💥นางสาวปณิตา ชินวัตร รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยผลสำรวจมุมมองภาวะเศรษฐกิจและแผนรับมือในปี 2568 ของธุรกิจ SME ซึ่งได้สอบถามผู้ประกอบการ SME จำนวน 2,696 ราย ใน 6 ภูมิภาคทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 20 – 30 พฤศจิกายน 2567💫 จากผลสำรวจพบว่า SME ร้อยละ 72.1 คาดการณ์แนวโน้มธุรกิจในปี 2568 จะทรงตัวถึงเติบโตได้ดีขึ้น เนื่องจากยังคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่อาจจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่าย แต่ยังมีปัจจัยความกังวลต่อการประกอบธุรกิจได้แก่ การทะลักของสินค้าต่างประเทศ การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ รวมไปถึงกำลังซื้อของผู้บริโภค
🌟 จากผลสำรวจระบุว่า SME มองว่า ในปี 2568 ธุรกิจสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี มีโอกาสขยายตัวมากที่สุดอยู่ที่ร้อยละ 23.5 รองลงมาคือ ธุรกิจด้านโลจิสติกส์และการขนส่ง และธุรกิจสีเขียวและความยั่งยืน เช่น ธุรกิจที่ผลิตสินค้าจากวัสดุรีไซเคิลหรือวัสดุที่ย่อยสลายง่าย ซึ่งมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง🌞 สำหรับปัจจัยที่เป็นโอกาสสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจในปี 2568 จะเปลี่ยนไปตามขนาดธุรกิจ กล่าวคือ ธุรกิจรายย่อย (Micro) ในกลุ่มธุรกิจภาคการค้าและภาคการบริการ มองว่านโยบายจากทางภาครัฐ เป็นโอกาสที่จะทำให้ธุรกิจเติบโตได้ดี แต่ธุรกิจขนาดย่อม (Small) และขนาดกลาง (Medium) โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจภาคการผลิตและภาคธุรกิจการเกษตร ให้ความสำคัญกับการนำความก้าวหน้าของเทคโนโลยีมาใช้ในการประกอบธุรกิจเพื่อเพิ่มขีดความสามารถและศักยภาพของธุรกิจ ส่วนอุปสรรคสำคัญของ SME ในการประกอบธุรกิจปี 2568 ในมุมมองของธุรกิจรายย่อย (Micro) คือ กำลังซื้อและรายได้ของผู้บริโภค หากเป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม มองว่า การขาดแคลนวัตถุดิบ ราคาต้นทุน
สินค้า/บริการ ค่าแรง เป็นอุปสรรคสำคัญในการดำเนินธุรกิจ
🔔สำหรับรูปแบบของแผนการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจในปี 2568 พบว่า รูปแบบแผนรับมือของธุรกิจรายย่อยจะเน้นการปรับโครงสร้างค่าใช้จ่ายเพื่อลดต้นทุนเนื่องจากต้นทุนในการประกอบธุรกิจเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงด้าน Marketing ที่จะเน้นการขยายตลาดผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก ส่วนธุรกิจขนาดย่อมและขนาดกลางจะให้ความสำคัญกับการปรับรูปแบบวิธีการประกอบธุรกิจเพื่อเพิ่มศักยภาพของธุรกิจ ได้แก่ การนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ มาใช้ในการผลิตหรือการบริการ การพัฒนาทักษะแรงงานให้ครอบคลุมทุกด้าน ดังนั้น SME กว่าร้อยละ 76.4 จึงต้องการลงทุนเพิ่มเติมในด้านการวิจัย ด้านการตลาดเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าและการโฆษณาผ่านช่องทางที่มีความหลากหลายมากขึ้น การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการผลิต เพื่อรับมือกับสภาวะเศรษฐกิจในปี 2568 รวมถึงกลยุทธ์สำคัญที่จะต้องปรับให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค เช่น การมุ่งเน้นการปรับปรุงคุณภาพสินค้าและบริการ การจัดโปรโมชั่น การใช้เอกลักษณ์และความแตกต่างเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าหลัก เป็นต้น
📌 ทั้งนี้ ผลการสำรวจยังระบุถึงรูปแบบของมาตรการหรือนโยบายที่ผู้ประกอบการ SME ต้องการจากภาครัฐให้ช่วยผลักดันด้านเศรษฐกิจในปี 2568 พบว่า SME กว่าร้อยละ 63 ต้องการมาตรการที่สร้างแรงจูงใจในการใช้จ่าย รวมถึงการลงทุนปรับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศและสนับสนุนปัจจัยต่าง ๆ ในการเข้าสู่ธุรกิจสีเขียว นอกจากนี้ การลดภาระต้นทุนและเพิ่มโอกาสในการแข่งขัน การสนับสนุนด้านเงินทุนและหนี้สินเพื่อรักษาสภาพคล่องธุรกิจ และการพัฒนาทักษะผู้ประกอบการและแรงงาน เป็นประเด็นสำคัญที่ SME ต้องการสนับสนุนและส่งเสริมมากที่สุด อย่างไรก็ดี สสว. มีบริการให้คำปรึกษาจากที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญจากสาขาต่าง ๆ ที่จะให้คำแนะนำ
ในการวางแผน การเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์เศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในปี 2568
ผ่าน https://coach.sme.go.th/ หรือ Application ‘SME Connext’ ที่เป็นแหล่งข้อมูลและองค์ความรู้ต่าง ๆ เพื่อช่วยสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการ SME ไทย ให้มีศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขัน
เพิ่มมากขึ้น
☎️📞สอบถามเพิ่มเติมที่ฝ่ายวิเคราะห์สถานการณ์และเตือนภัยทางเศรษฐกิจ 021429169, 021429175
📣 SMEs ไทยพร้อมหรือยัง ? กับการขับเคลื่อนสู่ความยั่งยืน 🌎
สถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (iNT) ม.มหิดล ขอเชิญชวนผู้ประกอบการ SMEs ทุกท่านเข้าร่วมงานสัมมนา 𝐌𝐚𝐡𝐢𝐝𝐨𝐥 𝐈𝐧𝐝𝐮𝐬𝐭𝐫𝐲 𝐏𝐚𝐫𝐭𝐧𝐞𝐫𝐬𝐡𝐢𝐩 𝐅𝐨𝐫𝐮𝐦 : 𝐄𝐦𝐩𝐨𝐰𝐞𝐫𝐢𝐧𝐠 𝐒𝐌𝐄𝐬 𝐟𝐨𝐫 𝐚 𝐒𝐮𝐬𝐭𝐚𝐢𝐧𝐚𝐛𝐥𝐞 𝐓𝐨𝐦𝐨𝐫𝐫𝐨𝐰 ที่จะเปิดโลกทัศน์ใหม่ในการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน !
🗓 วันพฤหัสบดีที่ 30 มกราคม 2568
⏰ เวลา 09.00 – 16.30 น.
