วิธีการสร้างลูกค้าประจำของร้านทุเรียน น้องนิดระยอง แค่เปลี่ยนการขายจาก “จ่ายก่อนแกะ” เป็น “แกะก่อนจ่าย”

 

เคยไหมที่เวลาเราซื้อผลไม้มากินที่บ้านทั้งจากตลาดสดหรือบนห้างสรรพสินค้าก็ตาม ทั้งๆที่เราเลือกเองกับมือ ผลไม้ก็ดูสวยงามไม่มีตำหนิ แต่พอกลับมาแกะกินที่บ้านแล้ว กับพบว่ารูปร่างหน้าตาและรสชาติผิดจากที่เราคาดหวังไว้ไปไกลมากๆ จากปัญหาในเรื่องดังกล่าวนี้ จึงมีผู้ประกอบการ SME บางรายที่หยิบเอาความเจ็บช้ำของผู้บริโภคมาสร้างเป็นจุดขายใหม่ แถมทำแล้วได้ผลดีเสียด้วย ตัวอย่างเช่น “ร้านทุเรียน น้องนิดระยอง” ที่ตลาดอ.ต.ก.

 

แรกเริ่มเดิมทีนางพุธชาติ ลาภผล หรือน้องนิด เป็นเกษตรกรปลูกผังผลไม้อยู่ที่จังหวัดระยองมาก่อน ซึ่งปัญหาใหญ่ของเกษตรบ้านเราก็คือ มักจะถูกพ่อค้าคนกลางกดราคา น้องนิดเล่าย้อนความให้ฟังว่า สมัยก่อนครอบครัวถูกพ่อค้าคนกลางที่มารับซื้อทุเรียนกดราคา และหลอกซื้อด้วยการคัดแต่เฉพาะลูกที่ดีๆ ไป ถูกหลอกบ่อยๆ เข้า ก็ทำให้ประสบปัญหาขาดทุนเป็นหนี้ธกส. เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

น้องนิดตัดสินใจเข้ามากรุงเทพเพื่อมาขอคำแนะนำและความรู้ในการทำธุรกิจที่องค์การตลาดเพื่อการเกษตร (อ.ต.ก.) ด้วยตัวเอง เพราะตอนเด็กๆ น้องนิดเคยมีโอกาสติดตามญาติมาขายผลไม้ที่นี่ ด้วยคำแนะนำของคุณเสริมศักดิ์ การุณ สส.จังหวัดระยองและความช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่อ.ต.ก. ในที่สุดน้องนิดก็ได้มาเปิดแผงขายทุเรียนเล็กๆ ในตลาดอตก. ด้วยการเอาที่ดินที่มีอยู่จำนวน 6 ไร่ ไปกู้เงินมาเริ่มต้นธุรกิจ ไม่เพียงแต่ให้พื้นที่ขาย เจ้าหน้าที่ของอ.ต.ก. ยังให้คำแนะนำน้องนิดเพิ่มเติมว่า กลุ่มคนที่มาเดินซื้อของในตลาดอ.ต.ก.นั้น ส่วนใหญ่เป็นคนที่มีฐานะ ดังนั้นสินค้าที่นำมาขายจะต้องเป็นสินค้าคุณภาพดีจริงๆ

การได้เข้ามาจำหน่ายสินค้าในตลาดอ.ต.ก. น้องนิดใช้หลักการบริหารความคาดหวังของลูกค้า ด้วยการเปลี่ยนวิธีการขายทุเรียนใหม่ จากการชั่งน้ำหนักเป็นลูกแล้วมีบริการแกะขาย มาเป็นแกะขายเป็นพูราคาตามน้ำหนัก เป็นเจ้าแรกๆ ในตลาดอ.ต.ก. พูดง่ายๆ ก็คือ เปลี่ยนวิธีการขายจาก “จ่ายก่อนแกะ” เป็น “แกะก่อนจ่าย” ลูกค้าได้เห็นสินค้าก่อนจ่ายเงินซื้อ เรียกว่าลูกค้าชอบกินทุเรียนเนื้อแบบไหนร้านทุเรียนน้องนิดระยองสามารถหาทุเรียนตามที่ต้องการมาจำหน่ายได้หมด

