โคเนื้อพันธุ์ไทย สู่แบรนด์ Premium Beef

          ปัญหาของเกษตรกรไทยที่เลี้ยงโคเนื้อ คือ ราคาสินค้ากลุ่มเนื้อโคภายในประเทศตกต่ำมาตลอด จึงเป็นที่มาของโจทย์ที่คุณอรรควัฒน์ตั้งคำถามกับตัวเองว่า “ทำอย่างไรถึงจะเพิ่มมูลค่าสินค้าของตนเองได้?”

ทำไมเราไม่สามารถกำหนดราคาได้เอง” จึงเป็นที่มาของแนวคิดการยกระดับคุณภาพเนื้อขึ้นสู่ตลาด Premium ให้ได้ โดยต้องทำการยกระดับทั้งระบบ ตั้งแต่การคัดเลือกสายพันธุ์โคเนื้อให้ตรงกับความต้องการของตลาด, การเลี้ยง, โภชนาการที่ถูกต้อง และกระบวนการผลิตจนมาเป็นแบรนด์ N.V.K Beef

 

          N.V.K. Beef มีความตั้งใจผลิตเนื้อคุณภาพดี เพื่อมาตอบโจทย์ผู้บริโภคที่เป็นคนไทย เพราะรสนิยมของคนไทยชอบบริโภคเนื้อที่นุ่ม ติดมัน แต่ไม่เลี่ยน เลยพัฒนาจนได้เนื้อพรีเมียมที่ถูกปากของคนไทย และเป็นที่ยอมรับของชาวต่างชาติ

 

          ความพิเศษของเนื้อ “โคดำลำตะคอง” มาจากการผสมวัว 3 สายพันธุ์ที่ดึงเอาคาแรกเตอร์และคุณภาพเนื้อที่โดดเด่นแตกต่างกันของแต่ละสายพันธุ์ ได้แก่ ลูกผสมพื้นเมือง ที่มีรสชาติเข้มข้นและกลิ่นหอม มีความถึกทน วากิว มีเอกลักษณ์ คือ ปริมาณไขมันแทรกในเนื้อคล้ายกับลายหินอ่อน และ แองกัส ที่มีการเจริญเติบโตไว มีอัตราการแลกเนื้อสูงและทนต่อสภาพแวดล้อมในพื้นที่ได้ดี ซึ่งปัจจุบันสามารถทำให้เกิด “พ่อพันธุ์กึ่งสำเร็จรูป” ลูกผสม 3 สายเลือด โดยการผสมเพียงครั้งเดียว

 

เลี้ยงโคเนื้อยังไงให้ SPECIAL

          N.V.K. มีการใช้เทคโนโลยีในการปรับปรุงสายพันธุ์ที่มีประสิทธิภาพ เช่น สมาร์ทฟาร์ม การย้ายฝากตัวอ่อน (Embryo Transfer: ET) การผสมเทียม เพื่อปรับปรุงพัฒนาสายพันธุ์โคให้มีประสิทธิภาพและเป็นที่ต้องการของตลาด รวมถึงการดูแลในส่วนของการผลิตอาหารที่ใช้เลี้ยงโค ป้องกันการปนเปื้อนของสารเคมีที่ไม่พึงประสงค์ เพื่อให้เนื้อคงคุณภาพและรสชาติเดียวกันทุกชิ้น

          ทางฟาร์มยังมีการเลี้ยงอย่างประณีตและพิถีพิถัน ตลอดกระบวนการตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ รวมถึงสูตรอาหารที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากอุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีด้วยเช่นกัน ทั้งยังเสริมด้วยสาโทพื้นบ้าน ที่จะช่วยเพิ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของโคในสูตร และปริมาณที่แตกต่างไปตามช่วงอายุ จุลินทรีย์เหล่านี้ทำให้ระบบการย่อยวัวดี ลดการปล่อยก๊าซมีเทน ที่เป็นสาเหตุของก๊าซเรือนกระจก ทำให้โคเหล่านี้มีสุขภาพดี เพราะเชื่อว่า “เนื้อที่ดี ต้องมาจากโคที่ดี" เนื้อวัวจากฟาร์มทุกชิ้นจะมาพร้อมคิวอาร์โค้ด ที่ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ มั่นใจได้ว่าเป็นเนื้อวัวที่ปลอดภัย ดังนั้น “โคดำลำตะคอง” จึงเป็นเนื้อโคไทยคุณภาพสูง (Premium Beef) ที่มีกลิ่นรสชาติโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ “โคหนุ่ม เนื้อนุ่ม ชุ่มมัน”

