ชีวาดี ภูมิปัญญาบันดาลใจ ในน้ำตาลดอกมะพร้าว
จากความชื่นชอบในรสชาติของน้ำตาลมะพร้าว ซึ่งเป็นเคล็ดลับที่ทำให้อาหารไทยอร่อย กลมกล่อม สู่การสังเกตเห็นคุณสมบัติพิเศษและประโยชน์มากมายจากทรัพยากรพื้นบ้านอันมีค่า นอกจากรสชาติที่อร่อยแล้ว นำมาสู่การผสมผสานนวัตกรรมและการต่อยอดเป็นสินค้า สมกับชื่อบริษัท ชีวาดี คือ ชีวิตดี โดยมีแนวคิดที่ว่าหากชีวิตเราดีนั้น ต้องมาจากสิ่งแวดล้อมที่ดีด้วย
เห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น
ภูมิปัญญาชาวบ้านในสมัยโบราณมีการใช้น้ำตาลมะพร้าวในการทำอาหาร เพราะมีรสชาติหวานละมุน มีลักษณะเป็นก้อน เมื่อโดนความร้อนจะละลายเหนียวเหนอะหนะ หลังจากที่คุณสารภี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชีวาดี โปรดักส์ จำกัด เคยเห็นคุณพ่อซึ่งเป็นเบาหวานพกน้ำตาลมะพร้าวในกระเป๋ากางเกงแล้วละลายเลอะเทอะ จึงได้มีความคิดที่จะผลิตคิดค้นน้ำหวานดอกมะพร้าว แบบเป็นน้ำ มีความหวานมาจากดอกมะพร้าว ลักษณะคล้ายน้ำผึ้ง ซึ่งใช้ง่าย ให้เป็นสินค้าท้องถิ่นจากชุมชน
ครั้งหนึ่งได้ไปเที่ยวชุมชนน้ำตาลมะพร้าว ได้เห็นชาวบ้านผลิตน้ำตาลดอกมะพร้าว และสังเกตเห็นจุดบกพร่อง รวมถึงจุดที่สามารถพัฒนาได้ จึงเริ่มศึกษาจนพบคุณสมบัติในองค์ประกอบทางสารอาหารจากน้ำตาลดอกมะพร้าว ที่มีผลดีต่อผู้เป็นเบาหวาน
จากความสนใจในน้ำตาลดอกมะพร้าวและชุมชนน้ำตาลมะพร้าว ทางชีวาดีจึงมีแนวคิดที่จะเปลี่ยนน้ำตาลดอกมะพร้าวให้เป็นสินค้าที่ไม่อยู่แค่ในครัว แต่สามารถทำเป็นสินค้าไลฟ์สไตล์ ให้รู้สึกว่า เกิดความสง่างามในการใช้สินค้า และช่วยให้ชีวิตสะดวกสบายได้มากขึ้น
พลิกฟื้นภูมิปัญญาที่สูญหาย
ในวันที่ ชีวาดี ตั้งมั่นจะเข้าไปศึกษาชุมชนสวนมะพร้าว พบว่าน้ำหวานดอกมะพร้าว มาจากส่วนดอกมะพร้าวใช้การปาดน้ำออกมาโดยวิถีโบราณซึ่งมีกรรมวิธีที่ยาก และมีราคาแพง ซึ่งชาวบ้านบอกว่าไม่มีทางทำได้เพราะไม่มีใครทำแล้ว ธุรกิจนี้ได้ตายไปแล้ว เพราะไม่มีใครให้ราคาของคนทำงานลักษณะนี้ ชาวบ้านจึงเข้าเมืองไปทำงานเป็นลูกจ้าง แต่เมื่อได้ทำการลงพื้นที่สำรวจก็พบว่าบ้านทุกหลังนำน้ำหวานดอกมะพร้าว ผสมเข้ากับสิ่งให้ความหวานอื่นๆ ลงไปด้วย เพื่อทำเป็นน้ำตาลที่ราคาไม่สูง ให้ผู้คนยอมจ่ายเงินซื้อ
ชีวาดีจึงเกิดประกายในใจว่าต้องให้ความรู้ความเข้าใจเรื่องคุณค่า สุขภาพ และวิถีอินทรีย์แก่ชาวบ้าน โดยรวบรวมชาวบ้านที่เกี่ยวข้องในแวดวงน้ำหวานดอกมะพร้าวจากทั้งจังหวัดสมุทรสงคราม ให้มาเป็นกลุ่มเดียวกับชีวาดี และเชิญผู้ให้ความรู้จากบริษัทในภาคส่วนอื่น ๆ มาช่วยให้ความรู้ เพื่อทำให้ชาวบ้านมีความเข้าใจ และสนใจคุณค่าในวิถีอินทรีย์อย่างแท้จริง
ครั้งแรกพังไม่เป็นไร มองให้เป็นการเรียนรู้
ชีวาดีรวบรวมผู้ผลิตชาวบ้านที่สนใจในวิถีอินทรีย์ได้เพียง 2 คน ซึ่งสามารถผลิตน้ำหวานดอกมะพร้าวที่จะนำมาทำน้ำตาลได้วันละ 6 กิโลกรัม แต่จากการที่ทางชีวาดีได้ใช้เวลาคลุกคลี เรียนรู้ร่วมกันกับชุมชน และมีวิสัยทัศน์ร่วมกัน ทำให้เกิดความรู้สึกผูกพัน และต้องการช่วยพัฒนาชุมชนให้มีชีวิตที่ดีและยั่งยืน จึงคิดที่จะพัฒนาสินค้าให้เป็นรูปแบบอุตสาหกรรม
