สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) ได้ออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ BCG CONNEX โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแพลตฟอร์มสำหรับส่งเสริมกลุ่มผู้ประกอบการ ธุรกิจ BCG สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งปัจจุบันเน้นส่งเสริมกลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารแปรรูป และกลุ่มสินค้าอาหารแปรรูปมูลค่าเพิ่มสูง เช่น อาหารเสริมสุขภาพ อาหารทางการแพทย์ อาหารแห่งอนาคต (Future Foods) เชื่อมโยงคู่ค้าภาคธุรกิจ การเข้าถึงกลุ่มลูกค้า และผู้ร่วมลงทุน ทั้งยังเชื่อมโยงการให้บริการแพลตฟอร์มกับการให้บริการของหน่วยภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงเชื่อมโยงข้อมูลด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ ส่งเสริมการส่งออกของผู้ประกอบการธุรกิจ BCG
สถาบันจึงได้กำหนดจัดงานเปิดตัวเว็บไซต์ “BCG CONNEX เชื่อมต่อโอกาสธุรกิจสู่อนาคต” ในวันอังคารที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ เวลา ๑๒.๓๐-๑๖.๐๐ น. ณ ห้อง Ballroom ชั้น ๑๒ โรงแรม VIE Hotel MGallery Bangkok สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ คุณกฤตณัฐ สว่างวิทย์ ผู้ประสานงาน ทางโทรศัพท์หมายเลข ๐๖๓ ๗๕๑ ๕๔๖๙ และ ๐ ๒๖๑๕ ๘๙๙๘
อุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิยาลัยพะเยา
อุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา เป็นหน่วยงานที่เปิดประตูต้อนรับผู้ประกอบการที่ต้องการใช้โครงสร้างพื้นฐานของทางมหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะเป็นงานวิจัย หรือการติดต่ออาจารย์คณะต่าง ๆ ก็สามารถเข้ามาที่อุทยานฯที่พร้อมเป็น Total Innovation Solution ให้กับผู้ประกอบการ ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการทางด้านเกษตร อาหาร เครื่องสำอาง ไอที หรือธุรกิจการค้าต่าง ๆ เพียงแค่มีไอเดียธุรกิจ ก็สามารถเดินเข้ามาขอรับบริการได้ครบวงจรจนสามารถสร้างสินค้าออกสู่ตลาด
อีกหนึ่งเป้าหมายที่เป้าหมายที่ทางอุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยาให้ความสำคัญ คือการมุ่งสร้างวิสาหกิจเพื่อสังคม สนับสนุนธุรกิจที่ใช้วัตถุดิบในท้องถิ่น เพื่อช่วยกระจายรายได้และสร้างผลตอบแทนที่เป็นประโยชน์คืนให้กับชุมชน ซึ่งจะเป็นการปลูกฝังแนวความคิดในการสร้างธุรกิจที่ช่วยเหลือสังคม ที่จะส่งผลให้ชุมชนเติบโตได้อย่างยั่งยืน
บริการที่ช่วยเสริมความเข้มแข็งให้กับ MSME
อุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา เป็นเหมือนกับ One-Stop Service ให้กับผู้ประกอบที่มีไอเดียทำธุรกิจ สามารถเข้ามาขอใช้บริการเพื่อเริ่มต้นธุรกิจตั้งแต่ก้าวแรก ไปจนถึงการพัฒนาสินค้าจนสามารถวางขายออกสู่ตลาดได้อย่างครบวงจร
ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่
อุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา University of Phayao Science Park (UPSP)
ที่อยู่: สำนักงานอุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา
ชั้น 1 อาคาร 99 ปี พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ปวง ธมฺมปญฺโญ)
19 หมู่ 2 ต.แม่กา อ.เมือง จ.พะเยา 56000
โทรศัพท์: 054-466-666 ต่อ 3711 - 3714
อีเมล: upscipark@outlook.com
เว็บไซต์ : www.upsp.up.ac.th
Facebook: UPSciencePark
หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.)
หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) เป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่จัดสรรทุนวิจัยและสร้างนวัตกรรมเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของภาคการผลิตและภาคบริการ รวมถึงทุนสนับสนุนการถ่ายทอดเทคโนโลยี การสร้างตลาดนวัตกรรม การส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรมได้จริงในเชิงพาณิชย์
โดยการให้ทุนจะมุ่งเน้นที่การสนับสนุนแผนงานที่มีความร่วมมือหรือการร่วมลงทุนกับผู้ใช้ประโยชน์ อาทิ SMEs และภาคอุตสาหกรรม ผลักดันให้เกิดการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชนทั้งในและต่างประเทศ ให้งานวิจัยสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง
บริการที่ช่วยเสริมความเข้มแข็งให้กับ MSME
บพข. ต้องการที่จะช่วยยกระดับผู้ประกอบการ ให้มีประสิทธภาพในการผลิต เพื่อสร้างความสามารถทางการแข่งขัน การที่มี บพข.และหน่วยบริหารจัดการทุนจะเข้ามาช่วย จะส่งผลให้ผู้ประกอบการเกิดการเติบโต ด้วยงานวิจัยและนวัตกรรม ที่จะทำให้ธุรกิจเท่าทันกับการเปลี่ยนแปลง สร้างอำนาจในการต่อรองได้
บพข. ต้องการขับเคลื่อนและเร่งการสร้างธุรกิจให้เกิดขึ้น เพราะการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจนั้นขยับตัวเร็วมาก หากปรับเปลี่ยนอย่างค่อยเป็นค่อยไป คงไม่ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลก แต่หากทุกภาคส่วนมีการทำงานร่วมกัน พัฒนาธุรกิจให้เดินหน้าไปพร้อมกัน จะช่วยให้งานวิจัยต่าง ๆ ออกไปสู่การใช้งานเชิงพาณิชย์ได้รวดเร็วมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และเมื่อมีธุรกิจใหม่ ๆ มากขึ้น การลงทุนในประเทศก็จะเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ท้ายที่สุดแล้วความได้เปรียบทางการแข่งขันของประเทศก็จะสูงขึ้น
ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่
หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.)
ที่อยู่: สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.)
319 อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้น 14 ถนนพญาไท แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
โทรศัพท์: 02-109-5432 ต่อ 871-898
อีเมล: pmuc@nxpo.or.th
เว็บไซต์ : pmuc.or.th
Facebook: pmuc.researchfunding
TOP Foods Supply ธุรกิจทุเรียนน้องใหม่ ที่ทุ่มหัวใจนำคุณภาพ
หากพูดถึงผลไม้ที่สร้างรายได้ให้กับประเทศไทย สิ่งที่เราจะนึกถึงคงหนีไม่พ้นทุเรียน ที่ทั่วโลกต่างให้การยอมรับเป็นที่หนึ่งในใจว่าหากจะกินทุเรียนแล้ว ก็ต้องเลือกกินทุเรียนจากเมืองไทย ถึงจะได้ทุเรียนที่มีรสชาติและเนื้อสัมผัสดีที่สุด
