GS1 สถาบันรหัสสากล – ยกระดับมาตรฐานสินค้าด้วยบาร์โค้ด

 

GS1 สถาบันรหัสสากล – ยกระดับมาตรฐานสินค้าด้วยบาร์โค้ด
ในอดีตสินค้าต่าง ๆ นั้น ยังไม่มีเลขหมายกำกับ ทำให้เกิดความสับสนยุ่งยากในการสื่อสารและจัดการระบบคลังสินค้า ลองนึกดูว่าถ้ามีผู้ประกอบการที่ผลิตสินค้าประเภทเดียวกัน จะสามารถบันทึกจำแนกอย่างไรให้ชัดเจน ได้อย่างง่ายที่สุด การระบุเลขหมายสินค้าในรูปแบบบาร์โค้ดจึงถือกำเนิดขึ้น เพื่อตอบโจทย์ให้กับการเก็บข้อมูลสินค้าได้อย่างสะดวกและรวดเร็วเพียงแค่สแกนแถบ ไม่ต้องคอยบันทึกเลขหลายทีละหลัก ที่อาจก่อให้เกิดความผิดพลาดขึ้นได้

.

เลขหมายมาตรฐานเดียวกันทั้งโลก

เมื่อมีระบบเลขหมายเกิดขึ้น ก็ต้องมีหน่วยงานกลางที่เป็นนายทะเบียนในการออกเลขหมายประจำสินค้าให้กับผู้ประกอบการ จึงได้มีการตั้งสถาบันรหัสสากล หรือ GS1 Thailand ขึ้น เพื่อเป็นหน่วยงานมาตรฐานที่จะดูแลเรื่องการออกรหัสบาร์โค้ดให้กับสินค้า ซึ่งมีรูปแบบดำเนินงานภายใต้มาตรฐานเดียวกันใน 120 ประเทศทั่วโลก เพื่อให้สินค้าที่ผลิตในแต่ละประเทศมีเลขหมายกำกับสินค้าเฉพาะอย่างชัดเจน ให้สามารถส่งออกสินค้าระหว่างประเทศได้อย่างเข้าใจตรงกัน

ถ้าหากผู้ประกอบการแต่ละคน ต่างคนต่างใช้เลขหมายที่ตัวเองตั้งขึ้น จะก่อให้เกิดความสับสนขึ้นได้ ยิ่งเมื่อนำสินค้าเข้าสู่คลังสินค้าส่วนกลาง อย่างเช่นห้างสรรพสินค้า ก็อาจเกิดกรณ๊ที่เลขหมายซ้ำกันกับผู้ประกอบการเจ้าอื่น ทำให้เกิดความผิดพลาดในการตรวจบันทึกสต็อก รวมถึงจัดจำหน้ายสินค้าผิดชิ้นก็เป็นได้ จึงต้องมีการใช้เลขหมายมาตรฐานสากล ที่ประกอบด้วยตัวเลข 13 หลักนั้น ซึ่งเป็นรหัสที่บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นไว้อย่างครบถ้วน ตั้งแต่ประเทศที่ผลิต สถานที่ผลิต ไปจนถึงล็อตที่ผลิต สะดวกในการจัดเก็บบันทึกข้อมูลสินค้าได้อย่างแม่นยำ และ ในกรณีที่สินค้ามีความผิดพลาดก็ยังสามารถตรวจสอบกลับมาได้โดยง่าย

และยิ่งไปกว่านั้น เมื่อสินค้าถูกส่งออกไปยังต่างประเทศ ถ้าสินค้านั้นได้มีการขึ้นทะเบียนเลขหมายมาตรฐานสากลไว้อยู่แล้ว ก็สามารถใช้เลขหมายนี้ได้ทันที เพราะข้อมูลสินค้าทั้งหมดได้ถูกเก็บบันทึกไว้ในฐานข้อมูลสากลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เลขหมายบาร์โค้ดนี้ยังเป็นสิ่งที่ช่วยรับรองมาตรฐานของสินค้าในระดับหนึ่ง ที่จะทำให้ผู้บริโภคในต่างประเทศสามารถให้ความเชื่อถือ ไว้วางใจในสินค้าได้อีกด้วย

.