จากประสบการณ์ในการคลุกคลีกับตลาดผลไม้มาตั้งแต่ยังเด็ก น้องนิดรู้ดีว่าความคาดหวังของคนที่ซื้อผลไม้สดไปรับประทานทุกคน ล้วนคาดหวังที่จะได้กินผลไม้สด รสชาติดี ซึ่งในความเป็นจริงก็ต้องยอมรับว่าสินค้าเกษตร เป็นอะไรที่ไม่สามารถการันตรีได้ 100% จนกว่าจะแกะเปลือกออกมาดู หลายครั้งที่เราเลือกทุเรียนด้วยตัวเองมาแล้ว กลับต้องผิดหวังเวลาหยิบออกมากิน ทั้งๆที่เราเป็นคนเลือกดูเองกับตา เลือกสัมผัสเนื้อเองกับมือ โดยเฉพาะกับทุเรียนออร์แกนิค

 

เหตุผลเพราะว่าทุเรียนส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะใช้วิธีการป้ายน้ำยาเร่งสุกที่ขั้ว เพื่อให้ทุกเรียนสุกเร็วและสุกพร้อมกันทั้งลูก แต่ทุเรียนปลอดสารเคมีจะสุกไม่พร้อมกันทั้งลูก เพราะฉะนั้นโอกาสที่จะได้กินทุเรียนปลอดสารเคมีแบบเนื้อเดียวกันทั้งลูกจึงเป็นไปได้ยากมากๆ ปัจจุบันนี้ราคาเฉลี่ยของทุเรียนพันธุ์หมอนทองแบบชั่งขายทั้งลูกจะตกประมาณ 150-300 บาทต่อกิโลกรัม ถูกหรือแพงตามขนาดของลูกและทำเล แต่ร้านน้องนิดตั้งราคาขายทุเรียนแกะขายเฉพาะเนื้อในราคากิโลกรัมละ 3,000 บาท ถ้าเป็นทุเรียนกก้านยาวหรือหมอนทองคัดพิเศษจะขายกิโลกรัมละ 5,000 บาท

เห็นราคาขายสูงขนาดนี้ ถ้ามีโอกาสไปดูที่ร้านจะเห็นว่าคนซื้อไม่มีใครต่อราคาเลยแม้แต่คนเดียว ทุกคนยอมจ่ายแพงกว่าเพื่อแลกกับคุณภาพ ถูกต้องแล้ว ร้านน้องนิดระยองกำลังทำธุรกิจแบบบริหารความคาดหวังของลูกค้า น้องนิดเล่าให้ฟังว่า มีลูกค้าของร้านจำนวนไม่น้อยที่ซื้อเพื่อไปเป็นของฝากผู้ใหญ่หรือไปรับแขก ซึ่งความคาดหวังของคนกลุ่มนี้ คืออยากเห็นคนที่รับหรือคนที่ได้กินรู้สึกดี จึงไม่เกี่ยงเรื่องราคา

เบื้องหลังความสำเร็จของการตั้งราคาขายได้สูงขนาดนี้ น้องนิดบอกว่า กว่าจะซื้อใจลูกค้าได้ต้องใช้ทั้งเวลาและประสบการณ์ เพราะเทียบกับน้ำหนักทั้งเปลือกทุเรียน 1 กิโลกรัม น้องนิดสามารถแกะเนื้อขายได้เพียง 300 กรัมเท่านั้น ที่เหลือต้องนำไปแปรรูป เพราะคุณภาพไม่ถึง ถ้าเป็นร้านอื่นอาจจะใช้วิธีแอบยัดป่ะปนไป แต่ร้านน้องนิดไม่ทำเด็ดขาด ข้อดีของการปลูกเองและมีหน้าร้านขายเองที่ตลาดอ.ต.ก.นี้ทำให้น้องนิดสามารถควบคุมคุณภาพของทุเรียนได้ 100% 

 