 

ใช้การตลาดนำ....จากวัวชั้นยอด สู่เนื้อชั้นเยี่ยม ในราคาที่จับต้องได้

          ในส่วนของการต่อยอดธุรกิจออกสู่ตลาด สสว.มีส่วนช่วยในการเป็นตัวกลางส่งเสริมการขายที่สำคัญ รวมทั้งการสร้างแบรนด์ หาจุดเด่นของแบรนด์ การทำการตลาดทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ อีกทั้งศูนย์ให้บริการ SME จังหวัดนครราชสีมา เข้ามาช่วยส่งต่อบริการไปยังหน่วยงานในพื้นที่ ซึ่งทำให้แบรนด์ N.V.K.Beef เป็นที่รู้จักแพร่หลายไปทั่วประเทศ และขยายสู่ตลาดโลกเพิ่มขึ้นในอนาคต

          เป้าหมายของ N.V.K. คือการขยายช่องทางการแปรรูปสินค้าเนื้อ เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าสินค้า รวมถึงการขยายตลาดไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมทั้งต่อยอดในเชิงการพัฒนาผลิตภัณฑ์เนื้อแปรรูปเป็นอาหารพร้อมทานประเภทแกง และอื่นๆ แบบบรรจุในถุงรีทอร์ทเพาช์

          สุดท้ายคือการสร้างเครือข่ายโคเนื้อต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เพื่อสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรไทยและเพื่อขยายกำลังการผลิตเนื้อโคคุณภาพให้กับเกษตรกรเชื่อมโยงกับเครือข่ายทั่วประเทศ

          อีกทั้งตอนนี้ทาง N.V.K  Farm ยังเปิดให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ให้กับนักเรียน นักศึกษา เกษตรกร และประชาชนทั่วไปที่สนใจได้เข้ามาศึกษาได้แบบครบวงจร

          “ตอนนี้เรามีช่องทางการขาย 4 ช่องทาง คือช่องทางขายค้าปลีกให้กับผู้บริโภคทั่วไป เรามีบุชเชอร์อยู่ในตัวเมืองโคราช ช่องทางที่ 2 คือขายออนไลน์ช่องทางที่ 3 คือขายชิ้นส่วนตัดแต่งให้กับร้านอาหารในโคราช และการขายยกซากให้บุชเชอร์ที่สนใจ นอกจากนั้นเรายังมีเนื้อที่ขายให้บุชเชอร์หรือร้านอาหารต่างๆ ตามจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ เป็นต้น”

 

Winner Northeast
 “N.V.K. Premium Beef”
Thailand’s world-class quality marbled beef

 

 

ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่

บริษัท เอ็น.วี.เค.ฟาร์ม โปรดักส์ จำกัด 

ที่อยู่: 355 หมู่ที่ 9 ต.หนองหญ้าขาว อ.สีคิ้ว, จ.นครราชสีมา

โทร: +66 81 487 1081

Line: @nvkbeef

อีเมล: nvkproduction.beef@gmail.com

Facebook: https://www.facebook.com/N.V.K.Farm?locale=th_TH, https://www.facebook.com/nvkpremiumbeef/