บาร์โค้ดนี้มีคุณภาพ

บริการที่ทางสถาบันรหัสสากลพร้อมรองรับให้กับผู้ประกอบการ มีตั้งแต่ 

  • บริการรับรองการเป็นสมาชิก โดยสามารถออกเป็นหนังสือยืนยันเลขหมายให้กับผู้ประกอบการที่ต้องการส่งสิ่งค้าไปเปิดตลาดต่างประเทศ เพื่อใช้อ้างอิงและยืนยันตัวตนของสินค้าได้ ป้องกันการมีเลขหมายซ้ำซ้อนในระบบคลังสินค้าเดียวกัน
  • บริการตรวจสอบคุณภาพบาร์โค้ด ทุกรหัสบาร์โค้ดที่ปรากฎอยู่บนสินค้า ต้องได้รับการตรวจสอบคุณภาพ ให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในเรื่องของขนาด ตำแหน่ง สีสัน ที่ใช้ในบาร์โค้ด เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ป้องกันความผิดพลาดจากเครื่องอ่านรหัส ณ จุดขายสินค้า
  • การฝึกอบรมความรู้ด้านบาร์โค้ด เพื่อประสิทธิภาพในการใช้งาน ผ่านช่องทางทั้งการฝึกอบรม สัมมนา ไปจนถึงช่องทางออนไลน์ และ พอดแคสต์ต่างๆ ช่วยเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องบาร์โค้ดให้กับผู้ประกอบการ รวมถึงการเปิดโลกความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ให้เห็นว่าบาร์โค้ดทุกวันนี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ชุดรหัสที่บันทึกข้อมูลสินค้าเท่านั้น แต่ยังสามารถทำงานร่วมกับเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันให้กับผู้บริโภคได้อีกด้วย 
  • บริการ Solution Provider ทางสถาบันรหัสสากล ได้มีการร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่จะช่วยผู้ประกอบการอย่างครบวงจรรอบด้าน ครอบคลุมตั้งแต่หน่วยงานที่ให้คำปรึกษา ไปจนถึงหน่วยงานที่ช่วยผลิตสินค้า พร้อมดูแลตั้งแต่วันแรกที่ก้าวเข้ามาลงทะเบียน ไปจนถึงวันที่สินค้าสามารถส่งออกไปยังต่างประเทศได้

.

การขอรับเลขหมายบาร์โค้ดมาตรฐานสากล เรียกได้ว่าเป็นการติดกระดุมเม็ดแรกให้ถูกต้อง เปิดประตูสู่โอกาสในการพัฒนาสินค้าให้ก้าวไกลสู่ตลาดโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

.

ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่

สถาบันรหัสสากล สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
เลขที่ 2 อาคารปฏิบัติการเทคโนโลยีเชิงสร้างสรรค์ ชั้น 11
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ ถนนนางลิ้นจี่ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120
โทร. 0-2345-1000
E-mail: info@gs1th.org
Website : www.gs1th.org
Facebook: gs1thailand
Line Official: GS1 Thailand

สำหรับช่องทาง SME ONE เพิ่มเติม
Facebook: SMEONE
Youtube: SMEONE
Line: @smeone

บทความแนะนำ

อัยย์ไทย สืบสานองค์ความรู้แผนไทยให้ร่วมสมัย

อัยย์ไทย สืบสานองค์ความรู้แผนไทยให้ร่วมสมัย

 

ผลิตภัณฑ์สปาดูแลผิวของไทย จาก 2 เภสัชกรที่มองเห็นแนวโน้มของการกลับมาใช้ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ และการดูแลสุขภาพตามวิถีธรรมชาติ จึงนำองค์ความรู้ทางด้านภูมิปัญญาไทยตามศาสตร์การแพทย์แผนไทยผนวกกับองค์ความรู้เภสัชกรรมแผนปัจจุบันมาพัฒนา จนได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์สปาไทยที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานสากล 

.

ใส่ใจทุกกระบวนการ จนกว่าจะมั่นใจ

จากประสบการณ์ที่คร่ำหวอดในวงการการตลาด ทำให้มองเห็นแนวโน้มเกี่ยวกับเรื่องของการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาตินำเมื่อนำมารวมกับความรู้ด้านเภสัชกร ทำให้แบรนด์อัยย์ไทย คิดค้นผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทยที่แตกต่างจากแบรนด์ทั่วไป ทั้งกระบวนการผลิตสินค้าที่ได้คุณภาพและมาตรฐาน และผลิตภัณฑ์ที่คิดค้นสูตรจากการศึกษาจริงจังในเรื่องของเภสัชกรรมแผนไทย ทั้งการประคบและอบสมุนไพรของศาสตร์การนวดแผนไทย ที่นำมาประยุกต์กับความรู้แผนปัจจุบัน 

ด้วยความเป็นเภสัชกรทำให้ผลิตภัณฑ์ของอัยย์ไทย ผลิตภายใต้ความใส่ใจในเรื่องของคุณภาพและมาตรฐาน โดยใช้แนวคิดของการพัฒนาเวชภัณฑ์หรือยาในการผลิต เริ่มตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบซึ่งต้องผ่านการตรวจสอบเชื้อ การตั้งสูตรตำรับที่ต้องมีเทคนิคในการผสมว่าวัตถุดิบตัวไหนเหมาะกับเนื้อผลิตภัณฑ์แบบใด และเมื่อได้สูตรหรือตำรับที่พอใจแล้ว จะต้องมีการทดสอบความคงตัวของผลิตภัณฑ์ในสภาวะที่วัตถุดิบแต่ละตัวจะสามารถทำหน้าที่ได้ดี นอกจากนี้ยังมีการทดสอบผลิตภัณฑ์เมื่ออยู่ในหลายสภาวะ คือทั้งในอุณหภูมิห้อง อุณหภูมิเย็น และอุณหภูมิร้อน ซึ่งการทดสอบนี้ทำให้เห็นคุณภาพและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์และทำให้ได้ข้อมูลในเรื่องการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ในหลากหลายสภาพอากาศด้วย ซึ่งในทุกๆการผลิตจะมีการทดสอบการคงตัวและเก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์ทุกครั้งเพื่อเปรียบเทียบหาสาเหตุที่แท้จริงหากพบสินค้าที่มีปัญหาหรือว่าเนื้อผลิตภัณฑ์มีการเปลี่ยนแปลงจากต้นแบบ 