เมื่อเริ่มติดต่อโรงงานอุตสาหกรรม ทางโรงงานขอน้ำหวานดอกมะพร้าว 600 กิโลกรัมเพื่อเริ่มผลิต จึงเริ่มชักชวนคนในชุมชนไปทีละบ้าน ให้มารวมกลุ่มกันเพื่อผลิตน้ำตาลให้ได้มากขึ้น จนสามารถผลิตน้ำหวานดอกมะพร้าวจำนวน 600 กิโลกรัม นำไปส่งโรงงานได้สำเร็จ แต่เพราะทางโรงงานไม่มีความเข้าใจในกรรมวิธี นำตาลจึงพังเป็นสีคล้ำทั้งหมด ทางชีวาดีไม่ถือโทษ โดยมองว่าเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกันกับโรงงาน และทำให้ทางโรงงานยอมเชื่อกรรมวิธีที่ทางชีวาดีได้ทดลองมา เป็นการซื้อใจอีกทางหนึ่ง
.
โมเดลธุรกิจที่เน้นความยั่งยืน
ชีวาดีทำธุรกิจด้วยความมุ่งมั่นที่จะเน้นการเสริมสร้างความแข็งแรงและยั่งยืนจากวิถีชาวบ้าน เนื่องจากเป็นบริษัทขนาดเล็ก เติบโตจากความคิดเล็ก ๆ ที่อยากให้ประเทศไทยมีนวัตกรรม และยกระดับนวัตกรรมกับภูมิปัญญาชาวบ้านให้ชุมชนอยู่ดี อย่างที่ภูมิปัญญาจากน้ำหวานดอกมะพร้าวสามารถนำมาผ่านกระบวนการทางเทคโนโลยี ต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์ได้หลากหลายรูปแบบ ทั้ง น้ำตาลดอกมะพร้าว, เครื่องดื่มไซเดอร์ดอกมะพร้าว, น้ำส้มสายชูดอกมะพร้าว, ซอสอเนกประสงค์จากมะพร้าวอินทรีย์ เป็นต้น
ช่วงแรกจึงยังไม่ทำการตลาดในเมืองไทย เนื่องจากความพร้อมด้านบุคลากรทางการตลาดยังไม่ชำนาญ จึงมุ่งเน้นไปทางสิ่งที่ชำนาญก่อน คือการพัฒนาสินค้าด้วยนวัตกรรม เนื่องจากเราต้องดูกลุ่มครอบครัวหน่วยการผลิตว่าพร้อมขยายหรือไม่ เพราะทางชีวาดีต้องการรับผิดชอบต่อสังคม และต้องการให้ผู้ผลิตจากต้นน้ำ ซึ่งคือครอบครัวหน่วยการผลิต เกิดความเติบโตมั่นคงยั่งยืนในอาชีพและในเวลาที่สมควร ต้นน้ำของชีวาดีนั้นรวมถึงคู่ค้าในต่างประเทศ จากการสำรวจคู่แข่งและทำความรู้จักกับประเทศที่สามารถทำธุรกิจร่วมกันได้ ก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้และมิตรภาพด้านสุขภาพ
ผลิตภัณฑ์จากชีวาดี (Chiwadi)
ในปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์จากชีวาดี ผลิตจากธรรมชาติ 100% ด้วยคุณสมบัติ มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ (Low Glycemic Index) และช่วยให้ผู้ป่วยเบาหวานทานได้ โดยมีกลุ่มผลิตภัณฑ์ทางด้านอาหารดังนี้
การต่อยอด โดยอิงจากหลักธรรมชาติ
นอกจากผลิตภัณฑ์อาหารแล้ว ยังต่อยอดมาสู่ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทำความสะอาด คือการทำความสะอาดผิว และการทำความสะอาดผัก เนื่องจากความสะอาดเป็นจุดแรกที่ต้องคำนึงในการทำผลิตผลิตภัณฑ์อาหาร ทุกอย่างเกิดจากความตั้งใจสังเกตเห็นเพื่อนร่วมงานมีผิวหน้าและผิวกายที่เนียนสวยงามจากกลิ่นไอของผลิตภัณฑ์อินทรีย์ที่ปราศจากสารเคมี หลังจากศึกษาค้นคว้าจึงได้พบกรดที่สำคัญตามธรรมชาติ เมื่อผ่านการยื่นขออนุญาตจากองค์การอาหารและยา จึงได้ต่อยอดมาเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เช่น
จุดมุ่งหมายในอนาคต