ปัจจุบันนี้ทางอ.ต.ก.เองก็มีการควบคุมดูแลคุณภาพของร้านค้าที่จำหน่ายในตลาด ตามนโยบายที่จะส่งเสริมเกษตรให้พัฒนาคุณภาพของสินค้าเกษตรให้ดีขึ้น โดยแต่ละปีจะมีการเลือกร้านค้าดีเด่นเพื่อมอบรางวัล Best of Ortorkor ซึ่งร้านทุเรียนน้องนิดก็ได้รางวัลมาเช่นกัน รางวัล Best Of Ortorkor นี้ ทางองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร จัดขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์เพื่อต้องการยกระดับสินค้าเกษตรของไทย และให้เกษตรกรเน้นสร้างแบรนด์ หรือใช้การตลาดนำการผลิต เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ก้าวสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าเกษตรด้วยแบรนด์ โดยคณะกรรมการจะมอบรางวัลให้กับร้านค้าผ่านการคัดสรรสินค้าเกษตรและแปรรูปที่ดีที่สุดตามวิสัยทัศน์ใหม่ของ อ.ต.ก.ที่มีเป้าหมาย การสร้างมูลค่าทางการตลาดสินค้าเกษตร ช่วยให้เกษตรไทยหลุดพ้นจากปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ปรับเปลี่ยนจากผลิตในเชิงปริมาณ มาเป็นผลิตในเชิงคุณภาพ สร้างมูลค่าเพิ่มโดยใช้การตลาดนำการผลิตส่งตรงสินค้าเกษตรคุณภาพคัดสรร เจาะตลาดทั้งในและต่างประเทศ พร้อมเดินหน้าวิสัยทัศน์ใหม่ ชู อ.ต.ก.เป็นตลาดสินค้าเกษตรที่มีมูลค่าไม่น้อยกว่า 20,000 ล้านบาทต่อปี ภายในปี 2564

แม้จะมีรางวัลการันตรีคุณภาพ แต่ทุกวันนี้น้องนิดก็ยังทำตลาดด้วยการบริหารความคาดหวังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เริ่มจากลูกค้าทุกคนจะได้ชิมทุเรียนแบบไม่เสียดายของ คือหั่นให้ลองชิมเป็นชิ้นใหญ่ๆ แบบชิ้นนึงครึ่งพูโดยไม่หวงของ เพื่อให้ทราบความต้องการของลูกค้าว่าชอบกินเนื้อแบบไหน เพราะบางคนชอบกินเนื้อนุ่ม บางคนชอบกินเนื้อแข็ง บางคนชอบกินกรอบนอกนุ่มใน แต่การจะสังเกตเนื้อและสีของทุเรียนแต่ละพูให้ออกจำเป็นต้องมีประสบการณ์ในการคัดทุเรียนจริงๆ ถึงจะคัดเกรดทุเรียนให้ได้เนื้อที่พอดี ความหวานที่ต้องการ ไม่ใช่จะทำได้ง่ายๆ

 

ทุกวันนี้ลูกค้าของพี่นิดเป็นลูกค้าประจำและขาจรอย่างละครึ่ง โดยลูกค้าประจำนั้นส่วนใหญ่จะโทรสั่งล่วงหน้าหลัง 2 ทุ่ม 1 วัน เพราะรู้ว่าหลัง 2 ทุ่มจะโทรติดง่าย การที่ร้านทุเรียนน้องนิดระยองเดินทางมาถึงจุดนี้ได้ ส่วนหนึ่งก็มาจากการบริหารความคาดหวังความต้องการของลูกค้าได้เกือบ 100% นับวันการขายทุเรียนแบบแกะเนื้อขายที่ตอบโจทย์การบริหารความคาดหวังจึงเป็นที่นิยมมากขึ้น 

 

ในตลาดนัดออนไลน์ที่กำลังได้รับความนิยมช่วง COVID-19 เราจึงเห็นพ่อค้าแม่ค้าโพสต์ขายทุเรียนแบบแกะขายเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากวิธีนี้สามารถปิดการขายได้ง่ายสำหรับคนที่อยากได้สินค้าคุณภาพ ไม่ต้องมานั่งลุ้น

ลองหลับตานึกภาพดู...

ลูกค้าจะรู้สึกดีแค่ไหน ถ้าเอาโทรศัพท์ไปซ่อมแล้วศูนย์บริการแจ้งระยะเวลา 1 สัปดาห์ แต่วันรุ่งขึ้นได้รับโทรศัพท์จากพนักงานว่า โทรศัพท์ซ่อมเสร็จแล้วไปรับได้เลย

ลูกค้าจะรู้สึกดีแค่ไหน ถ้าไปซื้อของแล้วร้านมอบของขวัญวันเกิดชิ้นเล็กๆ ให้จากเก็บข้อมูลสมาชิกไว้