นอกจากนี้ อัยย์ไทยยังใส่ใจในเรื่องบรรจุภัณฑ์ โดยมีแนวคิดเรื่องความยั่งยืน เน้นในเรื่องของการลดใช้พลาสติก จะใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นกระดาษ ลดการใช้แผ่นพับ มาทดแทนด้วย QR CODE บนบรรจุภัณฑ์ที่ผู้บริโภคสามารถสแกนเข้าไปอ่านข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และหลักการดูแลผิวพรรณและสุขภาพได้ ตอบโจทย์สำหรับผู้บริโภคปัจจุบันที่มองหาแบรนด์ที่สนใจในเรื่องของสิ่งแวดล้อมและสังคมด้วย   

ด้วยความใส่ใจในทุกขั้นตอนการผลิต ทำให้ผลิตภัณฑ์แต่ละตัวของ อัยย์ไทย ต้องใช้เวลาร่วมปีก่อนจะปล่อยออกมาสู่ตลาด ตั้งแต่การค้นคว้าวิจัยวัตถุดิบที่ใช้ทำสูตรและกระบวนการทดลองต่าง ๆ ไปจนถึงภาพรวมเรื่องภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์อีกด้วย  

.

ปรับรูปแบบของสินค้าให้ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย

แบรนด์อัยย์ไทย เปิดตัวและทำการตลาดโดยเน้นกลุ่มเป้าหมายทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ จากการศึกษาทดสอบตลาดในต่างประเทศ ทำให้เรียนรู้การสื่อสารผ่านทางด้านบรรจุภัณฑ์และขนาดที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่ม 

สำหรับกลุ่มชาวต่างชาติ แบรนด์มีการจัดทำบรรจุภัณฑ์เป็นชุด Gift set สำหรับเป็นของขวัญหรือของฝาก และขนาดเล็กที่เหมาะกับการพกพา เน้นกลิ่นที่สื่อถึงความเป็นไทย เมื่อนำผลิตภัณฑ์กลับไปใช้จะทำให้ระลึกถึงความเป็นไทยหรือความประทับใจที่ได้มาเมืองไทย วางจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าในโรงแรมตามแหล่งท่องเที่ยว 

สำหรับกลุ่มคนไทย เลือกเจาะไปในกลุ่มคนทำงาน เน้นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มของการผ่อนคลาย เป็นผลิตภัณฑ์สปาเพื่อการบำบัดความเครียด เช่น สครับขัดตัว น้ำมันนวด หรือ Oriental aroma body gel ที่มีกลิ่นสมุนไพรธรรมชาติ หอมแต่ไม่ฉุน 

นอกจากนี้อัยย์ไทยยังมีการส่งออกไปยังประเทศต่าง ๆ เช่นโปรตุเกส และฮ่องกง และร่วมมือกับภาครัฐในการเปิดรับลูกค้าที่ต้องการจ้างผลิต หรือแม้กระทั่งลูกค้าที่ต้องการทำในรูปแบบส่งออกก็ตาม เพราะอัยย์ไทยนั้นมีความพร้อมทั้งคุณภาพมาตรฐานและเอกสารที่สามารถผลิตเพื่อทำการส่งออกได้

.

ต่อยอดรักษาภูมิปัญญาไทยต่อไปในอนาคต

ด้วยแนวโน้มที่ทุกคนสนใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น อัยย์ไทยจึงมีแผนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่นอกเหนือจากเรื่องสกินแคร์ต่อไป โดยมีความตั้งใจที่จะทำผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ยึดถือการ Empowering  the power of science เป็นหลักในการทำงาน คือนำเอาความเป็นธรรมชาติที่เป็นแก่นแท้ภูมิปัญญาไทยที่สืบต่อกันมานาน มาผ่านกระบวนการเพื่อทำให้เป็นวิทยาศาสตร์ ให้อยู่ในรูปแบบที่ดูทันสมัยขึ้น เหมาะกับชีวิตหรือพฤติกรรมของผู้บริโภคปัจจุบัน โดยมองว่าสิ่งนี้สามารถเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หลาย ๆ คนเปลี่ยนมุมมองต่อผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย และทำให้มีความมั่นใจในการบริโภคหรือการใช้สินค้ามากขึ้น ยังเป็นการเพิ่มมูลค่าหรือเพิ่มตลาดของผลิตภัณฑ์ที่มาจากสมุนไพรไทยอีกด้วย 

อัยย์ไทยยังได้มองถึงการพัฒนาช่องทางสื่อสารกับผู้คนทั่วไป ให้เข้าใจถึงการเลือกใช้สมุนไพรที่ถูกต้องและมีคุณภาพ จึงมองแพลตฟอร์มที่เป็นเว็บไซต์ โดยต้องการให้ผู้ที่สนใจเข้ามาหาความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และการดูแลสุขภาพได้ โดยจะให้ความรู้ทางด้านเภสัชกรรมแผนไทยและเภสัชกรรมแผนปัจจุบันประกอบ เพื่อจะทำให้เกิดการยอมรับในตัวสมุนไพรไทยและทำให้องค์ความรู้เหล่านี้ร่วมสมัยขึ้นได้ เป็นการต่อยอดรักษาภูมิปัญญาของไทยต่อไปในอนาคต 

.

ผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์ของ อัยย์ไทย สามารถติดต่อได้ที่

iThai Natural (Head Office)

บริษัท อัยย์ไทย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (Aithai Corporation Limited)

41/10 ตรอกเวท(สีลม19) ถ.สีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500

Tel: +66 97 235 5588

Fax. +66 2 238 5339

Email: ithaiskincare@yahoo.com

Website : www.ithaiskincare.com
IG: iThai_skincare
Line: @ithaiskincare

สำหรับช่องทาง SME ONE เพิ่มเติม
Facebook: SMEONE
Youtube: SMEONE
Line: @smeone

บทความแนะนำ

The Flavor รสชาติเอกลักษณ์ไทย ในขนมหนึ่งคำ

The Flavor รสชาติเอกลักษณ์ไทย ในขนมหนึ่งคำ

เอกลักษณ์ของรสชาติไทยนั้นแฝงอยู่ในความประทับใจของชาวต่างชาติเสมอมา ทั้งในอาหารไทย ผลไม้ไทย และขนมไทย คือรสชาติที่ใครได้ลิ้มรส ต่างเป็นต้องนึกถึง สิ่งเหล่านี้เองที่ทำให้ The Flavor เลือกขึ้นมาชูเป็นจุดเด่นในเรื่องรสชาติไทย ที่อยู่ในรูปแบบการฟรีซดราย จนกลายเป็น ขนมไทย กรุบกรอบ ที่คงคุณค่าสารอาหารและเอกลักษณ์ของรสชาติเอาไว้ในหนึ่งคำ 

.

ส่งรสชาติไทยไปสู่ตลาดสากล

จุดเริ่มต้มของ The Flavor คือ การที่ต้องไปอยู่ที่ต่างประเทศ แล้วได้พูดคุยกับชาวต่างชาติเกี่ยวกับความชื่นชอบในอาหารไทย ขนมไทย และผลไม้ไทย เช่น ข้าวเหนียวมะม่วง ทุเรียน แต่กลับไม่ค่อยพบเห็นอาหารเหล่านี้จำหน่ายในต่างประเทศ อาจเพราะเป็นอาหาร จึงมีอายุค่อนข้างสั้น เสียง่าย ไม่สามารถเก็บไว้ได้นาน จึงจุดประกายความคิดขึ้นมาว่า อยากจะบรรจุรสชาติต่าง ๆ ของอาหารไทย ให้อยู่ได้นาน และสามารถส่งออกไปยังต่างประเทศได้

ทาง The Flavor เลือกใช้นวัตกรรมในการสร้างผลิตภัณฑ์เป็น ขนมเพื่อสุขภาพฟรีซดราย ทำให้สามารถคงคุณค่าอาหาร และรสชาติของอาหารไว้ได้เหมือนรสชาติดั้งเดิมที่พึ่งปรุงสุก อีกทั้งยังช่วยยืดอายุของผลิตภัณฑ์ให้เก็บรักษาไว้ได้ยาวนานขึ้นเป็น 1 ปี ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมของทางแบรนด์ คือ ข้าวเหนียวมะม่วงอบกรอบ และ ข้าวเหนียวทุเรียนอบกรอบ สูตรข้าวกล้องงอก เพราะรับประทานง่าย ฉีกซอง อร่อยได้ทันที เรียกได้ว่าเป็น ขนมไทย ที่สะดวกสบายต่อการรับประทาน 

และด้วยความสะดวกสบายและเก็บได้นานนี้เอง ทำให้ทางแบรนด์สามารถส่งผลิตภัณฑ์ The Flavor ออกไปสู่ตลาดสากลได้หลายประเทศ ทั้งประเทศจีน ฮ่องกง เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และอเมริกา ส่วนในประเทศไทยจะมีวางจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ จุดท่องเที่ยวต่าง ๆ และในช่องทางออนไลน์

แม้ว่าจะมีผลิตภัณฑ์ที่ถูกวางจำหน่ายที่ต่างประเทศแล้ว แต่ทางแบรนด์ก็ยังไม่หยุดพัฒนาและปรับตัว เพราะ The Flavor ยังศึกษาและทำความเข้าใจผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากธุรกิจอาหารไม่ใช่สิ่งที่ทำแล้วจบไปภายในวัน ธุรกิจยังคงเดินหน้าต่อไป ทางแบรนด์จึงต้องพัฒนาและปรับปรุงให้วันพรุ่งนี้ดีขึ้นกว่าเดิมในทุกๆ วัน

.

