้องมีน้ำจิ้มนะพี่ ไม่ต้องมีผักเหมือนไส้กรอกนะ เพราะตอนนั้นเรายังไม่ได้ทำไส้กรอก เราก็ไม่ได้ไปโจมตีไส้กรอกแต่เราบอกว่าการขายไส้กรอกต้นทุนมันจะเพิ่มคือผักต้องแถม แต่หมูไม่ต้อง ขายไส้กรอกขายข้าวเหนียวด้วยไม่ได้ แต่ขายหมูปิ้งขายข้าวเหนียวด้วยได้ ได้กำไรทั้งสองอย่างทั้งข้าวเหนียวทั้งหมูปิ้ง เดินไปบอกพ่อค้าแม่ค้า เจอตลาดตรงไหนก็เอาหมูติดไปเอาไปให้ตัวอย่าง ลูกค้าเริ่มเพิ่มขึ้น เพราะบางคนเขาก็เชื่อเรา

 

เมื่อมีลูกค้าเยอะขึ้น ในช่วงแรกเราเพิ่มการผลิตอย่างไร

เฮียนพ : พอเราต้องการที่จะเพิ่มกำลังการผลิตมีคนสั่งเพิ่มขึ้น ก็ปรากฏว่ามีแรงงานต่างด้าวที่อาศัยอยู่ในบ้านเช่าระแวกที่เราอยู่ เราก็ชักชวนเขา ลาว เขมร พม่า ว่าเลิกงานมาเสียบหมูมั้ย จ้างร้อยละสามสิบบาท บางคนก็มาเสียบ 100 ไม้เขาก็ได้ 35 บาท ไปซื้อกับข้าว แม่บ้านที่โรงพักปากเกร็ด คนทำความสะอาดเลิกงานมาก็มาเสียบหมูเรา

 

อยากให้เล่าถึงความคิดในการยกระดับและมาตรฐานของหมูนุ่มนมสด

เฮียนพ : เฮียเป็นเจ้าแรกในเมืองไทยที่ไปขออนุญาตว่าจะสร้างโรงงานเนื้อหมูเสียบไม้ สร้างเรื่องของมาตรฐานก่อน เราไม่รู้เรื่องของมาตรฐาน เราก็ไปที่เทศบาลปากเกร็ด ไปที่สาธารณสุขจังหวัด ให้เขาเข้ามาตรวจโรงงานเราก่อน เราอยากให้สินค้าเราไปอยู่ในร้านสะดวกซื้อ คิดว่าสินค้าหมูปิ้งมันน่าจะไปวางในร้านสะดวกซื้อได้

 

จากมาตรฐานสู่การปรับปรุงระบบ ช่วยเพิ่มยอดขายได้อย่างไร

เฮียนพ : สาธารณะสุขเขาก็จะเข้ามาตรวจว่า ถ้าคุณจะขออย.คุณต้องเป็นแบบนี้ ๆ พอเราเริ่มปรับปรุงโรงงานเราเข้าสู่ระบบและเราก็เริ่มขออย. ซึ่งเดิมเราขายดีอยู่แล้ว พอยิ่งได้มาตรฐานมีโรงงาน ความมั่นใจของลูกค้าก็มีเพิ่มขึ้น เลยทำให้เราได้ลูกค้าเพิ่มมาอีกตลาดหนึ่ง คือตลาดโมเดิร์นเทรด ห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อเริ่มเอาสินค้าเราไปขาย มันเป็นการเติบโตโดยก้าวกระโดด

 

การสร้างแบรนด์ในแบบเฮียนพ หมูนุ่มนมสด

เฮียนพ : ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอะไรมันก็เหมือน ๆ กันแหละ มันมีการวิจัยว่าการที่คนจะควักสตางค์ซื้ออะไรสักอย่าง 50% เขาจะตัดสินใจจากแบรนด์ เฮียก็เลยมีความจำเป็นที่จะต้องบอกกับผู้ประกอบการหรือตัวเราเองว่า เราต้องทำแบรนด์เราให้เป็นที่จดจำ คือทำธุรกิจไม่ว่าจะเป็นร้านเล็กร้านน้อยไม่จำเป็นต้องเป็นแฟรนไชส์ จะขายข้าวแกงหน้าปากซอยก็ตาม คุณต้องมีเครื่องหมายการค้า