ลูกค้าจะรู้สึกดีแค่ไหน ถ้าไปรับประทานอาหารแล้วเชฟเดินออกมาทักทายลูกค้าด้วยตัวเอง

เพราะฉะนั้นผู้ประกอบการ SME ทุกคน จึงควรหมั่นสำรวจธุรกิจของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ ว่าสินค้าและบริการของเรานั้น สามารถตอบสนองความคาดหวังของลูกค้าหรือยัง

 

Did You Know

ปัจจุบันนี้ อ.ต.ก. ได้เพิ่มช่องทางการขายสินค้าออนไลน์ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับผู้บริโภคผ่านเว็บไซต์ www.ortorkor.com โดยผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าจากตลาด อ.ต.ก. โดยตรง และมียังมีบริการส่งสินค้าถึงบ้านอีกด้วย

หรือหากเกษตรท่านใดต้องการนำสินค้าเข้าไปจำหน่ายสามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้ที่ QR Code นี้ แล้วส่งใบสมัครเข้าจำหน่ายสินค้าไปที่ E-Mail : ortorkor@mof.or.th

 



Published on 15 August 2020
SMEONE เพิ่มโอกาสให้ SME ไทย

บทความแนะนำ

บทความแนะนำ

รีวิวศูนย์บริการ SME 1

รีวิวศูนย์บริการ SME 1

ติดอาวุธ SME ไทย ด้วย Digital Marketing

ติดอาวุธ SME ไทย ด้วย Digital Marketing


Digital Marketing โอกาสที่เปิดกว้างสำหรับ SME


เมื่อ Digital Marketing คือเทรนด์ของการทำการตลาดยุคใหม่ที่ผู้ประกอบการต้องไม่มองข้าม โดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เพราะด้วยข้อจำกัดด้านเงินทุน ทำให้โอกาสในการลงทุนที่จะใช้สื่อเพื่อทำการตลาดอาจมีไม่เท่ากับองค์กรขนาดใหญ่ที่สายป่านยาวกว่า ดังนั้นช่องทางออนไลน์จึงกลายเป็นโอกาสทองให้กับบรรดา SME รายเล็กรายน้อย หรือแม้แต่มือใหม่ มือสมัครเล่นทั้งหลาย สามารถสร้างสรรค์พื้นที่และฐานลูกค้าของตนเองขึ้นมาได้ รวมถึงยังเป็นช่องทางที่จะเปิดกว้างออกไปสู่ตลาดใหม่ๆ ที่ไม่ได้จำกัดเพียงแค่ในประเทศเท่านั้นอีกด้วย

ดร.ประวิทย์ เขมะสุนันท์ คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรม เป็นอีกหนึ่งเสียงที่ยืนยันว่า ปัจจุบัน Digital Marketing มีความจำเป็นอย่างยิ่งกับผู้ประกอบการ SME เนื่องจากในอดีตนั้น วิธีการทำการตลาดโดยทั่วไป โดยเฉพาะในยุคอุตสาหกรรม (Industrialization) มักจะพูดถึงเรื่องของ Economies of Scale หรือ การผลิตจำนวนมากเพื่อให้ต้นทุนลดลง เมื่อผู้ประกอบการผลิตสินค้าเป็นจำนวนมาก เพื่อให้ได้ต้นทุนต่ำนั้น ทำให้ผู้ประกอบการ ต้องมีการวางแผนเรื่องของการกระจายสินค้า ต้องมีร้านค้าหรือสาขาเป็นจำนวนมาก หรือส่งสินค้าเข้าไปขายในห้างสรรพสินค้าต่างๆ รวมถึงต้องมีระบบโลจิสติกส์ที่ดีรองรับอีกด้วย ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ถือว่าเป็นวิธีการในการขับเคลื่อนสินค้าจากผู้ผลิตไปสู่ผู้บริโภคก็จริง แต่บางครั้งการที่จะให้ผู้ประกอบการ SME เอาสินค้าเข้าไปตามห้างสรรพสินค้าหรือร้านสะดวกซื้อที่มีสาขาจำนวนมาก ผู้ประกอบการอาจจะยังไม่พร้อมที่จะขยายตัวเพื่อผลิตสินค้าเป็นจำนวนมากๆ ในระยะเวลาอันสั้น เพราะการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ย่อมมาพร้อมกับการลงทุนที่สูง อีกทั้งยังมีความเสี่ยงว่าสินค้านั้นๆ จะเป็นที่นิยมของลูกค้าในขณะนั้นหรือไหม