ให้ “แม่หยก” ช่วยกอบกู้ช่วงโควิด-19

สถานการณ์โควิด-19 ส่งผลกระทบเรื่องการส่งออกค่อนข้างมาก ทางแบรนด์จึงมองหาลู่ทางในการดำเนินธุรกิจ โดยสังเกตวิถีชีวิตของคนส่วนมากในช่วงที่ต้องทำงานอยู่กับบ้านมากขึ้น เมื่อได้อยู่กับบ้านก็จะมีการทำอาหารมากขึ้น จึงทำการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกมานั่นก็คือ เครื่องปรุงรสและซอสปรุงรสพร้อมทาน ตรา “แม่หยก” เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานสะดวกและรวดเร็ว เพราะผลิตภัณฑ์แม่หยก คือ เครื่องปรุงสูตรต่าง ๆ ที่ถูกประยุกต์มาให้อยู่ในรูปแบบพร้อมปรุง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการอาหารรสชาติเข้มข้นเสมือนรสต้นตำรับดั้งเดิม

.

ใช้ความเข้าใจ เป็นหัวใจหลัก

สิ่งที่ทำให้แบรนด์ The Flavor เข้าไปอยู่ในใจของลูกค้าได้ มาจากวิธีคิดที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ทุกครั้งที่จะเริ่มพัฒนาสินค้าใหม่ จะต้องดูความต้องการของลูกค้าก่อน หรือเมื่อทำเสร็จจะมีการทดลองสินค้ากับลูกค้าด้วยเสมอ 

จุดแข็งหลักที่ทำให้แบรนด์เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ก็คือ การเป็นแบรนด์ที่เข้าใจลูกค้า และด้วยแนวคิดว่า การจะทำให้ธุรกิจเดินต่อไปได้อย่างมั่นคง ต้องสร้างแก่นไอเดียให้แข็งแรง ก็คือเรื่องเอกลักษณ์ของความเป็นไทย ที่สามารถขยายต่อไปเป็นผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ได้อีก ต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจไม่ใช่เรื่องที่ทำวันนี้แล้วจบวันนี้ แต่มันเดินไปข้างหน้าต่อ เพราะฉะนั้นถ้าวันนี้ทำได้ดี วันพรุ่งนี้ก็ต้องทำให้ได้ดีกว่าเดิม ถ้าวันนี้ล้ม ก็ต้องลุก แล้วถ้าพลั้งพลาดอะไร ก็ต้องแก้ไข

หัวใจสำคัญของการเป็น The Flavor ไม่เพียงแต่เป็นรสชาติของผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มอบให้แก่ลูกค้า แต่ต้องเป็นรสชาติที่ทำให้ลูกค้ายิ้มได้นั่นเอง

.

สามารถติดตาม The Flavor ได้ที่

บริษัท พี เอ็ม ดับบลิว อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

28/4 หมู่ที่ 20 ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จ.สมุทรปราการ 10540

Email: pmwinternational.info.gmail.com และ theflavorthailand@gmail.com
Tel: 02-452-0941

Website : theflavorthailand.com
Facebook: theflavorthailand

สำหรับช่องทาง SME ONE เพิ่มเติม
Facebook: SMEONE
Youtube: SMEONE
Line: @smeone

บทความแนะนำ

Kaelyn ผิวสวยด้วยสารสกัดจากใบชา

ในปัจจุบัน ทัศนคติและทิศทางของผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะหันมาใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติมากขึ้น ส่งผลให้บริษัท Kaelyn international จำกัด ที่มีความสนใจเรื่องสรรพคุณของใบชา โดยเฉพาะคุณสมบัติในเรื่องการฟื้นฟูหรือบำรุงร่างกาย ทำการก่อตั้งแบรนด์ Kaelyn ขึ้น ซึ่งนำสารสกัดจากใบชาอัสสัมมาเป็นวัตถุดิบสำคัญในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวพรรณ โดยคิดค้นวิจัยสูตรร่วมกับทีมวิจัยของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จนได้ผลิตภัณฑ์ที่มีสรรพคุณมากมาย นอกจากจะได้ผลตอบรับเป็นอย่างดีแล้ว ยังช่วยส่งเสริมและสนับสนุนนักวิจัยไทย ตลอดจนเกษตรกรผู้เพาะปลูกใบชา ในการสร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างยั่งยืน 

.