โฆษณามันต้องคู่ไปกับพัฒนา ทำธุรกิจโฆษณาต้องมี ทำธุรกิจคุณต้องไม่หยุดตะโกน การตะโกนไม่ใช่ตะโกนเพ้อเจ้อไปเรื่อย แต่ในทำนองเดียวกันคุณก็ต้องพัฒนาไปด้วย เพราะฉะนั้นถ้าเราดูแลลูกค้าโดยการโฆษณาประชาสัมพันธ์และพัฒนาสินค้าด้วย คนที่ซื้อแฟรนไชส์เราไปเขาก็ไม่เปลี่ยนไปจากเราหรอก

 

เคยขอเข้ารับการสนับสนุนจากทางภาครัฐ เพื่อช่วยด้านการพัฒนาต่อยอดธุรกิจไหม

เฮียนพ : การเข้าหาหน่วยงานภาครัฐ เราจะได้คำแนะนำที่มันถูกต้อง เพราะเราเป็นคนที่ไม่มีความรู้อยู่แล้ว ไม่ว่าเป็นเรื่องของ สสว. หรือ สวทช. กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม สถาบันอาหาร มหาวิทยาลัยต่าง ๆ ตั้งแต่วิธีการทำบัญชีทำอะไรต่าง ๆ ถามว่าเข้าหาหน่วยงานภาครัฐไหม? เฮียเข้าทุกหน่วยงานเลย

 

คำแนะนำที่ฝากให้กับผู้ประกอบการ SME ท่านอื่น ๆ

เฮียนพ : การทำธุรกิจ การที่คุณจะเอากำไรมาขยายธุรกิจ มันทำได้ไหม ทำได้แต่ยาก ธุรกิจของท่านกำลังทำอยู่แล้วมันจะต้องขยายจะต้องเติบโต ก็ต้องบอกท่านไปเลยว่า ณ ตอนนี้ให้ท่านเตรียมพร้อมที่จะเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จ สิ่งเดียวที่เฮียอยากจะบอก คือท่านต้องทำตัวให้ขาวสะอาด การเข้าถึงแหล่งเงินทุนเขาตรวจตัวท่านอันดับแรก ถ้าตัวท่านเป็นหนี้ ติดบัตรเครดิต เก็บบูโร ติดอะไรต่าง ๆ เขาไม่คุยอย่างอื่น เพราะฉะนั้นก็ฝากไปถึงผู้ประกอบการว่า เป็นผู้ที่จะประสบความสำเร็จ แต่ท่านก็ต้องเตรียมอย่าให้เสียเครดิต

การที่มันเติบโตมาได้ หนึ่งมันเกิดจากเรามีวินัย SME ไทยที่ไปไม่รอดส่วนใหญ่ขาดวินัย ก็หมายความว่าไม่มีการจัดการที่ดี ก็คือไม่มีระบบบัญชีที่ดี ไม่มีระบบการควบคุมคุณภาพที่ดี ไม่มีระบบการตรวจสอบที่ดี

ข้อที่สองคือต้องมีความซื่อสัตย์ เพราะพอเราซื่อสัตย์จะทำให้ลูกค้าอยู่กับเรา พอลูกค้าอยู่กับเรา เราก็จะมีการผลิตแล้วขายได้เรื่อย ๆ

ประการที่สาม เราต้องมีวิสัยทัศน์ วิสัยทัศน์เป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากเฮีย 50 กว่าแล้ว จะมาค้าขายแบบคนแก่สมัยก่อนมันก็ไม่ได้แล้ว เพราะโลกมันเปลี่ยนไป ทุกวันนี้เฮียนพเองถ้าจะบอกแก่กะโหลกกะลาก็ต้องเรียนรู้ เพจ เฟซบุ๊ก ออนไลน์ อินเตอร์เน็ต ทุกอย่างต้องเรียนรู้หมด

