กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (Department of Business Development - DBD)

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (Department of Business Development - DBD)

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เป็นหน่วยงานที่มีภารกิจด้านการส่งเสริม พัฒนาธุรกิจ รวมทั้งงานจดทะเบียน, งานส่งเสริมสมาคมการค้าและหอการค้ามาจากกรมการค้าภายใน นอกจากนั้นยังมีภารกิจใหม่คือการส่งเสริมธุรกิจบริการและพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มาทำการปฏิบัติอย่างผสมผสานพร้อมกับภารกิจเดิม ที่เป็นงานด้านจดทะเบียนธุรกิจ การกำกับดูแลธุรกิจ และการให้บริการธุรกิจ

บริการจากทางศูนย์

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้มีการเปิดให้บริการต่าง ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์จำนวน 4 ด้าน ได้แก่

-การจดทะเบียนธุรกิจ โดยการให้บริการจดทะเบียนธุรกิจ สามารถขอรับบริการผ่านทางเว็บไซต์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าที่ www.dbd.go.th ได้อย่างครบวงจร ตั้งแต่การจองชื่อนิติบุคคลออนไลน์, การจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Registration), การจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ (e-Secured), และการเชื่อมโยงข้อมูลการออกหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวที่ได้รับการส่งเสริมจาก BOI (e-Foreign Certificate)

-การขอข้อมูลธุรกิจ การให้บริการข้อมูลธุรกิจ ครอบคลุมการให้บริการข้อมูลแก่ภาคธุรกิจและประชาชนในด้านต่างๆ ได้แก่ การให้บริการหนังสือรับรอง, การรับรองสำเนานิติบุคคลผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งในรูปแบบของเอกสารและอิเล็กทรอนิกส์ไฟล์ (e-Service / e-Certificate / e-Certificate File), การให้บริการคลังข้อมูลธุรกิจ (DBD Data Warehouse+) ผ่านทางเว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน DBD e-Service ทั้งระบบ Android และ IOS

-การส่งงบการเงิน การให้บริการด้านงบการเงินของนิติบุคคล ได้แก่ การให้บริการนำส่งงบการเงินและสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing) ซึ่งบริษัทจำกัดและบริษัทมหาชนจำกัด สามารถจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี ผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ได้ เสมือนการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปีที่ได้เดินทางไปยังสถานที่จัดประชุม 

หรือหากบริษัทใดที่ยังไม่ได้จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ก็สามารถจัดประชุมผู้ถือหุ้นผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ได้ และเมื่อดำเนินการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว นิติบุคคลสามารถนำส่งงบการเงินผ่านระบบ DBD e-filing ของกรมฯ เพื่อความสะดวกรวดเร็ว และสร้างความเชื่อมั่นให้กับคู่ค้าทางธุรกิจ ซึ่งสามารถนำข้อมูลที่ได้นำส่งไปใช้ประโยชน์ต่อไปได้ในเชิงธุรกิจ

-การส่งเสริมพัฒนาธุรกิจ การให้บริการส่งเสริมธุรกิจ ครอบคลุมธุรกิจทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เช่น การให้บริการรับการอบรมออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ DBD Academy (www.dbdacademy.com) และการขอเครื่องหมายรับรองผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ DBD Registered และ DBD Verified ผ่านทาง www.trustmarkthai.com

กรมพัฒนาธุรกิจการค้านั้น มีความมุ่งหวังที่จะเป็นองค์กรภาครัฐชั้นนำ ที่จะปรับเปลี่ยนองค์กรในด้านการให้บริการดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบภายในปี พ.ศ.2570 เพื่อให้มีความสะดวก ถูกต้อง รวดเร็ว และทันสมัย ตอบโจทย์ และเข้าถึงประชาชน ได้อย่างทั่วถึง

และมุ่งหวังที่จะสร้างพลังขับเคลื่อนธุรกิจไทยโดยบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนร่วมกับการใช้นวัตกรรมเพื่อผลักดันศักยภาพของผู้ประกอบการไทยทุกระดับ ให้เข้มแข็ง แข่งขันได้ ตั้งแต่ระดับรายย่อย (MSME) ขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ขนาดใหญ่ (SML) พร้อมรับการแข่งขันและการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้อย่างยั่งยืน

 

ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า

ที่อยู่: 563 ถ.นนทบุรี ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000

โทร : 0 2528 7600

โทรสาร : 0 2547 4459

อีเมล : secretary@dbd.go.th 

เว็บไซต์ : dbd.go.th

 