เริ่มที่ทำต้นน้ำให้แข็งแรง ดูแลพนักงานทุกคนเหมือนดังครอบครัว ดังนั้นต้องเสริมให้ครอบครัวยั่งยืนและทำอาชีพด้วยความซื่อสัตย์ โดยครอบครัวผู้ผลิตของชีวาดีทั้งหมดเป็นครอบครัวที่ปลอดสารเคมี ผลิตภัณฑ์ทุกอย่างจึงไม่มีสารเคมี และมีแผนจะเริ่มทำการตลาดออนไลน์ โดยใส่ใจในเรื่องของคุณค่า วิถีอินทรีย์ และ ประโยชน์ต่อสุขภาพ อย่างจริงใจที่สุด เหมือนกับตอนทำผลิตภัณฑ์ เพราะอยากจะใกล้ชิดผู้บริโภคมากขึ้น
ผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์ของชีวาดีสามารถติดต่อได้ที่
บริษัท ชีวาดี โปรดักส์ จำกัด
59 อาคารพิทักษ์ (ห้อง 104) หมู่ 6 ถ.ศรีนครินทร์ ต.บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ 10270
โทร. 089 969 9825 ติดต่อ คุณสมเกียรติ เจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด
Email: info.chiwadi@gmail.com
Facebook: www.facebook.com/chiwadiproducts/
Line: chiwadi01
สำหรับช่องทาง SME ONE เพิ่มเติม
Facebook: SMEONE
Youtube: SMEONE
Line: @smeone
“เอื้ออารีฟู้ด แปรรูปสินค้าเกษตร ให้เป็นไลฟ์สไตล์”
เพราะอาหารทั่วโลกให้ความสำคัญกับสิ่งเสริมเติมแต่งรสชาติ ไม่เว้นแม้กระทั่งในประเทศไทย รสชาติของอาหารไทยมีความจัดจ้าน เครื่องปรุงวัตถุดิบพืชผลเกษตรไทย นั้นเต็มไปด้วยรสชาติที่ต่างประเทศไม่มี เช่น กระเทียมไทย ที่จัดว่าเป็นกระเทียมที่มีรสสัมผัสเป็นเอกลักษณ์ หาไม่ได้จากที่ไหนในโลก
บริษัท เอื้ออารี ฟู้ด โปรดักท์ จำกัด ดำเนินกิจการเกี่ยวกับเครื่องเทศและเครื่องปรุงรส รวมถึงเครื่องเคียงในอาหาร ด้วยมาตรฐานในด้านความสะอาด และมาตรฐานในระบบมาตรฐานสากล ดำเนินงานภายใต้ความรับผิดชอบต่อผู้บริโภค สังคมและสิ่งแวดล้อม ด้วยแนวคิดที่อยากสร้างผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตร ที่ช่วยตอบโจทย์ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น และช่วยยกระดับมาตรฐานสินค้าเกษตรของไทยและให้บริการที่ดีที่สุด
.
จากตลาดสด สู่ระบบโรงงาน
แรกเริ่มตั้งต้นกิจการตั้งแต่รุ่นพ่อ อยู่ที่ปากคลองตลาดมา 50 ปี ทำธุรกิจขายของเล็ก ๆ น้อย ๆ จำพวกผัก พริกมาบดขาย ในสมัยก่อนนั้นคั่วกันแบบบ้าน ๆ ใส่ถุงไปขายลูกค้าตามตลาดสด หลังจากคุณพ่อเสีย คุณฉัตรชัย วชิระเธียรชัย ในวัย 18 ปี ได้ใช้ชีวิตอยู่ในตลาดขายพืชผักย่านทรงวาด จึงมีโอกาสได้เห็นความเคลื่อนไหวของการซื้อขายกระเทียมในตลาดอยู่ตลอด จนสังเกตเห็นว่ากระเทียมนั้นถูกส่งเข้ามาเป็นคันรถ แต่ขายหมดเกลี้ยงในเวลาไม่นาน จึงเริ่มทำการซื้อกระเทียมมาเปิดหน้าร้านขาย 24 ชั่วโมง เมื่อขายไปขายมาก็พบว่า กระเทียมลูกใหญ่เป็นขนาดที่ลูกค้าตลาดสดไม่ต้องการ ทำให้เริ่มคิดหาหนทางจัดการวัตถุดิบวิธีใหม่ ๆ โดยใช้กระเทียมที่ยังขายไม่ออก ด้วยการติดต่อส่งกระเทียมลูกใหญ่เข้าโรงงานอุตสาหกรรม โดยยอมขายขาดทุน เพื่อระบายสินค้าให้หมด แต่กลับได้รายการสั่งซื้อสินค้าอื่นๆ จากทางโรงงานกลับมาด้วย และนี่ได้กลายมาเป็นจุดเริ่มต้นในการส่งวัตถุดิบกระเทียมเข้าสู่ระบบโรงงานอุตสาหกรรม ต่อยอดให้ทางร้านมีรายการสั่งซื้อใหม่ ๆ สร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอ
.