📍 ณ ห้องแกรนด์บอลรูม, ศูนย์ประชุมมหิดลสิทธาคาร
รับฟังเสวนาจากผู้เชี่ยวชาญทุกภาคส่วน, สร้างเครือข่ายใหม่ และค้นพบแหล่งทุนที่ช่วยยกระดับธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน! 🌱
✍ รายละเอียดเพิ่มเติมและลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม ได้ที่ : https://int.mahidol.ac.th/2025/01/07/smes-for-sustainable/
#สถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยมหิดล
#สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย
#เพื่อนช่วยเพื่อนขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
#อยู่รอดอยู่เป็นอยู่เย็นอยู่ยาว
🏬 ติดตามข่าวสารและกิจกรรมดีๆเพื่อ SME ได้ที่
Line สมาพันธ์ฯ : https://lin.ee/2clvQnQ
Facebook:สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย SME Thai
โทร : 061 028 4009
📣ข่าวดีสำหรับผู้ประกอบการในจังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด นครนายก ปราจีนบุรี และสระแก้ว 🎉
🎋🌟ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 9 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม 🌟🎋
🎁ขอเชิญชวน✨️‼️
-วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)
-วิสาหกิจชุมชนหรือกลุ่ม OTOP
👩🏻🌾ที่ประกอบอาชีพเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปและอาหารแปรรูป🌱 เข้าร่วม
⛳️กิจกรรมการการยกระดับและสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูปด้วยเทคโนโลยีและนวัฒกรรม
📍สิทธิประโยชน์ที่ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับ
-การพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบ
-การพัฒนาบรรจุภัณฑ์
-มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมทดสอบตลาด / โปรโมทสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อขยายตลาดสู่เชิงพาณิชย์
-เมื่อผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการฯ มีโอกาสได้รับคัดเลือกเพื่อแข่งขันชิงรางวัล
‼️ จำกัดเพียง 10 รายเท่านั้น ‼️
🎈สมัครเลย ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย🎈
ช่องทางการสมัคร⏬️⏬️⏬️ https://forms.gle/oTuz4x8yR8Bv3DGW8
หรือสแกน QR Code เพื่อสมัครด้วยตนเอง
📞สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 0919942691 (น้องสนุ๊ก)
🔥สสว.จัดทำข้อมูลดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ SME (SME
Sentiment Index: SMESI) ประจำเดือนตุลาคม 2567 และโพลเรื่องโอกาสและความท้าทายของธุรกิจ
SME สู่เทรนด์ ESG🎈 พบว่าในเดือนตุลาคมดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการอยู่ที่ระดับ 52.2 ปรับตัวดีขึ้นและกลับสู่ระดับความเชื่อมั่น หลังจากชะลอตัวลงและอยู่ต่ำกว่าระดับความเชื่อมั่นติดต่อกัน 3 เดือน 🎈โดยมีสาเหตุมาจากแรงกระตุ้นด้านบวกทั้งจากมาตรการกระตุ้นการบริโภคกับกลุ่มเปราะบาง (เงิน 10,000 บาท) ที่มีผลตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกันยายน ส่งผลดีกับกลุ่มธุรกิจการค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภค และมีแนวโน้มการใช้จ่ายในกลุ่มสินทรัพย์คงทนบางกลุ่มเพิ่มมากขึ้น 🔔 นอกจากนี้หลายพื้นที่ยังได้รับผลบวกจากกิจกรรมการท่องเที่ยวที่เริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว รวมถึงเทศกาลงานบุญและประเพณีประจำปีในหลายพื้นที่ ซึ่งช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยที่เกิดขึ้นในระยะสั้นได้เป็นอย่างดี
🚀🚀สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ ฝ่ายวิเคราะห์สถานการณ์และเตือนภัยทางเศรษฐกิจ โทร.021429175
🔥 สสว. ได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และขนาดย่อย แบบเร่งด่วน (Quick Servey/Poll) ประชุมรับฟังความคิดเห็นกลุ่มย่อย (Focus Group) และสัมภาษณ์เชิงลึก (Depth Interview) และมีผลการศึกษาที่เป็นประโยชน์ต่องานส่งเสริม MSME จำนวน 5 เรื่อง ได้แก่
📌1. ดัชนีชี้วัดความสุขเชิงเศรษฐศาสตร์ของผู้ประกอบการ SME (SME Economic Happiness index : SME EHI)
📌2. การศึกษาอัตลักษณ์ท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและธุรกิจ SME ในพื้นที่ EEC
📌3. การศึกษาซอฟต์พาวเวอร์อีสาน
📌4. การทะลักของสินค้าต่างประเทศในประเทศไทย
📌5. แนวทางการสนับสนุนเกษตรกรไทยเพื่อก้าวสู่เกษตรอัจฉริยะ
📍โดยสรุปเนื้อหาสำคัญมาให้ผู้ที่สนใจสามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป
❄️สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ ฝ่ายวิเคราะห์สถานการณ์และเตือนภัยทางเศรษฐกิจ โทร.021429180