แต่ปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป อินเตอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทในการดำเนินชีวิตของผู้คน สามารถที่จะรับรู้ข้อมูลข่าวสารหรือสื่อสารถึงกันได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ส่งผลให้วิธีการดำเนินธุรกิจเปลี่ยนแปลงไป ผู้ประกอบการรายเล็กๆ หรือ SME มีโอกาสที่จะสร้างตลาดเป็นของตัวเอง โดยใช้ช่องทางออนไลน์เป็นเวทีในการโชว์ตัวให้ลูกค้าได้เห็น และมีแนวโน้มอย่างชัดเจนว่า ช่องทางออนไลน์จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้จากพฤติกรรมการซื้อสินค้าออนไลน์ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ และกลายเป็นเรื่องปกติของคนยุคใหม่ไปแล้ว เมื่อเทียบกับอดีตที่อาจจะเคยมีความกังวลอยู่บ้างในเรื่องของการจับจ่ายใช้สอยบนโลกดิจิตอล

 

Published by scbsme.scb.co.th on 17 September 2012

SMEONE เพิ่มโอกาสให้ SME ไทย

บทความแนะนำ

ซินจ่าว เวียดนาม ส่งสินค้าอะไรไปขายดี

ประเทศที่ส่งสินค้าเข้าประเทศเวียดนามในอันดับต้น ๆ ได้แก่ จีน เกาหลีใต้ ไต้หวัน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และ ไทย โดยสินค้านำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ เครื่องจักร เครื่องมือและอุปกรณ์ เครื่องคอมพิวเตอร์ อิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม โทรศัพท์มือถือและชิ้นส่วน ผ้าผืน  ก็ตาม แต่เมื่อวิเคราะห์ดูจากสถิติการส่งออกของประเทศไทยและศักยภาพในการผลิตของประเทศเวียดนามแล้วพบว่า

อุตสาหกรรมผลไม้แปรรูป มีโอกาสมากที่สุด เนื่องจากจำนวนโรงงานแปรรูปผลไม้ในเวียดนามยังมีไม่มาก และโรงงานส่วนใหญ่อยู่ระหว่างพัฒนากระบวนการผลิต รวมถึงยังขาดความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ โดยส่วนมากยังเป็นผลไม้กระป๋องและผลไม้อบแห้ง ขณะเดียวกันโรงงานแปรรูปผลไม้ยังขาดแคลนวัตถุดิบที่มีคุณภาพ นักลงทุนไทย จึงสามารถส่งออกผลไม้สดคุณภาพดีจากไทย อาทิ ทุเรียน มังคุด มะม่วง และลำไย เข้าไปแปรรูปในเวียดนามได้ ซึ่งนักลงทุนไทยสามารถใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรีภายใต้ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เคลื่อนย้ายวัตถุดิบเข้าไปยังเวียดนามโดยปราศจากภาษีศุลกากร นอกจากนี้ การขนส่งผลไม้สดจากไทยไปเวียดนามก็มีความสะดวกมากขึ้น โดยใช้เส้นทาง R12 ที่เชื่อมโยงจากกรุงเทพ-นครพนม ประเทศไทย ไปที่แขวงคำม่วน สปป.ลาว และไปยังจังหวัดกว๋างบิ่งห์ เวียดนาม ระยะทาง 1,383 กิโลเมตร ซึ่งเป็นระยะทางที่สั้นกว่าและมีต้นทุนค่าขนส่งที่ถูกกว่าเส้นทางขนส่งทางบกอื่น ๆ

 

10 สินค้าส่งออกติดอันดับ

1.เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์

2.ผลไม้สดแช่เย็น แช่แข็งและแห้ง

3.หม้อแบตเตอรี่และส่วนประกอบ

4.ผลิตภัณฑ์เหล็กและเหล็กกล้า

5.ผ้าผืนและด้าย

6.เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ

7.วงจรพิมพ์

8.เตาอบไมโครเวฟและเครื่องใช้ไฟฟ้า

9.ผลิตภัณฑ์พลาสติกอื่นๆ

10.เครื่องสืบเชื้อเพลิงของเหลว

 

Published  by  scbsme.scb.co.th  on  19 May 2017

SMEONE เพิ่มโอกาสให้ SME ไทย

บทความแนะนำ