แตกไลน์ตามฝัน สู่สินค้าระดับมาตรฐาน
เพราะมีความฝัน จากเวลาที่ไปร้านสุกี้ แล้วสังเกตเห็นว่าทุกโต๊ะกินกระเทียม จึงเกิดความคิดที่จะนำกระเทียมไปเสนอลูกค้ากลุ่มร้านอาหารที่มีการใช้กระเทียม และมีสาขาหลายแห่ง เมื่อคิดได้แล้วจึงโทรไปเสนอขายสินค้าแต่ทางลูกค้าบอกกลับมาว่า ถ้าจะให้ใช้ กระเทียมก็ต้องมีมาตรฐาน นำไปสู่จุดเริ่มต้นของการสร้างระบบมาตรฐานมาควบคุมการผลิต โดยต้องกลับไปยกระดับตั้งแต่วิธีคิดให้กับเกษตรกร เริ่มทำห้อง แล้ววางระบบ มีโต๊ะให้นั่งคัดกระเทียม โดยควบคุมเวลา เพื่อจะได้คำนวณต้นทุนได้ทันที เป็นการสร้างวิธีคิดให้กับทีมงานก่อน แล้วจึงก็ลงมือทำ ให้เกษตรกรได้เห็นผลว่าถ้าคิดแบบนี้ลงมือทำแบบนี้แล้วจะเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนด้วยตัวเอง เมื่อรักษามาตรฐานได้ ก็ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้ในสายตาของลูกค้า
.
สังเกต สร้างโอกาส
ด้วยความชำนาญในเรื่องของกระเทียม จึงเกิดเป็นไอเดียใหม่ ที่จะทำกระเทียมพร้อมทาน จากข้อเสนอแนะของผู้บริโภคต่างชาติ ที่ไม่ชอบเปลือกกระเทียมที่กินแล้วติดฟัน นำเรื่องนี้มาใช้เป็นกรณีศึกษา ทดลองไม่ใส่เปลือกทำเป็นเนื้อกระเทียมล้วน ๆ พัฒนาขึ้นมาเป็นสินค้าส่งออกใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ลูกค้า
นอกจากนั้นยังมีการสังเกตรูปแบบไลฟ์สไตล์การกินใหม่ ๆ เพื่อนำมาต่อยอดเป็นไอเดียสินค้า เช่น คนเมืองต้องการความรวดเร็ว สะดวกมากขึ้น ประจวบกับได้เรียนรู้วัฒนธรรมญี่ปุ่น ที่มีการใช้ผงโรยข้าวเพื่อเพิ่มรสชาติเช่นเดียวกัน จึงเกิดไอเดียสินค้าผงโรยข้าวใหม่ โดยปรับรสชาติให้เข้ากับคนไทย แบ่งออกเป็น 4 ภาค 4 รสชาติ ได้แก่ ผงโรยข้าวลาบไทยอีสาน (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ), ผงโรยข้าวลาบเหนือ (ภาคเหนือ), ผงโรยข้าวคั่วกลิ้งปักษ์ใต้ (ภาคใต้), และผงโรยข้าวสไตล์ซีฟู้ด (ภาคตะวันออก)
.
ปัจจุบัน เอื้ออารี ฟู้ด ได้มีความเชี่ยวชาญทั้งในด้านการจัดหาวัตถุดิบ และในด้านการผลิตและพัฒนาสินค้าเกษตรแปรรูปประเภทเครื่องปรุงรส, เครื่องเทศ รวมถึงสินค้าอบแห้ง อีกทั้งยังมีประสบการณ์ในการพัฒนาสินค้าร่วมกับลูกค้า และรับผลิตตามความต้องการของลูกค้าอีกด้วย
โดยมีรายการสินค้าหลากหลาย กว่า 100 รายการ ครอบคลุมความต้องการในทุกประเภทธุรกิจ สามารถรองรับความต้องการของลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร เช่น
.
เอื้ออารี ฟู้ด มองการทำธุรกิจว่า วิธีคิดกับวิธีทำต้องไปพร้อมกัน เพราะว่าถ้าเกิดคิดแล้วไม่ทำ มันก็ไม่เกิด หรือถ้าเกิดทำแต่ไม่คิดก็จะมีโอกาสสูญเสีย เพราะฉะนั้นถ้าใช้วิธีคิดไปคู่วิธีทำ ก็จะเกิดผลลัพธ์ที่ชัดเจน ไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ได้สำเร็จอย่างแน่นอน
.
ผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์และบริการ สามารถติดต่อได้ที่
บริษัท เอื้ออารี ฟู้ด โปรดักท์ จำกัด
27/3 หมู่ 7 ต.ท่าจีน อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร 74000 และ
10 ถ.ราชพฤกษ์ แขวงบางจาก เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ 10160
โทร.: 02 868 4994, 02 868 6736-7
โทรสาร: 02 457 5206
อีเมล: auraree@aurareefood.com, sales@aurareefood.com
Line ID: @chefaree
สำหรับช่องทาง SME ONE เพิ่มเติม
Facebook: SMEONE
Youtube: SMEONE
Line: @smeone
Tax from Home มาตรการที่่ช่วยให้ผู้ประกอบการการจัดการภาษีง่าย ๆ เข้าถึงการทำธุุรกรรมภาษีได้ในทุุกมิติ ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ที่่ www.rd.go.th ประกอบด้วย
การลงทะเบียน e-Registration
บริการสมัครสมาชิกออนไลน์ แจ้งเพิ่ม - ลดประเภทแบบ ที่ยื่นทางอินเทอร์เน็ต ขอรหัสผ่านใหม่ เปลี่ยนรหัสผ่าน แจ้งยกเลิก และอื่น ๆ สามารถยื่นแบบผ่านอินเทอร์เน็ตแบบออนไลน์ และส่งเอกสารผ่านทาง e-mail ได้ทันที ไม่เสียเวลาเดินทางและลดโอกาสการแพร่กระจายเชื้้อโรค
การยื่นแบบ e-Filing
ขอยื่นแบบภาษีผ่านอินเทอร์เน็ต ที่สามารถทำแบบออนไลน์ และนำส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องผ่านทาง e-mail ได้ทันที ไม่จำเป็นต้องไปยื่นด้วยตนเอง พรอ้มให้คุณได้รับสิทธิพิเศษขยายเวลาการยื่นแบบและชำระภาษีออนไลน์ ออกไปอีก 8 วัน นับแต่วันพ้นกำหนดเวลายื่นแบบแสดงรายการภาษี ทำให้ธุุรกิจสามารถบริหารสภาพคล่องของกระแสเงินสดได้มีประสิทธิภาพยิ่่งขึ้้น
การชำระภาษี e-Payment
บริการนำส่งข้อมูลชำระเงิน ยื่นแบบภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ขอใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ และอื่น ๆ โดยธนาคารที่่ร่วมโครงการ จะยกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมนการใช้บริการ สำหรับแบบที่ยื่นและชำระภาษีทางอิเล็กทรอนิกส์
การคืนเงินภาษี e-Refund
บริการสอบถามข้อมูลการขอคือภาษี ภ.ง.ด.90/ภ.ง.ด.91 สำหรับผู้เสียภาษีที่่ชำระภาษีไว้เกิน กรมสรรพากรจะดำเนินการคืนเงินให้ผ่านระบบ PromptPay ที่่สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ทั้งลดปริมาณการใช้กระดาษและ Lean กระบวนงานให้คล่องตัวยิ่่งขึ้้น
รวมสิทธิลดหย่อนภาษี ที่ www.rd.go.th
ระบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation)
จากเดิมที่ผู้ทำบุุญต้องเดินทางไปบริจาคที่่หน่วยรับบริจาค โดยจะได้รับหลักฐานการบริจาคในรููปแบบกระดาษ เช่น ใบอนุุโมทนาบัตร ใบเสร็จรับเงิน หรือหนังสือขอบคุุณ เพื่่อนำมาใช้เป็นหลักฐานในการลดหย่อนภาษี แต่ระบบ e-Donation อำนวยความสะดวกให้บริจาคได้ทุุกที่ทุุกเวลา และไม่ต้องเก็บหลักฐานเป็นกระดาษเหมือนที่่ผ่านมา แต่ข้อมููลการบริจาคในระบบ e-Donation จะถููกส่งเข้าไปเก็บในฐานข้อมููลของกรมสรรพากร และเมื่่อถึงเวลายื่่นแบบฯ ประจำปี ผู้บริจาคก็สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ทันที โดยไม่ต้องนำหลักฐานมาแสดงและพิสููจน์ต่อเจ้าหน้าที่่ ซึ่่งจะทำให้ได้รับเงินภาษีคืนรวดเร็วยิ่งขึ้้น
ระบบชำระอากรแสตมป์ทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Stamp)
ในกรณีที่ต้องทำสัญญาหรือตราสารบางลักษณะ กฎหมายกำหนดให้ต้องติดอากรแสตมป์ หากมููลค่าของสัญญานั้้นเกินกว่าที่่กฎหมายกำหนด เดิมผู้ประกอบการต้องไปชำระค่าอากรแสตมป์ที่สำนักงานสรรพากร ไม่สามารถซื้้ออากรแสตมป์มาติดสัญญาได้