เมื่อทุเรียนเป็นสินค้าราคาดีที่มีความต้องการจากทั่วโลก ใคร ๆ จึงพากันหันมาขายทุเรียน ทำให้ในตลาดผลไม้ต่างมีผู้ขายทุเรียนเรียงรายกันมากหน้าหลายตา เรียกได้ว่าถึงฤดูทุเรียนเมื่อไหร่ เดินไปที่ไหน มองไปทางใด แทบจะเห็นทุเรียนเรียงตั้งอยู่ในทุกร้าน หากแต่เพียงว่า ไม่ใช่ทุกร้านที่จะคัดเลือกทุเรียนที่อร่อย ได้คุณภาพมาวางขาย ลูกค้ายังคงต้องสุ่มรสชาติทุเรียน โดยการเคาะ หรือ ดูสี ดูผิว ดูขั้วกันไป บางลูกเนื้อแข็ง บางลูกเนื้อเละ บางลูกเปลือกหนาเนื้อน้อย กว่าจะได้เจอทุเรียนอร่อย ก็อาจต้องผ่านความผิดหวังอยู่หลายครั้ง
จากปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ เป็นข้อมูลให้คุณท๊อป – กิตติภูมิ ชินโสภณทรัพย์ ประธานบริหารบริษัท ท๊อปฟู๊ดซัพพลาย จำกัด นำมาตั้งเป็นโจทย์ในการทำธุรกิจ เพื่อสร้างแบรนด์ผลไม้ที่ใช้คุณภาพและการบริการนำสินค้าเข้าไปอยู่ในใจของลูกค้า จึงได้สร้างแบรนด์ของทุเรียนขึ้น ในชื่อว่าสยามไดมอนด์
ถึงแม้ว่าจะเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ที่เข้ามาสู่วงการทุเรียนได้ไม่นานนัก แต่ด้วยไอเดีย กลยุทธ์และมุมมองการทำธุรกิจที่แตกต่าง เป็นเรื่องสำคัญที่จะสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำ และนั่นทำให้ทุเรียนสยามไดมอนด์นั้นสามารถแหวกฝ่าตลาดทุเรียนของผู้เล่นมากมาย เข้าไปสู่การจดจำของลูกค้าได้ในเวลาเพียงไม่นาน และทำให้ทุเรียนที่แบรนด์นี้ กลายเป็นสิ่งที่มีคุณค่าน่าลิ้มลอง เป็นที่เรียกหาจากทั้งในประเทศและในต่างประเทศ
ใส่ไอเดียลงทุเรียนไทย ให้โลกรู้จัก
ทุเรียนสยามไดมอนด์นั้น สร้างความโดดเด่นด้วยการตลาด จนทำให้ใครต่อใครเมื่อได้เห็นแล้วยากที่จะปฏิเสธ ต่างเกิดความรู้สึกอยากซื้อ อยากลองชิม เคล็ดลับเบื้องหลังมาจากความขยันและใส่ใจของแบรนด์ที่ทำการบ้านจากลูกค้าทุกคน ด้วยการสอบถามข้อมูลความชอบว่าชอบทุเรียนแบบใด เนื้อสัมผัสแบบใด จะกินในช่วงเวลาไหน เมื่อมีข้อมูลตรงจากลูกค้า ก็สามารถที่จะคัดเลือกทุเรียนที่มีรสชาติเนื้อสัมผัสได้ตรงกับใจลูกค้า พร้อมส่งตรงให้ลูกค้าถึงที่ด้วยรถเย็น ล็อกรสชาติไว้ให้คงอยู่อย่างสมบูรณ์ ลูกค้าจะได้รับทุเรียนที่อร่อยที่สุด ณ เวลาที่ต้องการกิน จนกลายเป็นคำบอกต่อกันปากต่อปากว่า ทุเรียนสยามไดมอนด์อร่อย ไม่ต้องลุ้น
เป้าหมายของแบรนด์ที่ถูกตั้งไว้ตั้งแต่วันแรกคือ ถ้าคนนึกถึงทุเรียนแล้วต้องนึกถึงสยามไดมอนด์ และคนจะนึกถึงเราได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือเรื่องของการคัดคุณภาพของทุเรียน ถ้าคุณภาพไม่สม่ำเสมอการซื้อซ้ำจะไม่กลับมา ซึ่งสยามไดมอนด์คัดทุเรียนให้มีคุณภาพเท่ากันทุกกล่อง เลือกเฉพาะเนื้อที่สวยและรสชาติที่ดีที่สุด เพื่อให้ลูกค้ากินพูไหน ก็ได้รสชาติที่ดีเยี่ยมประทับใจ บรรจุในกล่องพรีเมียมที่ราคาเข้าถึงได้