สำหรับช่องทาง SME ONE เพิ่มเติม
Facebook: SMEONE
Youtube: SMEONE
Line: @smeone

บทความแนะนำ

E-Book บทสัมภาษณ์ผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ

E-Book บทสัมภาษณ์ผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ


ทุกความสำเร็จล้วนมีที่มา เราได้รวบรวมบทสัมภาษณ์แบบเจาะลึกทุกแง่มุมของผู้ประกอบการ SME เป็นเรื่องราวจากประสบการณ์จริงของผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ ในหลากหลายธุรกิจทั่วประเทศไทย ให้คุณสามารถนำเรื่องราวไปเป็นแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจ ได้เรียนรู้เทคนิคและสามารถนำไปปรับใช้ ปั้นธุรกิจของคุณให้เติบโตไปได้ไกลยิ่งขึ้น

อ่านเพิ่มเติมบน E-Book :E-Book บทสัมภาษณ์ผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ

บทความแนะนำ

E-Book รวบรวมข้อมูลศูนย์บริการหน่วยงานของภาครัฐ และเอกชน

E-Book รวบรวมข้อมูลศูนย์บริการหน่วยงานของภาครัฐ และเอกชน

 

หากคุณอยากพัฒนาต่อยอดหรือขยายโอกาสทางธุรกิจแต่ไม่รู้จะปรึกษาใครดี เราได้รวบรวมข้อมูลส่วนหนึ่งของศูนย์บริการหน่วยงานจากภาครัฐ และเอกชน ที่พร้อมช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs ทั่วประเทศไทย ซึ่งแต่ละหน่วยงานต่างมีความเชี่ยวชาญและความถนัดเฉพาะด้าน ซึ่งสามารถให้คำปรึกษาทั้งแก่ผู้ประกอบการได้อย่างเจาะลึก ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบมือใหม่ ที่เพิ่งเริ่มต้นทำธุรกิจ ไปจนถึงผู้ประกอบการที่ต้องการพัฒนาธุรกิจของคุณให้ต่อยอดไปได้ไกล และยั่งยืนมากยิ่งขึ้น

อ่านเพิ่มเติมบน E-Book : รวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานของภาครัฐและเอกชน

 

บทความแนะนำ

สมอ. ยกระดับมาตรฐานเพิ่มศักยภาพธุรกิจ ช่วยให้ SMEs เข้าถึงตลาดใหม่ทั้งในและต่างประเทศ

สมอ. ยกระดับมาตรฐานเพิ่มศักยภาพธุรกิจ

ช่วยให้ SMEs เข้าถึงตลาดใหม่ทั้งในและต่างประเทศ

 

มาตรฐานถือเป็นเครื่องมือเชิงกลยุทธ์เพื่อช่วยลดข้อผิดพลาดและเพิ่มผลผลิตในการจัดส่งงาน ในเวลาเดียวกันมาตรฐานช่วยให้ธุรกิจระบุวิธีการลดต้นทุนและการประกันคุณภาพที่สร้างขึ้น แต่เหนือสิ่งอื่นใดมาตรฐานสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคที่มีต่อสินค้า ทั้งยังช่วยธุรกิจในการเข้าถึงตลาดใหม่ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ในฐานะสถาบันมาตรฐานแห่งชาติ ให้ความสำคัญต่อการขับเคลื่อนสินค้าและบริการให้เป็นที่ยอมรับและแข่งขันได้ในระดับสากล โดย สมอ. มีภารกิจด้านการส่งเสริมผู้ประกอบการให้มีศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้า โดยใช้มาตรฐานเป็นเครื่องมือสำคัญในการดำเนินธุรกิจ สร้างการยอมรับและสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค ตลอดจนคุ้มครองผู้บริโภคให้ปลอดภัยจากการใช้สินค้า 

มาตรฐานของ สมอ. จึงเป็นเหมือนเครื่องหมายการันตีคุณภาพที่ผู้ประกอบการ SME สามารถนำไปใช้ในทางการตลาด

ทั้งนี้ มาตรฐานของ สมอ. มีหลายระดับ ตั้งแต่มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.), มาตรฐานอุตสาหกรรมเอส(มอก.เอส), มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(มอก.) เป็นต้น โดย มอก.เอส ทำขึ้นมาสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีโดยเฉพาะโดยมอก.เอส จะอยู่ระหว่าง มผช. กับ มอก. ผู้ประกอบการอาจพัฒนามาจาก มผช. แล้ว แต่ยังไม่ถึง มอก. ก็สามารถขอการรับรองในส่วนของ มอก.เอส ได้