ปัจจุุบันกรมสรรพากรได้พัฒนาระบบชำระอากรแสตมป์ทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Stamp) ทำให้การชำระค่าอากรแสตมป์ง่าย สะดวก รวดเร็ว ลดปัญหาการคำนวณมููลค่าอากรแสตมป์ผิดพลาด 5 ประเภทของสัญญาหรือตราสารที่่สามารถชำระค่าอากรแสตมป์ผ่านระบบ e-Stamp ได้แก่ สัญญาจ้างทำของ, สัญญากู้ยืมเงินหรือการตกลงให้เบิกงินเกินบัญชีจากธนาคาร, ใบมอบอำนาจ, ใบมอบฉันทะ และสัญญาค้ำประกัน
บริการตรวจสอบสิทธค่าลดหย่นของผู้เสียภาษี (MyTax Account)
เครื่่องมืออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เสียภาษี ที่่ใคร ๆ ก็สามารถเช็กได้ง่าย ๆ เพียงปลายนิ้้ว ทำให้ช่วยลดภาระในการเก็บเอกสารของผู้เสียภาษี เสมือนกรมสรรพากรจัดเก็บเอกสารในรููปแบบดิจิทัลให้แทน จึงลดขั้้นตอนการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่่ การยื่่นแบบภาษีเงินได้บุุคคลธรรมดาและการคืนภาษีก็จะสะดวกรวดเร็วขึ้้น
จากตัวอย่างเครื่่องมือทางภาษีอากรที่่ภาครัฐให้บริการแก่ผู้ประกอบการ จะเห็นได้ว่าการพัฒนาของเทคโนโลยีช่วยให้ภาครัฐสามารถสร้างนวัตกรรมมาอำนวยความสะดวกในการให้บริการแก่ผู้ประกอบการมากขึ้้น ทำให้การทำธุุรกรรมภาษีเป็นเรื่่องง่าย สะดวก รวดเร็ว โดยไม่มีข้อจำกัดั ด้านเวลาและสถานที่่อีกต่อไป
อ่านเพิ่มเติม :
https://sme.krungthai.com/sme/previewPdf.action?fileId=85#book/
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของการทำธุรกิจ คือ “คนไม่ซื้อ” เพราะปัญหาทุกเรื่องจะยังคงสามารถแก้ไข และค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนกันไปได้ตราบใดที่สินค้าหรือบริการของเรายังขายได้อยู่ แต่ถ้าของขายไม่ได้ หรือไม่มีคนซื้อนั้นหมายความว่า “เงิน” ที่เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ของธุรกิจกำลังจะหายไป แต่นอกจากขายของได้ มีคนซื้อแล้วก็ต้องสามารถเก็บเงินได้ด้วย การที่เราจะสามารถทำให้คนซื้อของเราได้นั้น สิ่งหนึ่งที่ผมคิดว่าสำคัญมาก คือการเข้าใจพฤติกรรม (Consumer Behavior) ว่าอะไรที่ทำให้คนคนหนึ่งตัดสินใจซื้อของ มาอัปเดตกันสักนิดว่าทุกวันนี้ อะไรที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อของ ของลูกค้ากันบ้าง
รีวิว
เป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญมากในการตัดสินซื้อ ข้อมูลการสำรวจพบว่า 88% ของลูกค้านั้นเชื่อการรีวิวบนโลกออนไลน์มากพอกับการแนะนำจากคนรอบข้าง การรีวิวนั้นก็สามารถเกิดได้จากหลากหลายช่องทาง เช่น การขอลูกค้ารีวิวสินค้าของเราสั้น ๆ เพื่อแลกรับสิทธิหรือส่วนลด หรือหลาย ๆ แบรนด์เลือกที่จะจ้าง Influencer ให้รีวิวสินค้า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของรูปแบบสินค้า หรือบริการของเราด้วย
อินฟลูเอนเซอร์
จากข้อแรกที่เป็นเรื่องของการรีวิวที่หลาย ๆ แบรนด์เลือกใช้ คือ Influencer Marketing จากข้อมูลการสำรวจพบว่ากว่า 92% ของผู้ทำแบบสำรวจค่อนข้างเชื่อถือในคำแนะนำหรือการรีวิวจากบุคคลอื่น ๆ บนโลกออนไลน์ แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้จักก็ตาม หลายแบรนด์จึงเลือกที่จะพยายามส่งสินค้าให้กับเหล่า Influencer เพื่อให้พูดถึงแบรนด์ หรือสินค้าของตนเอง ซึ่งมีทั้งแบบส่งให้ลองใช้ฟรีและแบบที่ต้องจ่ายเงินเพื่อจ้างให้รีวิว
ความง่าย
แม้ว่าสินค้าและบริการนั้นจะดีมากขนาดไหน แต่ถ้าขั้นตอนในการใช้บริการนั้นเต็มไปด้วยความยุ่งยาก ก็มีแนวโน้มที่ผู้บริโภคจะตัดสินใจไม่ซื้อสินค้าหรือบริการนั้น ๆ ได้