บทความแนะนำ

ญี่ปุ่นเผชิญปัญหาขาดแคลนข้าวและข้าวราคาแพงมากสุดในรอบหลายปี

🟥 #Marketeeronline 🟥 หลังญี่ปุ่นเผชิญปัญหาขาดแคลนข้าวและข้าวราคาแพงมากสุดในรอบหลายปี จากหลายสาเหตุ สถานการณ์เรื่องข้าวในญี่ปุ่นก็ได้รับความสนใจ ท่ามกลางข้อมูลเพิ่มเติมและข่าวที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง
.
แต่โชคร้ายที่สถานการณ์ยังไม่ทุเลา จนปริมาณนำเข้าข้าวเพิ่มขึ้น ท่ามกลางทัศนคติของชาวญี่ปุ่นที่เปลี่ยนไป ขอแค่ให้ได้ข้าวราคาถูก โดยแทบไม่สนใจว่าข้าวที่ซื้อไปนั้นจะปลูกในประเทศหรือนำเข้ามา
.
ปีงบประมาณนี้ที่สิ้นสุดเมื่อมีนาคมที่ผ่านมา ญี่ปุ่นนำเข้าข้าวจากต่างประเทศแบบปลอดภาษีเพิ่มขึ้นมากสุดในรอบ 7 ปีจนชนเพดาน จำกัดการนำเข้าแบบปลอดภาษี 100,000 ตันต่อปี ตามมาตรการปกป้องข้าวในประเทศที่ใช้มานาน ไปเรียบร้อยแล้ว
.
ส่วนข้าวต่างประเทศที่ต้องเจอภาษีนำเข้าก็เพิ่มขึ้นถึง 4 เท่าจากเมื่อ 11 เดือนก่อน
.
ด้าน Kanematsu หนึ่งในบริษัทนำเข้าข้าวของญี่ปุ่นเผยว่า ด้วยความต้องการข้าวจากทั้งของประชาชนทั่วไป ร้านอาหารและห้างสรรพสินค้า ทำให้ปีนี้ปริมาณนำเข้าข้าวของบริษัทสูงถึง 10,000 ตันเป็นครั้งแรก
.
ท่ามกลางรายงานว่าราคาขายข้าวถุงหนัก 5 กิโลกรัมในญี่ปุ่น ขึ้นไปอยู่ที่ถุงละ 4,214 เยน (ราว 986 บาท) แล้ว โดยเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาเป็นสัปดาห์ที่ 14 แล้ว และแพงขึ้น 2 เท่าจากช่วงเวลานี้ของปี 2024
.
นี่ยังทำให้ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่ที่เดินทางไปเกาหลีใต้หรือแวะพักเพื่อต่อเครื่องบิน ไม่ลืมที่จะซื้อข้าวที่ราคาถูกกว่ามากกลับไปด้วย แม้ต้องเหนื่อยยก และเสียเวลาทำเอกสารที่สนามบินก็ตาม
.
ข้อมูลที่สะท้อนว่า การนำเข้าข้าวจากต่างประเทศของญี่ปุ่นคงจะเพิ่มขึ้นอีก ยังไม่หมดแค่นั้น
.
Aeon ซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ของญี่ปุ่นที่มีสาขามากมาย เผยว่าเมื่อราว 20 เมษายนที่ผ่านมา ได้นำข้าวนำเข้าจากสหรัฐฯ ไปวางขายคละกับข้าวปลูกในญี่ปุ่น เพื่อดูว่าจะขายดีหรือไม่
.
ด้าน Seiyu เครือซูเปอร์มาร์เก็ตอีกแห่ง ก็นำข้าวนำเข้าจากไต้หวันมาขายตั้งแต่เมื่อปี 2024 โดยปรากฏว่าขายดีมาก ส่วนเครือร้านอาหาร Colowide และเครือร้านฟาสต์ฟู้ด Matsuya ก็เริ่มนำข้าวนำเข้าจากสหรัฐฯ มาทำเมนูข้าวแบบ 100% แล้ว
.
ขณะที่เจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งในโตเกียวเผยว่า ซื้อข้าวนำเข้าจากสหรัฐฯ มาทำเมนูให้ลูกค้าแล้วพักใหญ่ โดยแม้แพงขึ้นกว่าปี 2024 สองเท่าแต่ก็จะทำแบบนี้ต่อไป จนกว่าข้าวปลูกในญี่ปุ่นราคาจะถูกลง
.
ส่วนกรณีที่สถานการณ์ไม่ดีขึ้นก็อาจขยับไปซื้อข้าวนำเข้าจากประเทศอื่น ๆ เพิ่มด้วย
.
จากข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวมา จึงเป็นการสะท้อนว่า วิกฤตข้าวขาดแคลนจนราคาแพงขึ้นในญี่ปุ่น จากภาวะโลกร้อน เก็บเกี่ยวได้น้อยเพราะชาวนาส่วนใหญ่เป็นผู้สูงวัย ค่าครองชีพแพง และข้าวปริมาณมากต้องถูกนำไปเป็นเมนูขายนักท่องเที่ยวที่ก็มากจนเกิดปัญหานักท่องเที่ยวมากเกินไป จะยังคงดำเนินต่อไป
.
และหากรัฐบาลไม่นำข้าวในคลังออกมาประมูลขายอีก และผ่อนปรนมาตรการจำกัดปริมาณนำเข้าข้าวแบบปลอดภาษีลงบ้าง ชาวญี่ปุ่นอาจต้องซื้อข้าวด้วยราคาแพงขึ้นเรื่อย ๆ กันต่อไป
.
ส่วนในทางตรงกันข้าม หากรัฐบาลใช้แนวทางผ่อนปรนและเปิดโอกาสข้าวต่างประเทศ แน่นอนว่าข้าวจากต่างประเทศจะไหลเข้าญี่ปุ่นในปริมาณมากขึ้น โดยประเทศที่จะได้ประโยชน์มากสุดคือสหรัฐฯ เพราะเมื่อปีงบประมาณที่แล้ว สหรัฐฯ คืออันดับ 1 ของต้นทางข้าวนำเข้าของปลอดภาษีของญี่ปุ่น คิดเป็น 60% จากทั้งหมด
.
ขณะที่ ออสเตรเลีย ไทย และไต้หวัน ก็จะได้ประโยชน์รอง ๆ ลงมา เพราะครองสัดส่วนการนำเข้าถัดจากสหรัฐฯ นั่นเอง
.
อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามต่อไปว่า สหรัฐฯ จะส่งออกข้าวไปญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอีกมากน้อยแค่ไหน เพราะแม้เป็นต้นทางนำเข้าอันดับ 1 แบบเกินครึ่ง และข้าวสหรัฐฯ ก็ใช้กันตามร้านอาหารในญี่ปุ่นมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ข้าวสหรัฐฯ ก็ปลูกในแคลิฟอร์เนีย รัฐฐานเสียงของพรรคเดโมเครต ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ไม่ใช่ของพรรครีพับลิกัน ที่เป็นพรรครัฐบาลชุดปัจจุบัน
*****
(ที่มา : japantoday)
.
#นำเข้า #ข้าวต่างประเทศ #ญี่ปุ่น #สหรัฐฯ #Aeon #Seiyu