มอก.เอส เริ่มประกาศใช้ในปี 2561 ผู้ประกอบการที่เคยได้รับใบรับรองมาตรฐาน มอก.เอส ดำเนินธุรกิจ อาทิ ที่นอนยางพารา, ดอกไม้ประดิษฐ์จากวัสดุแปรรูป, การบริการนวดและสปา, การบริการซักอบรีด, การบริการกำจัดปลวก หนูและแมลง เป็นต้น

สำหรับสถานการณ์ภาพรวมของ SMEs ปรากฏว่ามีบางรายที่ยังไม่ให้ความสำคัญกับเครื่องหมายรับรองมาตรฐาน ดังนั้น SMEs ควรเน้นเรื่องคุณภาพสินค้าให้เป็นไปตามมาตรฐาน เพราะบางครั้งกระบวนการผลิตของ SMEs ยังเป็นแบบพื้นๆ ทั่วไป และการรักษาคุณภาพยังไม่สม่ำเสมอ 

นอกจากนี้การเข้าสู่กระบวนการเพื่อขอการรับรองด้านคุณภาพยังทำให้ SMEs สามารถควบคุมคุณภาพสินค้าในการผลิตให้อยู่ภายใต้มาตรฐานเดียวกัน แม้ SMEs นั้นจะพัฒนาสินค้ารุ่นใหม่ออกสู่ตลาดก็ตาม ทำให้ผู้บริโภครับรู้ได้ว่าสินค้าของ SMEs รายนั้นๆ ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องรองรับเทรนด์หรือความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป

ยกตัวอย่าง เช่น หาก SMEs ผลิตสินค้าและพัฒนาจาก มผช. ไปสู่ มอก.เอส พัฒนาต่อให้ได้ มอก. และต่อไปถึงมาตรฐานสากล เป็นต้น

ในปัจจุบันเทรนด์ของการมาตรฐานให้ความสำคัญกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตามหลักการ BCG Model ได้แก่ เศรษฐกิจชีวภาพ (Bioeconomy) เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) มุ่งยกระดับไปสู่ระบบการผลิตสมัยใหม่ที่ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า เพื่อรักษาความมั่นคงทางวัตถุดิบและความสมดุลของสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ สมอ.ได้กำหนดมาตรฐานเรื่องเศรษฐกิจหมุนเวียนแล้ว โดย SMEs ควรปรับตัวเรื่องกระบวนการผลิต เน้นกระบวนการนำวัตถุดิบกลับมาเวียนใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อลดปริมาณของเสียให้ได้มากที่สุด รวมถึงเรื่อง Green การผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดย SMEs อาจหมุนเวียนใช้ผลิตภัณฑ์ เช่น กล่อง หรือสิ่งของอื่นๆ หรืออย่างน้อยๆ SME ช่วยในเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม ทำกระบวนการให้เป็น Green

จะเห็นได้ว่า ผู้ประกอบการจำเป็นต้องติดตามเทรนด์การมาตรฐานที่เปลี่ยนแปลงไป และพัฒนาไม่หยุดนิ่งเพื่อสร้างการยอมรับแก่ผู้บริโภคและสังคม เพราะนอกจากคุณภาพมาตรฐานแล้ว อีกเรื่องสำคัญสำหรับ SMEs คือเรื่องการตลาดดิจิตอลและโซเซียล มีเดีย โดย SMEs ควรเรียนรู้เรื่องสื่อดิจิตอล เพื่อทำให้สินค้าและบริการเป็นที่รู้จักและยอมรับ สมอ. จึงมีโครงการต่างๆ เพื่อให้ความรู้และพัฒนาผู้ประกอบการทั้ง OTOP, SME เกี่ยวกับสื่อดิจิตอล การตลาด การขายออนไลน์ เป็นต้น 

สรุปได้ว่า คุณภาพและมาตรฐานสินค้าบริการ บวกกับการตลาดในยุคดิจิตอล จะเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับผู้ประกอบการ SME ที่ต้องการสร้างความสามารถเชิงแข่งขันต่อไปในอนาคต

 