ตัวตนของแบรนด์
ปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสำคัญกับตัวตนและจุดยืนของแบรนด์มากขึ้น เพราะแบรนด์ที่เขาเลือกใช้นั้นนอกจากซื้อเพราะต้องการใช้สินค้าแล้ว ในอีกทางหนึ่งยังเปรียบเสมือนสิ่งที่บ่งบอกตัวตนและความเชื่อของพวกเขาด้วย
ใช้ข้อมูลจากหลายแหล่งในการตัดสินใจ
ข้อนี้จะชัดที่สุดถ้าหากสินค้าหรือบริการนั้น ๆ มีราคาที่ค่อนข้างสูง หรือเป็นสิ่งที่ไม่ได้ซื้อกันบ่อย ๆ อย่าง รถ บ้าน ทริปท่องเที่ยวต่างประเทศ สินค้าเหล่านี้ผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะสอบถามจากคนรอบตัว ขอความคิดเห็นจากคนรอบข้าง ค้นหาข้อมูลจากทั้งรีวิวที่เป็นผู้ใช้จริง เพื่อนำมาใช้ในการตัดสินใจเลือกซื้อ
ท้ายที่สุดไม่ว่าแบรนด์จะสามารถทำสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ได้ดีมากแค่ไหน ก็ไม่ได้เป็นตัวการันตีความสำเร็จในระยะยาวเสมอ หากปราศจากเรื่องพื้นฐานอย่าง คุณภาพ การบริการที่ดี และที่สำคัญที่สุด สินค้าหรือบริการนั้นสามารถมาช่วยแก้ปัญหาของผู้บริโภคได้จริง ๆ หรือเปล่า
อ่านเพิ่มเติม :
www.krungsri.com/th/plearn-plearn/customers-decide-to-buy
Peggy's Cove Resort รีสอร์ตหมู่บ้านชาวประมง ที่คงความใส่ใจไว้เต็มร้อย
เมื่อความชอบกับหนทางธุรกิจ มีจุดร่วมเดียวกัน จากหมู่บ้านชาวประมงในแคนาดา ก่อกำเนิด Peggy's Cove Resort รีสอร์ตในหมู่บ้านชาวประมง ที่มีดีไซน์ที่แตกต่าง เพื่อมอบประสบการณ์การพักผ่อนแบบใหม่ให้กับลูกค้า ด้วยการใส่ใจรายละเอียดเต็มร้อยในทุก ๆ พื้นที่ ต้ังแต่กระบวนการคิด concept การเชื่อมโยงกับลูกค้า จนถึงกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้การพักผ่อนของลูกค้ามีความประทับใจที่สุด
.
จุดเด่นคือการใส่ใจรายละเอียด
Peggy’s Cove Resort เกิดขึ้นจากความต้องการสร้างรีสอร์ต บนพื้นที่ของครอบครัวที่หาดคุ้งวิมาน จังหวัดจันทบุรี ซึ่งมีหมู่บ้านชาวประมงหัวแหลมอยู่ในละแวกนั้น ทำให้เกิดความคิดที่จะหยิบ concept ของหมู่บ้านชาวประมงมาสื่อสารเล่าเรื่อง สอดคล้องกับความประทับใจในหมู่บ้านชาวประมงตะวันตก Peggy's Cove ที่สวยงามในประเทศแคนาดา จึงเป็นไอเดียสนุก ๆ ที่อยากจะนำเข้ามาไว้ที่นี่ ซึ่งได้มีการใส่ใจรายละเอียดตั้งแต่การเริ่มต้นก่อสร้าง โดยศึกษาในเรื่องของสถาปัตยกรรมอย่างจริงจังและได้มีการติดต่อสอบถามขอรายละเอียดจากทางชุมชนหมู่บ้านชาวประมงที่แคนาดาโดยตรง ว่าจะสร้างรีสอร์ตที่มีต้นแบบจากชุมชน Peggy's Cove ซึ่งทางชุมชนก็ให้ความสนใจและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ในการถ่ายทอดประสบการณ์เพื่อพัฒนารีสอร์ตให้คนไทยและคนเอเชียได้เห็น
หมู่บ้าน Peggy’s Cove มีจุดเด่นหลายอย่าง ในด้านสถาปัตยกรรม และสีสันของหมู่บ้าน ทางรีสอร์ตได้มีการใช้สีตามหมู่บ้านที่นั่นจริง ๆ มีการจำลองทะเลสาบไว้กลางหมู่บ้านให้สามารถลงไปเล่นน้ำได้ ที่สำคัญอีกสองจุดก็คือโบสถ์ประจำหมู่บ้านที่สร้างไว้เป็นล็อบบี้ และประภาคารที่เป็นร้านกาแฟ
นอกเหนือจากตัวสถาปัตยกรรมที่ถอดแบบมาจากทางแคนาดาแล้ว ยังมีการนำวัฒนธรรมหรือลักษณะของชาวประมงตะวันตกมาใช้เป็นลูกเล่นเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ลูกค้าประทับใจ เช่น แตรโบราณที่ชาวประมงสมัยก่อนจะเป่าเมื่อเรือเทียบท่า ก็นำมาทำเป็นลำโพงเซรามิคไว้ในห้องพัก ซึ่งลูกค้าชื่นชอบมาก และยังมีชุดชาวประมงตะวันตกให้ลูกค้าใส่ ทำให้ลูกค้าสนุกสนานและประทับใจจนอยากแชร์ต่อในช่องทางออนไลน์
.