วินัย ซื่อสัตย์ วิสัยทัศน์ มันอาจจะไม่ได้รุ่งโรจน์หรือใหญ่โตไปกว่านี้ แต่มันก็อาจจะไม่ย่ำแย่ไปกว่านี้ ถ้าเราไม่มีวิสัยทัศน์กับโลกปัจจุบัน มันไปต่อไม่ได้ ที่สำคัญคุณต้องแสวงหาความรู้กับหน่วยงานภาครัฐ เพราะการแสวงหาความรู้จะทำให้ธุรกิจเกิดไอเดียใหม่ ๆ ความคิดใหม่ ๆ ที่สำคัญมันเป็นไอเดียและความคิดที่ถูกต้อง หลายเรื่องที่เฮียนพไม่ได้เรียนรู้และจินตนาการขึ้นมาเอง แต่พอไปทำจริงมันทำไม่ได้ เพราะมันผิดหลักการมันไม่ได้มาตรฐาน มันไม่ถูกต้อง

SME ไทยเรามีมากมาย มีจำนวนเยอะ เกิดขึ้นมาปีหนึ่งเป็นหลายร้อยหลายพันหลายหมื่นเจ้า แต่อย่าลืมว่า SME ที่ไปต่อได้มีเพียงแค่ 5% ท่านอยากจะเป็นหนึ่งใน 5% นั้น หรือท่านจะเป็นหนึ่งใน 95% ท่านก็ต้องเลือก แต่เฮียเชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันสามารถปรับเปลี่ยนได้ แก้ไขได้ เพียงแต่เราต้องขยันเรียนรู้นะครับ

 

 

บทความแนะนำ

ถอดแบบความสำเร็จ คุณมิน Founder – Designer แบรนด์ April Pool Day แบรนด์ชุดว่ายน้ำที่มีคาแรคเตอร์เป็นของตัวเองและรู้ใจสาวเอเชียมากที่สุด

 

SME Showcase by SMEONE

บทสัมภาษณ์ถอดแบบความสำเร็จ คุณมิน Founder – Designer แบรนด์ April Pool Day แบรนด์ชุดว่ายน้ำที่มีคาแรคเตอร์เป็นของตัวเองและรู้ใจสาวเอเชียมากที่สุด

 

 

 

จุดเริ่มต้น คาแรคเตอร์และความหมายของชื่อแบรนด์ April Pool Day

คุณมิน : April pool day มันก็คล้ายคล้ายกับคาแรคเตอร์ของแบรนด์เหมือนกับวัน April Fool Day ค่ะ ก็คือเป็นวันโกหก ซึ่งจะเป็นคาแรคเตอร์ของสาว April ก็คือเป็นคนขี้เล่น สนุกสนาน มีความครีเอทีฟ มีความชอบท่องเที่ยวแล้วก็ให้ความสําคัญกับประสบการณ์ชีวิตอะคะ ซึ่งมันก็เป็นไลฟ์สไตล์ของเราด้วยค่ะ ว่าเวลาเราไปเที่ยว เราใช้ชีวิต เราต้องใส่ชุดว่ายน้ําเนี้ย เราทําอะไรบ้าง คนที่ใส่ชุดว่ายน้ํา  April จะไม่ได้แค่ใส่ชุดว่ายน้ําแล้วก็ ถ่ายรูปแล้วก็จบ แต่ว่าค่อนข้างเป็นคนทํากิจกรรมจริง

 

ตลาดชุดว่ายน้ำ เป็นอย่างไร?

คุณมิน : ถ้าเทียบกับเสื้อผ้ามันก็โอกาสในการใส่น้อยกว่าบวกกับสไตล์ด้วยว่า สไตล์ของเราไม่ได้ทํามาเพื่อทุกคนมันก็คือคนที่ชอบชุดว่ายน้ําที่เป็นสไตล์นี้อะคะ เพราะฉะนั้น หนึ่งคือชุดว่ายน้ําก็แคบประมาณหนึ่ง แล้วสไตล์ของแบรนด์ก็บีบให้มันแคบลงไปอีก

 

วิธีเข้าถึงลูกค้ายังไง ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก?

คุณมิน : ก็จริงจริงถ้าตอนเริ่มเลยก็เหมือนปากต่อปาก ก็จะเป็นคนในวงการใกล้ใกล้ตัวที่อยู่ในแบบหรือว่าศิลปะออกแบบอะไรอย่างเงี้ยค่ะในช่วงแรกแรก แล้วมันก็เริ่มขยายแบบปากต่อปาก

 

มีลูกค้าพูดเรื่องราคาที่สูง เทียบกับแบรนด์ชุดว่ายน้ำออนไลน์อื่นๆ หรือแบรนด์นำเข้าจากจีนที่ราคาถูก ตรงนี้รับมือยังไง?