สำหรับช่องทาง SME ONE เพิ่มเติม
Facebook: SMEONE
Youtube: SMEONE
Line: @smeone

บทความแนะนำ

“ทีเส็บ” ผลักดันนวัตกรรมและเทคโนโลยี หนุน SMEs ต่อยอดธุรกิจไมซ์ให้ยั่งยืนในอนาคต

“ทีเส็บ” ผลักดันนวัตกรรมและเทคโนโลยี หนุน SMEs

ต่อยอดธุรกิจไมซ์ให้ยั่งยืนในอนาคต

 

            ทีเส็บเล็งเห็นถึงความสำคัญของธุรกิจในทุกภาคส่วนมาโดยตลอดและได้มีการดำเนินงานเพื่อช่วยเหลือกลุ่ม SMEs มาอย่างต่อเนื่อง โดยมีการสนับสนุนตั้งแต่การสร้างฐานข้อมูล ส่งเสริมและพัฒนาตลาด สนับสนุนเงินทุน รวมถึงการให้องค์ความรู้

คุณจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวว่า  เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ SMEs ในธุรกิจไมซ์สามารถนำข้อมูลหรือความรู้จากโครงการต่างๆ ที่ทางทีเส็บสนับสนุนไปใช้ให้เกิดประโยชน์และมีประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ในการดำเนินธุรกิจ อาทิ โครงการ MICE Winnovation: Winning with the Innovation

“โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับการจัดงานไมซ์ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี เป็นโครงการสนับสนุนผู้ประกอบการไมซ์แบบครบวงจรในการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ในการจัดงานไมซ์อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดผลลัพธ์จริงที่ตอบโจทย์แต่ละธุรกิจและองค์กร ทั้งการจัดทำแหล่งรวบรวมข้อมูลนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ใช้ในอุตสาหกรรมไมซ์มาเชื่อมโยงเป็น Marketplace เพื่อให้ผู้ประกอบการ SMEs ไทยในธุรกิจไมซ์ได้พบปะกับผู้ให้บริการด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี เป็นการสร้างเครือข่ายธุรกิจส่งเสริมให้ผู้ประกอบการสามารถต่อยอดธุรกิจให้มีความแตกต่างเหนือคู่แข่งและมีความเป็นสากลมากยิ่งขึ้น การสนับสนุนเงินทุนด้านการตลาด การจัดหาเวทีพบปะเจรจาธุรกิจ และการให้องค์ความรู้เพื่อให้เกิดการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีดังกล่าวไปใช้งานได้จริงเป็นการเตรียมความพร้อมของผู้ประกอบการต่อการเปลี่ยนแปลงในทุกมิติของการทำธุรกิจทั้งในปัจจุบันและอนาคต”

ทั้งนี้แนวทางการดำเนินงานของโครงการ MICE Winnovation มี 4 กิจกรรมหลัก คือ

  • MICE Innovation Catalog แพลตฟอร์มออนไลน์ที่รวบรวมผู้ให้บริการด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี (Tech Entrepreneurs) ครอบคลุม 10 ประเภทเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับไมซ์ ซึ่งปัจจุบันมีผู้ให้บริการด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เหมาะกับอุตสาหกรรมไมซ์เข้าร่วมบนแพลตฟอร์มดังกล่าวเป็นจำนวน 70 นวัตกรรม จาก 60 บริษัท และในปีนี้คาดว่าจะมีบริษัทผู้ให้บริการด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้าร่วมเพิ่มเป็น 100 นวัตกรรม จาก 70-80 บริษัทสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://innocatalog.tceb.or.th/
  • MICE Technomart กิจกรรมเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจและแสดงศักยภาพของผู้ให้บริการด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี (Tech Entrepreneurs) ผ่านการจับคู่ทางธุรกิจ (Business Matching) และการนำเสนอผลงานบริการให้กับผู้ประกอบการไมซ์ด้านต่างๆ ในทุกภูมิภาค
  • MICE Inno-Voucher มุ่งส่งเสริมให้ผู้ประกอบการนำนวัตกรรมไปใช้ในการจัดงานโดยจับคู่กับผู้ให้บริการด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี (Tech Entrepreneurs) ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ MICE Innovation Catalog เพื่อขอรับการสนับสนุนจากทีเส็บในรูปแบบคูปองนวัตกรรม
  • MICE Digital Literacy of MICE พื้นที่แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมไมซ์ในหัวข้อที่น่าสนใจกับวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ ผ่านการพูดคุย และกิจกรรมเวิร์คชอปทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์

 

อีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่พร้อมให้บริการกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ในธุรกิจไมซ์ คือ Thai MICE Connect เป็นแพลตฟอร์มเชื่อมโยงธุรกิจและผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมไมซ์ผ่านการรวบรวมฐานข้อมูลสินค้า บริการ สถานที่ บริษัท ในทุกรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมไมซ์ทั้งหมดให้เข้าถึงง่ายภายในเว็บไซต์เดียว ซึ่งทีเส็บได้พัฒนาจนสามารถเรียกได้ว่าเป็น e-Marketplace ของธุรกิจไมซ์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดครั้งแรกของไทย (www.thaimiceconnect.com)

            โดยปัจจุบันมีข้อมูลจากผู้ประกอบการที่เข้าร่วมอยู่ใน Thai MICE Connect แล้วกว่าหมื่นราย โดยข้อมูลต่างๆในแพลตฟอร์มนี้แบ่งออกเป็น 12 หมวดหมู่ คือ สถานที่จัดงาน ออแกไนเซอร์ ท่องเที่ยว/นำเที่ยว ที่พัก อาหารและเครื่องดื่ม บริการสำหรับผู้จัดงาน ธุรกิจบริการอื่น ๆ วิทยากร โชว์/การแสดง ร้านค้า/สินค้า โลจิสติกส์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (ภาครัฐ/สมาคม) เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการสามารถวางแผนการจัดกิจกรรมไมซ์ได้ง่ายขึ้น เพียงกรอกรายละเอียดเพื่อค้นหาสถานที่จัดงาน และบริการได้ตามประเภทธุรกิจ หรือจะเลือกจากรูปแบบกิจกรรมที่ต้องการจัด ระบบจะประมวลผลจับคู่ธุรกิจอัตโนมัติให้ทันที และยังพูดคุยผ่านแชตหรือวิดีโอคอลกับผู้ประกอบการได้โดยตรง อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ให้ผู้ใช้งานได้รับรู้ข่าวสารในแวดวงไมซ์แลกเปลี่ยนความคิดเห็น รวมถึงการนำเสนอโปรโมชั่นต่างๆ ได้อีกด้วย

            แพลตฟอร์ม Thai MICE Connect จึงเปรียบเสมือนศูนย์กลางรวบรวมข้อมูลจากทั้งแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือในภาษาไทยและภาษาอังกฤษที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการไมซ์ ผู้จัดงาน ผู้เข้าร่วมงาน ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

สำหรับผู้ประกอบการและผู้ที่สนใจเข้าร่วม Thai MICE Connect สามารถสมัครเป็นสมาชิกผ่านทาง www.thaimiceconnect.com โดยเลือกได้ว่าจะใช้อีเมล Faceboook, Line หรือเบอร์โทรศัพท์ในการสมัครซึ่งแพลตฟอร์มนี้จะช่วยเพิ่มช่องทางการโปรโมตธุรกิจของสมาชิกที่เป็นผู้ประกอบการไมซ์ทุกภาคส่วนให้เป็นที่รู้จักเพิ่มโอกาสการขายผลิตภัณฑ์และการบริการ รวมถึงส่งเสริมการจัดงานไมซ์ในประเทศ สร้างรายได้ และสร้างการจ้างงานจากการจัดงานไมซ์ โดยผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมและอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Error! Hyperlink reference not valid. เฟซบุ๊ก www.facebook.com/ThaiMICEConnect/ ไลน์ @thaimiceconnect หรือสอบถามข้อมูลได้ที่ 02-021-5515 (ไม่มีค่าธรรมเนียมการใช้งาน)

นอกจากนี้ ทีเส็บยังมีโครงการอบรมต่างๆ ที่เป็นประโยชน์เพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ในธุรกิจไมซ์อย่างต่อเนื่อง เช่น การอบรมมืออาชีพด้านการจัดงานอย่างยั่งยืนวันที่ 23-24 พฤษภาคม ที่โรงแรม เดอะ สุโกศล กรุงเทพฯ และจัดในรูปแบบออนไลน์ วันที่ 4 มิถุนายน-19 สิงหาคม ซึ่งดำเนินการจัดอบรมโดยฝ่ายพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมไมซ์ การอบรมออกแบบเมนูอาหารเพื่อสุขภาพเชิงสร้างสรรค์ หรือ The Creative Healthy Food Design วันที่ 26พฤษภาคม ที่จังหวัดสงขลา การอบรมการตลาดออนไลน์แก่บุคลากรภาคการท่องเที่ยวเกาะสมุย วันที่ 25 มิถุนายน ที่สุราษฏร์ธานี และการอบรมผู้ประกอบการ Digital Marketing สู่การปรับตัวอย่างมืออาชีพวันที่ 19 กรกฎาคม ที่จังหวัดสงขลา ซึ่งดำเนินการจัดอบรมโดยสำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการภาคใต้ เป็นต้น