เมื่อลูกค้าประทับใจ ก็กล้าที่จะบอกต่อ กล้าที่จะส่งให้คนที่เขารัก สยามไดมอนด์จึงคิดต่อยอดสินค้าใหม่ นำเสนอทุเรียนในรูปแบบใหม่ที่แปลกตา เป็นทุเรียนมงคลปิดทองบนเนื้อ เพื่อเป็นของขวัญที่มีคุณค่าให้กับคนที่รัก โดยทองที่ใช้นั้นเป็นแบบที่รับประทานได้ที่ใช้ในอาหารชั้นสูง ทุเรียนทองคำ กลายเป็นปรากฏการณ์ที่ทำให้สยามไดมอนด์ถูกพูดถึงไปทั่วโลกออนไลน์ และกลายเป็นสินค้าหลักที่สร้างรายได้เกิน 1 ล้านบาทในเวลาไม่ถึงเดือน ความแปลกใหม่ที่เป็นที่ต้องการทันทีตั้งแต่แรกเห็น เกิดการรีวิวต่อเป็นกระแสจนรู้จักกันมากขึ้นเป็นวงกว้าง
ด้วยคุณภาพที่น่าจับตา ส่งผลให้ทุเรียนสยามไดมอนด์ ได้รับรางวัล Value Creation Awards จากสำนักงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ในเรื่องของการเพิ่มมูลค่าสินค้า
ถึงแม้จะได้รับความสำเร็จจากการทำตลาดในประเทศ แต่แบรนด์ก็ยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ ทุเรียนสยามไดมอนด์ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงพาณิชย์ ในการขยายตลาดออกไปสู่ประเทศจีนในอนาคตอันใกล้ และยังคิดหาไอเดียใหม่ ๆ ที่จะสร้างความประทับใจเพิ่มขึ้นให้กับลูกค้าในโอกาสต่อไป ด้วยคุณภาพที่น่าจับตา ส่งผลให้ทุเรียนสยามไดมอนด์ ได้รับรางวัล Value Creation Awards จากสำนักงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ในเรื่องของการเพิ่มมูลค่าสินค้า, รางวัลสุดยอด SME แห่งชาติ 2024 และ Soft Power of the Year จาก สสว.
ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่
TOP Foods Supply
ที่อยู่: 64/95 ซ.อ่อนนุช 46 ถ.สุขุมวิท 77 แขวงอ่อนนุช เขตสวนหลวง กทม. 10250
โทร: 064-449-9965
อีเมล: topfoodssupply@gmail.com
เว็บไซต์: topfoodssupply.com
Facebook: topfoodssupply
Taevika Jewelry จิวเวลรีที่แปลกใหม่ เอกลักษณ์ในแบบที่ไม่มีใครทำ
พลอยที่ขึ้นชื่อ คงเป็นที่ไหนไปไม่ได้ นอกจากพลอยเมืองจันท์ และเมื่อนึกถึงพลอยก็ต้องนึกถึงการนำมาใส่ในเครื่องประดับ จังหวัดจันทบุรีจึงเต็มไปด้วยธุรกิจพลอย และร้านเครื่องประดับจำนวนมาก แล้วจะทำอย่างไรให้แบรนด์เครื่องประดับนั้นโดดเด่นและแตกต่างจากร้านอื่น ๆ ที่อยู่ในวงการเดียวกัน
Taevika Jewelry นั้น แต่เดิมเป็นที่รู้จักในกลุ่มชาวต่างชาติ จากธุรกิจส่งออกพลอยในชื่อว่า K&N Gems ก่อนจะรีแบรนด์ใหม่ในชื่อว่า Taevika Jewelry เพื่อให้ปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ทันสมัย จดจำง่ายและเพื่อขยายตลาดในประเทศ
Taevika Jewelry นั้นเป็นการทำกิจการต่อจากคุณพ่อคุณแม่ ซึ่งเป็นการรับช่วงต่อเป็นรุ่นที่ 2 ของคุณ เพนกวิน - ณัฐชยา มณีเวศย์วโรดม แต่นั่นก็ไม่ใช่เส้นทางที่ราบรื่น คุณเพนกวินได้เข้ามาดูแลกิจการตั้งแต่ยังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย เมื่อเรียนจบและเตรียมตัวที่จะเข้ามาดูแลกิจการเต็มตัว ก็ต้องเจอกับเรื่องท้าทายในทันที นั่นก็คือสถานการณ์โควิด-19 ที่แช่แข็งเกือบทุกธุรกิจให้หยุดชะงัก ยิ่งเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ที่ต้องดูแลพนักงานกว่า 200 ชีวิตนั้น ก็เป็นโจทย์ใหญ่ที่เด็กจบใหม่ตัวเล็ก ๆ ต้องแก้ปัญหาผ่านไปให้ได้