คุณมิน : เราก็ต้องบอกว่าที่ราคาเราสูง มันไม่ได้มาแบบไม่มีสาเหตุ คือผ้าก็นำเข้าจากอิตาลี การตัดเราก็ Finishing การออกแบบเราก็ให้ Detail แบบมากมาก แต่งานจีนมันเป็นงานแบบเร็วเร็ว แล้วก็ต้นทุนถูก เพราะฉะนั้นเขาจะไม่ได้มีเวลามาใส่ใจพวกเรื่อง Detail เพราะว่าของก็อปก็จะมาจากจีนซะส่วนใหญ่ คนจีนเองเลยด้วยที่เป็นโรงงานจีนที่ก็อป แล้วก็ส่งมาที่ Shop ไทยแล้วโรงงานจีนเขาก็เหมือนกับเขาก็เอารูปเราไปขายด้วย เพราะฉะนั้นเวลาที่ Shop คนไทยไปซื้อจากจีนอะคะ จีนจะบอกเลยว่าให้เข้าไปเอารูปจากเว็บไซต์เขาได้เลย ซึ่งรูปนั้นก็คือรูปเรา

 

เทรนด์แฟชั่นที่เปลี่ยนไปตลอด กับการปรับตัวของแบรนด์ April Pool day

คุณมิน : จริง ๆ April ไม่ได้เป็นแบรนด์แฟชั่นนะคะก็เลยไม่จําเป็นต้องตามเทรนด์มาก แต่เราก็ดูไว้ว่ามันเข้ากับเราไหม ถ้ามันเข้าก็อาจจะใช้ แต่ว่าถ้าไม่เข้าก็ไม่ทํา

 

ก่อนจะออกคอลเลคชั่นใหม่ มีขั้นตอนอย่างไร

คุณมิน : ทุกครั้งที่เราจะออกคอลเลคชั่นใหม่ มันจะต้องใหม่แล้วก็ไม่ซ้ํากับที่เคยเห็นมาก่อนแล้ว มันจะต้องมีส่วนผสมของความวินเทจนิดนิด แต่ว่าไม่ใช่ว่าเห็นแบบแล้วก็ อ่ะ เอาแบบเนี้ยแหละ แต่เราแค่จะใช้มันเป็นเหมือนกับส่วนผสมตั้งต้น เป็น inspiration แล้วเอามารวมกันเพื่อสร้าง Design ที่ออกมาแบบใหม่แล้วก็ไม่เคยเห็นมาก่อน

 

April Pool Day มีวางจำหน่ายที่ไหนบ้าง

คุณมิน : มีพวกวางตาม Multibrand Store พวกตามห้างด้วย แล้วก็มีขายออนไลน์ แล้วก็ถ้าเป็นต่างชาติเราจะส่งเป็น Distributor เช่น เกาหลี ไต้หวัน ญี่ปุ่นนิดหน่อยแล้วก็จีน

 

Covid-19 ส่งผลกระทบกับแบรนด์อย่างไรบ้าง

คุณมิน : ถ้าตั้งแต่ Covid-19 ตามห้างเนี้ยจะน้อยลงเลย เพราะว่าจริงจริงลูกค้าที่ซื้อก็จะเป็นลูกค้านักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย เวลาสต็อคมาลงปึ๊บก็คือขายออนไลน์สั่งมาเท่าไรก็หมด ไม่พอส่งห้างด้วย

 

April Pool Day จัด Sale หรือ Promotion บ่อยไหม

คุณมิน : อาจจะมีบ้างเป็น Gimmick คือก็ไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องดีหรือไม่ดีนะคะที่จะไม่มี แต่ว่าเราแค่รู้สึกว่าเราไม่อยากให้ราคา การลดราคามันมาเป็นตัวดึงดูดลูกค้าเข้ามาค่ะ จริง ๆ เรามีออกทั้งชุดว่ายน้ําใช่ไหมค่ะ แล้วก็คือปีหลังๆจะมีพวก Ready to wear ด้วยซึ่งมันก็ช่วย balance ยอดขายเราได้

 

อะไรคือมาตรฐาน ของ April Pool Day ในการจะออกคอลเล็กชั่นแต่ละครั้ง แล้วเคยออกคอลเล็กชั่นไหนแล้วเฟลบ้างไหม