ทีเส็บได้ดำเนินการจัดทำโครงการและกิจกรรมต่างๆ มากมายที่พร้อมสนับสนุนและสรรหาองค์ความรู้ใหม่ๆ มามอบให้ผู้ประกอบการ SMEs ในธุรกิจไมซ์อย่างต่อเนื่องเพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ อัปเดตข่าวสารและเผยแพร่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมไมซ์เพื่อให้ผู้ประกอบการนำไปต่อยอดในการดำเนินธุรกิจ อาทิ

ศูนย์ข้อมูล MICE Intelligence Center บนเว็บไซต์ www.businesseventsthailand.com โดยเป็นศูนย์ข้อมูลที่รวบรวมเกี่ยวกับเรื่องเทรนด์และองค์ความรู้เกี่ยวกับอุตสาหกรรมไมซ์ในมิติต่างๆ ของประเทศไทยและต่างประเทศ ผ่านการนำเสนอเนื้อหาภาพรวมและโอกาสทางธุรกิจของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมไมซ์ที่น่าเชื่อถือในรูปแบบบทวิเคราะห์ที่กระชับเข้าใจง่ายและน่าสนใจทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เช่น ข้อมูลบทวิเคราะห์ความเคลื่อนไหวในภาคอุตสาหกรรม (Real Sectors Analysis) แนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติ (S-Curve) สถิติตัวเลขนักเดินทางไมซ์ที่เข้ามาในประเทศไทยโดยแบ่งเป็นรายประเทศ รายได้ในการใช้จ่ายต่อคนต่อทริป จำนวนงานไมซ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละปี และการคาดการณ์ตัวเลขในอนาคตที่นำเสนอในรูปแบบ Interactive Dashboard รวมถึงข้อมูลนวัตกรรมและเทคโนโลยีจากทีเส็บ เพื่ออำนวยความสะดวกในด้านข้อมูลดังกล่าวให้กับผู้ประกอบการ SMEsในธุรกิจไมซ์สามารถนำไปใช้วางแผนการดำเนินธุรกิจ ตลอดจนการต่อยอดธุรกิจที่นำไปสู่การยกระดับการจัดงานไมซ์ของผู้ประกอบทุกรายได้ ซึ่งปัจจุบันมีผู้เข้าใช้บริการศูนย์ข้อมูลดังกล่าวแล้วกว่า 1.4 ล้านคน

อีกทั้ง ยังมีการจัดทำระบบการเก็บข้อมูลอุตสาหกรรมไมช์ในรูปแบบไฟล์ดิจิตัลและหนังสือดิจิตัล โดยรวบรวมในลักษณะห้องสมุดอิเลคทรอนิกส์ ที่เรียกว่า TCEB E-Library ซึ่งเป็นแหล่งเผยแพร่ข้อมูลต่างๆ ที่ทีเส็บได้จัดทำขึ้น เช่นวารสาร MICE Guru by TCEB โบว์ชัวร์ผลิตภัณฑ์ไมซ์ในเส้นทางต่างๆ เป็นต้น เพื่อให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ในธุรกิจไมซ์ตลอดจนผู้ที่มีความสนใจในอุตสาหกรรมไมซ์ได้เข้ามาศึกษาค้นคว้าข้อมูลดังกล่าวได้ง่ายยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรม MICE Intelligence Talk 2022 ซึ่งจัดเป็นสัมมนาพิเศษร่วมกับวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้กลุ่ม Startup และผู้ประกอบการ SMEs ในยุค New Normal ทั้งในกรุงเทพฯ และภูมิภาค ได้เพิ่มพูนทักษะความรู้ ความสามารถในการนำข้อมูลหรือความรู้ใหม่ๆ ไปพัฒนาและเตรียมความพร้อมการจัดกิจกรรมไมซ์ในอนาคตต่อไปได้ โดยทีเส็บได้ดำเนินการจัดกิจกรรมดังกล่าวไปแล้วในกรุงเทพฯ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และในส่วนของภูมิภาคจัดที่จังหวัดขอนแก่นเดือนพฤษภาคม และจังหวัดภูเก็ตเดือนมิถุนายน

ทุกท่านสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/miceinthailand หรือ https://www.businesseventsthailand.com

 

บทความแนะนำ