ทุ่มทั้งหัวใจทำธุรกิจ
จุดแข็งหนึ่งของ Taevika Jewelry ที่มีมาตลอดคือ รูปแบบของเครื่องประดับ ที่แปลกใหม่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร จนลูกค้าสามารถจดจำหน้าตาได้ทันทีที่เห็น โดยไม่ต้องพลิกดูชื่อแบรนด์
ในช่วงโควิด-19 ที่ธุรกิจประสบปัญหาไม่สามารถไปออกงานได้ และลูกค้าต่างประเทศพากันยกเลิกออเดอร์นั้น ธุรกิจขาดรายได้จนคุณแม่ของคุณเพนกวินคิดว่า อาจจะต้องเลือกเลย์ออฟพนักงาน ที่มีอยู่กว่า 200 ชีวิต คุณเพนกวินที่เพิ่งเรียนจบกลับมาดูแลกิจการเต็มตัว เชื่อว่ามันน่าจะมีวิธีที่ไม่ต้องเสียสละใครออกไป
ท่ามกลางความกดดัน และพยายามคิดหาทางแก้ปัญหา วันหนึ่งที่คุณเพนกวินกำลังเล่นโซเชียลมีเดีย ก็พบกับวิธีการขายของธุรกิจอื่นๆ ที่ปรับรูปแบบมาขายในช่องทางออนไลน์ รวมถึงการขายผ่านการไลฟ์สด เมื่อเห็นดังนั้นจึงไม่รอช้า ทดลองทำเพจ และไลฟ์ขายทันทีด้วยตัวเอง ซึ่งในวันแรกมีผู้ชมเพียง 100 รายเท่านั้น และไม่สามารถขายของได้ พร้อมกับแจกแหวนให้กับผู้มาเข้าชมไปฟรีๆ สิ่งนี้กลับกลายเป็นสิ่งที่เรียกแขกให้เข้ามาติดตามเพจและ ชมไลฟ์ในวันถัดๆ ไป ในเวลาเพียงไม่ถึงเดือน สามารถสร้างผู้ติดตามเพิ่มขึ้นได้หลายเท่าตัว และสร้างรายได้จากการขาย ให้สามารถพยุงธุรกิจฝ่าฟันช่วงเวลาล็อกดาวน์นั้นไปได้
จากที่เคยไลฟ์ขายเอง ก็พัฒนาสู่การปั้นทีมงานนักขาย โดยการส่งไปฝึกอบรมให้พนักงานที่มีหน้าทีในการขายทุกคน ต้องมีความรู้ความเชี่ยวชาญและมีหัวใจในการทำธุรกิจเทียบเท่ากับเจ้าของแบรนด์ เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า และให้บริการลูกค้าทุกคนทุกกลุ่ม ได้อย่างดีที่สุด
เพื่อให้บริการลูกค้าอย่างใกล้ชิด Taevika Jewelry ยังพัฒนาต่อยอดจากร้านจิวเวลรี ให้เป็นสถานที่พักผ่อนด้วยการเปิด Taevika Café ขึ้น เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้ามาท่องเที่ยวถ่ายรูป และทดลองสินค้าจริงได้ สร้างความประทับใจให้แบรนด์เข้าไปอยู่ในไลฟ์สไตล์ของลูกค้า
ด้วยคุณภาพสินค้าที่ดี รวมกับการบริการที่ดี ทำให้ Taevika Jewelry นั้น เป็นธุรกิจที่ทั้งชนะใจลูกค้า และชนะรางวัลในการประกวดแผนธุรกิจมากมายในปีที่ผ่านมา
ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่
Taevika Jewelry
ที่อยู่: 66 หมู่ 5 ถ.สุขุมวิท ต.เขาวัว อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี 22120
โทร: 085-396-9696
อีเมล: taevika.finejewelry@gmail.com
เว็บไซต์: www.taevikajewelry.co.th
Facebook: taevika