ความน่าสนใจ จากคุณสมบัติในงานวิจัย

จุดเริ่มต้นของแบรนด์ Kaelyn มาจากการค้นคว้าวิจัยและจดอนุสิทธิบัตรทรัพย์สินทางปัญญาของทางมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงที่ได้ค้นพบกระบวนการสารสกัดธรรมชาติบริสุทธิ์จากชาอัสสัม หรือ ชาเมี่ยง จากเทือกเขาวาวี จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกใบชาที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทยและของโลก เป็นเทือกเขาที่มีความสูง และมีอุณหภูมิที่เย็นตลอดทั้งปี เหมาะแก่การเพาะปลูกใบชา ทำให้ใบชาจากแหล่งผลิตนี้มีคุณสมบัติที่ดีเยี่ยม ทางบริษัท Kaelyn international จำกัด ซึ่งมีความสนใจในส่วนของสารสกัดจากใบชาอยู่แล้ว ได้คิดค้นร่วมกับทีมวิจัยของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เพื่อนำสารสกัดบริสุทธิ์ตัวนี้มาใช้เป็นส่วนประกอบหลักในสูตรตำรับเครื่องสำอาง โดยนำสารสกัดจากใบชาที่มีคุณสมบัติช่วยเรื่องการต้านอนุมูลอิสระ และยับยั้งการเกิดริ้วรอย จุดด่างดำบนใบหน้า รวมไปถึงการสร้างความชุ่มชื้นให้กับผิวพรรณบนใบหน้า นำมารวมกับสารสกัดที่มาจากพืชธรรมชาติอีก 7 ชนิด จนได้ผลิตภัณฑ์ตัวแรกของบริษัท คือเซรัมที่ช่วยบำรุงผิวหน้าให้กับผู้ที่มีปัญหา 

.

มองหาคุณสมบัติที่จะต่อยอดได้

หลังจากออกผลิตภัณฑ์เซรัมและได้รับผลตอบรับที่ดี จึงได้มองหาคุณสมบัติอื่น ๆ ของสารสกัดจากใบชาอัสสัมที่น่าสนใจ และนำคุณสมบัติที่เกี่ยวกับเรื่องของผิวหน้ามาพัฒนาผลิตภัณฑ์ แป้งผสมรองพื้น ที่มีสรรพคุณในเรื่องการปกป้องแสงแดดและช่วยในเรื่องความหมองคล้ำของใบหน้า เนื่องจากว่าสารสกัดจากใบชาอัสสัมมีสารต้านอนุมูลอิสระ อีกทั้งสามารถช่วยปกป้องมลภาวะต่าง ๆ และแสงสีน้ำเงินจากคอมพิวเตอร์ได้อีกด้วย

Kaelyn มองว่าการพัฒนาคุณสมบัติจากใบชาจนสามารถออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ นับเป็นการต่อยอดงานวิจัยของทางมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ที่ได้เล็งเห็นความสำคัญของพืชเศรษฐกิจไทยโดยเฉพาะใบชา และการให้ความสำคัญแก่เกษตรกรไทยในการผลักดันการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับใบชาในครั้งนี้ด้วย โดยกระบวนการผลิตในส่วนของวัตถุดิบหรือสารสกัดต่าง ๆ จะมาจากที่จังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ จึงเป็นการสร้างรายได้ให้ชุมชนอีกทางหนึ่ง 

.

เลือกช่องทางประชาสัมพันธ์ให้หลากหลาย

เนื่องจากสินค้าเปิดตัวในช่วงสถานการณ์โควิด-19 การทำการตลาดจึงเป็นการทำในรูปแบบออนไลน์ตั้งแต่แรก โดยจัดจำหน่ายและประชาสัมพันธ์ผ่านทางแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ 

นอกจากนี้ยังเน้นการกระจายสินค้าผ่านทางตัวแทนจัดจำหน่ายในจังหวัดเชียงใหม่อีกทางหนึ่ง รวมไปถึงการทำการตลาดโดยการนำเอาเครื่องสำอางแบรนด์ Kaelyn เข้าไปร่วมเป็นผู้สนับสนุนของงานอีเวนต์ต่าง ๆ เช่น เวทีประกวดนางสาวไทย เนื่องจากธุรกิจหลักของเจ้าของแบรนด์ คือธุรกิจเกี่ยวกับการจัดงานอีเวนต์อยู่แล้ว จึงมีทักษะความรู้ และสามารถมองเห็นช่องทางการทำการตลาดทางนี้ได้ เพราะในงานมีการทำสื่อประชาสัมพันธ์ จะทำให้เกิดการรับรู้ของผู้บริโภคได้อย่างแพร่หลายมากขึ้น 

.

โอกาสทางการตลาด

Kaelyn มองว่าความต้องการของตลาดในเรื่องของผลิตภัณฑ์ด้านความงามมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงมีโอกาสสูงที่จะได้ส่วนแบ่งทางการตลาดของผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มาจากสารสกัดจากธรรมชาติซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในปัจจุบันด้วย และในขณะนี้ก็ได้ร่วมมือกับทางทีมวิจัยของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงในการพัฒนาผลิตภัณฑ์กันแดดที่เน้นสารสกัดที่มาจากธรรมชาติ จึงมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ทุกตัวของ Kaelyn มุ่งเน้นในสิ่งที่เป็นการตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน คือ ความต้องการผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยและมาจากธรรมชาติ 100%

.

ผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์ของ Kaelyn International จำกัด ภายใต้แบรนด์ Kaelyn สามารถติดต่อได้ที่

บริษัท Kaelyn International จำกัด
82/1หมู่ 6 อำเภอสันทราย, จังหวัดเชียงใหม่ 50210

E-mail: kaelyn.intl@gmail.com

Facebook: KaelynINTL
Line Official: KAELYN INTERNATIONAL

สำหรับช่องทาง SME ONE เพิ่มเติม
Facebook: SMEONE
Youtube: SMEONE
Line: @smeone

บทความแนะนำ

PAC เครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดพลังงาน ด้วยนวัตกรรม

PAC เครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดพลังงาน ด้วยนวัตกรรม

การใช้พลังงานจากเครื่องใช้ไฟฟ้ากำลังจะเป็นปัญหาสำคัญหนึ่งของโลก โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศเป็นปัจจัยใหญ่ที่ปล่อยความร้อนจำนวนมากเข้าสู่บรรยากาศ จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทาง PAC Corporation มุ่งเน้นสร้างผลิตภัณฑ์ที่นำเอาพลังงานจากเครื่องใช้ไฟฟ้าที่สูญเปล่ามาใช้ให้เกิดประโยชน์ นอกจากจะเป็นประโยชน์ให้กับลูกค้าแล้ว ยังเป็นประโยชน์ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมด้วย

 

ใช้นวัตกรรมต่อยอดธุรกิจ

เริ่มต้นจากแนวคิดที่ว่า จะสามารถลดค่าไฟจากเครื่องปรับอากาศได้อย่างไร นำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ผสมผสานนวัตกรรมและการออกแบบให้ใช้พลังงานน้อยที่สุด โดยนำความรู้จากประสบการณ์ที่อยู่ในธุรกิจเครื่องปรับอากาศของครอบครัวมาหลายปี ก่อตั้งเป็น PAC Corporation ขึ้นมา เพื่อวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์นี้โดยตรง โดยมีเป้าหมายที่จะผลิตเครื่องปรับอากาศให้ใช้ไฟน้อยลง ลดภาระค่าไฟ และยังช่วยในเรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นการลดการปล่อยความร้อนออกสู่บรรยากาศ หรือแม้กระทั่งเปลี่ยนสารทำความเย็นที่ใช้ในเครื่องปรับอากาศให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

โดย PAC ได้เริ่มจากการคิดค้นเครื่องทำน้ำร้อนจากเครื่องปรับอากาศ เพราะเครื่องปรับอากาศภายในแผงแลกเปลี่ยนอุณหภูมิจะมีความร้อนมาก และจะถูกส่งผ่านไปเป่าทิ้งผ่านพัดลม จึงได้ใช้ประโยชน์จากความร้อนนี้ ต่อออกมาเป็นพลังงานทำความร้อนให้กับถังเก็บน้ำ ก็สามารถลดการใช้พลังงานในการทำความร้อนลงได้ถึง 80% หลังจากค้นคว้าวิจัยและทดลองกันในโรงงานจนใช้ได้จริง จึงหาแนวร่วมทางธุรกิจในการพัฒนารูปลักษณ์สินค้าให้สวยงาม

 

กระจายกลุ่มเป้าหมาย เพื่อความมั่นคง 

PAC เริ่มทำการตลาดในกลุ่มลูกค้า B2B เป็นหลัก เช่น กลุ่มอุตสาหกรรม กลุ่มธุรกิจโรงแรม รีสอร์ต โครงการบ้านพักอาศัย เพราะมองว่าลูกค้ากลุ่มนี้มีการใช้เครื่องทำน้ำร้อนและเครื่องปรับอากาศเป็นจำนวนมาก ดังนั้นจะได้ประโยชน์จากการเอาความร้อนของเครื่องปรับอากาศมาผลิตเป็นน้ำร้อนได้ ถึงแม้ว่าการทำธุรกิจในกลุ่มลูกค้า B2B จะได้จำนวนผลตอบรับที่ดีมาก แต่ PAC ก็ยังคิดให้ความสำคัญกับการกระจายสินค้าให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าผู้บริโภคด้วย จึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ขึ้นเพื่อตอบโจทย์ทุกกลุ่มลูกค้า ทำให้ในช่วงที่กลุ่มเป้าหมายหลักของบริษัทชะลอตัวลงไป ก็ยังมีกลุ่มผู้บริโภคทั่วไปที่ช่วยให้ยังคงมีการสั่งซื้อสินค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง  

.