คุณมิน : ก่อนออกคอลเล็กชั่น เราก็จะดูสามอย่างเป็นหลักว่า Design เนี้ยมัน Practical สําหรับการว่ายน้ําไหม และเราก็ต้องมีการเทสว่ามันว่ายน้ําได้ดีจริงในระดับที่เป็น Standard ของเรา แล้วก็มัน affordable ไหม ราคามันโอเคหรือเปล่า ต้นทุนมันเท่าเนี้ยแหละแต่ว่ามันต้องขายประมาณเนี้ย สุดท้ายคือ Individual เป็น Style ของตัวเอง ซึ่งก่อนออกพอมันครบสามแล้ว เราก็จะค่อนข้างมั่นใจว่ามันจะต้องขายได้แน่นอน แต่ถ้าเกิดว่าปัจจัยที่มันจะทําให้ขายไม่ได้มันก็จะมี เช่น ฝนตกขึ้นมาแบบไม่มีสาเหตุ  ไปเที่ยวไม่ได้ ลงว่ายน้ำไม่ได้ แล้วจะซื้อไปทำไม

 

ความแตกต่างของแบรนด์ April Pool Day กับแบรนด์ชุดว่ายน้ำอื่น ๆ

คุณมิน : อาจจะต่างจากแบรนด์อื่นตรงที่ว่า พอเราออกคอลเล็กชั่นแค่ชุดว่ายน้ําปีละสองชุดใช่ไหมค่ะ เราจะไม่หยุดขายเหมือนรุ่นแรกตั้งแต่ที่ออกมาเราก็ยังทําอยู่ มันก็คือ repeat ไปเรื่อย ๆ เพราะเราออกน้อย มันก็อย่างที่บอกว่าไม่ได้เป็นแบรนด์แฟชั่น มันมีความคลาสสิกประมาณนึงทีว่า แม้แต่รุ่นที่ออกไปเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ทุกวันนี้คนก็ยังซื้ออยู่

 

ปัจจัยความสำเร็จในการทำธุรกิจมีอะไรบ้าง (key Success Factors)

คุณมิน : ทุกคนมีความชอบมีความสนใจคล้ายคล้ายกันร่วมกัน มี Goal คล้ายคล้ายกัน ทุกครั้งที่ออกคอลเล็กชั่นเราก็คุยกันแล้วว่ามันจะไม่ใช่การถูกบังคับให้ออก เพราะเราออกแค่ปีละสองคอลเล็กชั่นเอง เพราะฉะนั้นก่อนที่จะออกมันจะต้องมาจากความที่แบบอยากลองทําอันนี้ ไม่เคยทําอันนี้เลย อยากเห็นอันนี้ อะไรอย่างงี้ค่ะ ผลงานที่ออกมามันก็เลยแบบ เราค่อนข้างว่ามันดี อันนั้นน่าจะเป็น Core ของแบรนด์ บวกกับ เราก็ Develop เรียนรู้จากสิ่งที่เราทําไปเรื่อย ๆ Style เราก็พัฒนาขึ้นไปเรื่อย ๆ

 

คำแนะนำที่ฝากให้กับผู้ประกอบการ SME

คุณมิน : ต้องหาจุดแข็งของตัวเองให้เจอว่าจุดแข็งของเราคืออะไรเพื่อให้เราอยู่ในตลาดได้โดยที่เราไม่รู้สึกทรมาน เพราะว่าอุปสรรคในการทําธุรกิจมันเยอะแต่ถ้าเรารู้สึกว่าเราชอบมันก็จะรู้สึกอยากแก้ปัญหาค่ะ หรืออยากให้ดูว่าธุรกิจที่เรากําลังจะทําไม่ได้ไปเบียดเบียนหรือรบกวนใคร เรามีปัญหาเรื่องของก๊อปปี้ใช่ไหมค่ะ มันก็มีทั้งเจ้าที่รู้ว่าตั้งใจก็อปปี้กับเจ้าที่ไม่รู้ตัวว่ากําลังก็อปปี้อยู่ เพราะฉะนั้นก็อยากให้สํารวจด้วยว่าในตลาดเดียวกันหรือว่าธุรกิจของเราเบียดเบียนใครรึเปล่าหรือทําให้ใครเดือดร้อนรึเปล่า

 

 

 

 

บทความแนะนำ