ใส่หัวใจให้บริการ
ความสวยงามของรีสอร์ตเป็นแค่องค์ประกอบหนึ่ง แต่หัวใจหลักที่ทาง Peggy's Cove Resort ใส่ใจคือด้านการบริการ ด้วยแนวคิดที่ว่าสิ่งสวยงามทางสถาปัตยกรรมที่ไหนก็สร้างได้ แต่เรื่องราว และคุณค่าของเรื่องเล่าที่เราบอกต่อนั้นมีคุณค่ามากกว่าสถาปัตยกรรม Peggy's Cove Resort จึงเน้นการบริการที่ดีให้ประทับใจลูกค้า และมีการใส่เรื่องราวเพื่อเป็นสื่อกลางเชื่อมต่อลูกค้ากับพนักงาน โดยการปลูกฝังภาพลักษณ์ของแบรนด์ ให้พนักงานรู้สึกว่าลูกค้าทุกท่านคือแขกที่มาเยี่ยมหมู่บ้านจริง ๆ การต้อนรับและการดูแลได้ให้ความรู้สึกได้ว่าเจ้าของบ้านต้อนรับแขกผู้มาเยือน ด้วยความใส่ใจในรายละเอียดต่าง ๆ จะทำให้ลูกค้ารู้สึกเหมือนได้เข้าไปพักที่หมู่บ้านชาวประมง peggy’s cove ไม่ใช่แค่การไปพักที่รีสอร์ต สร้างความประทับใจให้ลูกค้าอยากบอกต่อ และอยากกลับมาใช้บริการอีก
.
สานสัมพันธ์กับชุมชน
ในช่วงหน้าร้อน ทางรีสอร์ตมีการจัด one day trip พาลูกค้าล่องเรือชมหมู่บ้านชาวประมง และไปชมปลาฉลามในโครงการของในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นการสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างชุมชนรอบ ๆ กับทางรีสอร์ต และยังมีการเช่าเรือชาวประมงหลังจากชาวประมงใช้หาปลาเสร็จ เป็นการให้รายได้เสริมแก่พวกเขา และเป็นการให้นักท่องเที่ยว ได้มาซึมซับบรรยากาศของหมู่บ้านชาวประมงที่หาดคุ้งวิมานจริงๆ ซึ่งค่าใช้จ่ายทั้งหมด ทางรีสอร์ตได้มอบให้กับทางชุมชน สิ่งที่ได้กลับมาคือวัตถุดิบจากทะเลที่สดและสะอาด แถมยังได้กิจกรรมที่สร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้แก่ลูกค้า
Peggy's Cove Resort และชาวบ้านในหมู่บ้านชาวประมง มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน เพื่อถ่ายทอดวัฒนธรรมของหมู่บ้านชาวประมง ทางรีสอร์ตก็ได้นำไปบอกเล่ารายละเอียดเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยต่อให้แก่ลูกค้า รวมถึงพนักงานในรีสอร์ตก็เป็นคนจากหมู่บ้านชาวประมงเอง จึงสามารถช่วยเหลือทางรีสอร์ตได้หลายอย่าง เช่น การแนะนำชนิดของปลาและอาหารทะเลในแต่ละช่วงฤดู ซึ่งทาง Peggy's cove มองว่า การทำเช่นนี้เมีแต่ได้ทั้งสามฝ่าย คือทั้งตัวรีสอร์ต ชาวบ้าน และลูกค้า
.
พร้อมที่จะปรับเปลี่ยน
Peggy's Cove Resort พร้อมปรับตัวและเรียนรู้จากลูกค้าไปด้วยตลอด จากการสังเกตและใส่ใจและรายละเอียดต่าง ๆ เช่น การสังเกตมุมซ้ำ ๆ ในการถ่ายรูปของลูกค้าที่แชร์ในช่องทางออนไลน์ จึงทำเป็นจุดถ่ายรูปให้ลูกค้า เพื่อเป็นมุมที่เห็นแล้วทราบได้เลยว่านี่คือ Peggy’s Cove Resort และยังเปลี่ยนมุมมองการทำการตลาดจากที่เน้นกลุ่มลูกค้าครอบครัวและคู่รัก เริ่มขยายกลุ่มเป้าหมาย โดยเลือกเน้นด้านการทำการตลาดด้วยสื่อออนไลน์และวิดีโอต่าง ๆ เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มาประชุมสัมมนา และได้มีการสร้างห้องประชุมเพิ่มเพื่อรองรับลูกค้ากลุ่มนี้เพิ่มขึ้น
.
ผู้ที่สนใจที่พักหรือบริการ สามารถติดต่อ Peggy's Cove Resort ได้ที่
Peggy's Cove Resort
หาดคุ้งวิมาน, 44 หมู่ 7,ต.สนามไชย อ.นายายอาม จ.จันทบุรี 22170
website: www.peggyscoveresort.com
Tel: 039-460345
Email: info.peggyscove@gmail.com
Facebook: www.facebook.com/peggyscoveresort
Instagram: @peggyscoveresort
Line: @peggyscove
สำหรับช่องทาง SME ONE เพิ่มเติม
Facebook: SMEONE
Youtube: SMEONE
Line: @smeone