ต่อยอดผลิตภัณฑ์ ให้สอดคล้องต่อเนื่องกัน

PAC มองว่า การตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าไม่ได้หยุดเพียงผลิตภัณฑ์ตัวใดตัวหนึ่งเท่านั้น ดังนั้นการมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย จะเป็นข้อดีที่ตอบโจทย์ให้ลูกค้าได้อย่างครบวงจร สามารถจับกลุ่มลูกค้าได้กว้างขึ้นและลึกขึ้น โดยปัจจุบัน PAC ได้คิดค้น และพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมประเภทใหม่ ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง

 

โดยปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของ PAC มีดังนี้

  • PAC Frenergy ระบบทำน้ำร้อนด้วยความร้อนที่ระบายทิ้งจากเครื่องปรับอากาศ ประหยัดพลังงานได้ถึง 2 ทาง ทั้งลดค่าไฟจากเครื่องทำน้ำอุ่นได้ 100% และลดค่าไฟจากแอร์ได้สูงสุดถึง 20%
  • PAC Pooltemper เครื่องปรับอุณหภูมิสระว่ายน้ำ
  • PAC Heat pump เครื่องทำน้ำร้อนที่ออกแบบมาเพื่อผลิตน้ำร้อนอุณหภูมิสูงในปริมาณมาก ใช้เทคโนโลยีประหยัดพลังงานที่มาจากการนำความร้อนของบรรยากาศโดยรอบมาผลิตเป็นน้ำร้อน ส่งผลให้ใช้พลังงานไฟฟ้าน้อยกว่าเครื่องทำน้ำร้อนไฟฟ้าทั่วไปถึง 4 เท่า ใช้กับตึกสูง โรงแรม โรงพยาบาล เป็นต้น
  • PAC SolarAire คือ เครื่องปรับอากาศพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ใช้ไฟฟ้ากระแสตรงทั้งหมด โดยไฟฟ้าจากโซล่าเซลล์สามารถนำมาต่อเข้ากับเครื่องได้โดยตรง สามารถลดพลังงาน ลดการสูญเสียของกระแสไฟฟ้าในตัวแปลงไฟได้มากกว่า 30% และเครื่องปรับอากาศยังสามารถนำไฟฟ้ากระแสสลับจากบ้านมาใช้ได้อัตโนมัติ
  • PAC Klean ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศ ช่วยฆ่าเชื้อโรคและลดกลิ่นอับ
  • PAC EneRVent เครื่องแลกเปลี่ยนอากาศ ประหยัดพลังงาน แบบติดผนัง
    เป็นตัวแลกเปลี่ยนอากาศหมุนเวียนอากาศให้ได้อากาศดีขึ้น เน้นกลุ่มที่เป็นบ้านพักอาศัย อาคารสำนักงาน โรงแรม หรือโรงพยาบาล 

 

ใส่ใจในบริการ คือหัวใจของมืออาชีพ

นอกจากสินค้าที่มีหลากหลาย และก็จุดขายเรื่องการประหยัดพลังงานแล้ว สิ่งที่ทำให้ลูกค้าประทับใจและมักจะได้รับการชื่นชมกลับมาเป็นประจำคือ เรื่องความเป็นมืออาชีพ มีการใส่ใจในการให้บริการทั้งก่อนและหลังการขาย ที่เน้นให้ความสำคัญตั้งแต่การให้ข้อมูลแก่ลูกค้า เนื่องจากผลิตภัณฑ์ของ PAC เป็นผลิตภัณฑ์นวัตกรรม ดังนั้นต้องสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกและสามารถตอบคำถามให้ลูกค้าเข้าใจได้  ในการติดตั้งและบริการหลังการขาย มีวิศวกรควบคุมงานและมีช่างผู้เชี่ยวชาญในการให้บริการ รวมถึงอะไหล่และอุปกรณ์ที่ครบครัน เน้นการให้บริการลูกค้าด้วยความรวดเร็ว ให้ความสำคัญในการส่งสินค้าและติดตั้งให้ตรงตามกำหนดเวลา 

 

ให้ความสำคัญต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม

ในปัจจุบันเรื่องของโรคภัยและปัญหาสิ่งแวดล้อมนั้นรุนแรงขึ้น ทุกคนจึงหันกลับมาใส่ใจให้ความสำคัญเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลสิ่งแวดล้อม ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ดังนั้นทาง PAC จึงมุ่งเน้นทั้งในสัดส่วนของผลิตภัณฑ์นวัตกรรม และสัดส่วนของผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม 

แนวคิดที่ PAC ยึดมั่นมาตลอดและเป็นแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจต่อไป คือ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจสินค้าและบริการใดก็ตาม ต้องมองเรื่องของประโยชน์ที่จะให้กับลูกค้าเป็นหลักก่อน เพราะเป็นสิ่งที่ยั่งยืน นอกจากจะสร้างเศรษฐกิจที่ดีได้แล้ว ยังสร้างความยั่งยืนในเรื่องของสังคมและสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย

 

ผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์และบริการของ PAC สามารถติดต่อได้ที่

บริษัท แพค คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด
อีเมล  info@pac.co.th
Facebook:  www.facebook.com/PACSolutions

สำนักงานใหญ่
12/2 วิชั่น บิสิเนส พาร์ค เฟส 2 ซอยรามอินทรา 55/8 ถนนรามอินทรา แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ 10230
Tel:  02-347-0447
Fax:   02-347-0448สำนักงานภูเก็ต
108/91 หมู่ที่ 5 ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ตำบลรัษฎา อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต 83000
Tel: 076-261-023
Fax: 076-261-024

สำหรับช่องทาง SME ONE เพิ่มเติม
Facebook: SMEONE
Youtube: SMEONE
Line: @smeone

บทความแนะนำ