บทความแนะนำ

บีโอไอ เผยยอดขอรับส่งเสริมการลงทุนไตรมาสแรก ปี 2568

✨บีโอไอ เผยยอดขอรับส่งเสริมการลงทุนไตรมาสแรก ปี 2568 ทะยานต่อเนื่อง ทั้งจำนวนโครงการและเงินลงทุน

📈 ภาวะการส่งเสริมการลงทุนไตรมาสแรก ปี 2568 (มกราคม - มีนาคม 2568)
🔸 โครงการขอรับการส่งเสริมการลงทุน มีจำนวน 822 โครงการ เพิ่มขึ้น 20%
🔸 มูลค่าการลงทุน 431,237 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 97%
📁คำขอรับการส่งเสริมการลงทุนตามภูมิภาค ภาคตะวันออก สูงสุดเป็นอันดับ 1 จำนวน 444 โครงการ มูลค่า 246,555 ล้านบาท
📊 FDI มูลค่ารวม 267,664 ล้านบาท ฮ่องกงสูงสุดเป็นอันดับ 1

📌 อ่านเพิ่มเติม https://www.boi.go.th/index.php?page=press_releases_detail&topic_id=136859&_module=news&from_page=press_releases2&language=th


📌 Read more https://www.boi.go.th/index.php?page=press_releases_detail&topic_id=136859&_module=news&from_page=press_releases2&language=en

 

✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨
"บีโอไอส่งเสริมการลงทุน ทั้งคนไทยและต่างชาติ ทุกขนาดการลงทุน"
📱 0 2553 8111
📧 head@boi.go.th
🌐 www.boi.go.th
⚜️ ไม่มีค่าใช้จ่ายในการติดต่อ

บทความแนะนำ

ธุรกิจในเครือ CP ได้เปิดตัว “Amaze Super App”

ปัญหานี้หลายคนน่าจะเคยประสบปัญหามาก่อน เก็บพอยท์สะสมจากการใช้จ่ายหลากหลายช่องทาง ได้ทีละนิดทีละหน่อย แต่รวมๆ ก็ใช้ไม่ได้ครบขนาดนั้น บางคนซื้อของหลายที่มีแต้มอยู่หลายแพลตฟอร์มกระจัดกระจาย พอสิ้นปีกลับมีแต้มนิดเดียวไม่รู้จะเอาไปใช้อะไร ปล่อยหมดอายุไปเปล่าๆ
.
ล่าสุด ธุรกิจในเครือ CP ได้เปิดตัว “Amaze Super App” เพื่อแก้ pain point นี้ของคนไทย ซึ่งเป็นแอปฯ ที่เปรียบเสมือน Loyalty E-Commerce Platform ที่รวมแต้มจากหลายแหล่ง ไม่ว่าจะเป็น ALL POINT, My Lotus's, Makro PRO POINT, True Point หรือแม้แต่พอยท์จากบัตรเครดิตชั้นนำ ให้มาอยู่ในที่เดียวกัน
.
และในอนาคตอาจมีกิจกรรมออนไลน์เพื่อแลกพอยท์ เช่น การดูไลฟ์ ทำกิจกรรม หรือร่วมแคมเปญต่างๆ ผู้ใช้ก็สามารถเก็บแต้มมาไว้ที่เดียวกันได้เลย
.
โดยเงื่อนไขการใช้พอยท์ก็ไม่มีอะไรซับซ้อน เพราะสามารถใช้แทนเงินสดได้จริงแบบไม่มีขั้นต่ำ ใช้แต้มได้ตั้งแต่ 1 บาทแรก ไปจนกว่าจะหมด
.
นอกจากแลกแต้มแล้วในแอปฯ ยังขายสินค้าต่างๆ คล้ายแหล่งรวมศูนย์ช้อปปิ้งออนไลน์ทั่วไปเข้าด้วยกัน โดยจะมีร้านค้าพันธมิตรกว่า 500 ร้าน สินค้ามากกว่า 50,000 SKUs ซึ่งในอนาคตมีแพลนจะขยายไปสู่บริการที่หลากหลายกว่านี้
.
[ เป็นเหมือนกล่องเก็บเศษเหรียญ​ สามารถย้ายแต้มไปมา ]
.
กลไกการทำงานของ ‘Amaze Super App’ ก็คือจะเชื่อมข้อมูลบัญชีของเราในเครือ CP เข้าไว้ด้วยกัน และสามารถโอนพอยท์ผ่านกันและกันไปใช้ลดสินค้าในแอปนั้นๆ ได้ สมมติว่า เรามีแต้มอยู่ในบัญชี My Lotus's ประมาณ 1,000 แต้ม เราอยากโอนไปซื้อของใน Amaze Super App เราก็สามารถโอนแต้มไปได้ และไปใช้ลดใน Amaze
.
หรือบางคนที่มีแต้มกระจัดกระจาย เช่น ในทรูมันนี่ 300 แต้ม, Lotus's 1,000 แต้ม, Makro PRO POINT 2,000 แต้ม ก็สามารถเอาแต้มพวกนี้โอนกลับมาไว้ที่ Amaze รวมกันไว้ก่อน แล้วถ้าอยากเอาแต้มไปใช้กับบริการไหนก็ค่อยโอนไปใช้ได้ เช่น บางคนรวมแต้มแล้วอยากไปซื้อของ Lotus's ก็ใช้แต้มที่รวมไว้ใน Amaze ไปลดราคาได้
.
ซึ่งแต้มจาก ALL POINT, My Lotus's, Makro PRO POINT และ True Point ทุกๆ 1 พอยท์ก็จะสามารถนำไปแลกเป็น Amaze Point ได้ 1 แต้มเท่ากัน โดยที่ Amaze Point 1,000 แต้มเท่ากับ 10 บาท
.
นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถเชื่อมพอยท์จากบัตรเครดิตอย่าง KBank, Krungsri, UOB, BBL, GSB, SCB, FirstChoice หรือ POINTX เข้ามารวมเป็น "Amaze Point " ได้ โดยระบบจะคำนวณมูลค่าที่ใช้ได้จริงให้แบบเรียลไทม์ และสามารถใช้ช้อปได้ทันที
.
ปัจจุบันสมาชิกในเครือ CP ที่มีอยู่ทั้งหมด 36 ล้านคน มีคะแนนค้างอยู่ในระบบรวมกันทุกแบรนด์ราวๆ 600 ล้านคะแนน
.
[ เชื่อมต่อระบบภายในเครือ CP ให้กลายเป็น Ecosystem เดียวกัน ]
.
เบื้องหลังการพัฒนา Amaze ก็คือเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) ต้องการสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจให้เชื่อมโยงกัน ใช้ข้อมูลจากหลาย Business Unit เข้าด้วยกัน ทำให้สามารถมองเห็นภาพรวมของลูกค้าแบบ Single View
.
Amaze จะทำให้รู้ว่าพฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนแปลงอย่างไร ใช้อะไรบ่อย ซื้อของที่ไหนซ้ำ หรือ ลูกค้าประทับใจแบรนด์ใดบ้าง ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ไม่ใช่แค่ใช้เพื่อการขาย แต่ใช้เพื่อพัฒนาคุณภาพสินค้า บริการ และสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าในระยะยาว
.
‘ศุภชัย เจียรวนนท์’ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้กล่าวถึงการเปิดตัว Amaze Super App ว่า “Amaze เป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการสร้างสิทธิประโยชน์ให้กับกลุ่มลูกค้า โดยนำเอาผู้ผลิตมาพบกับผู้บริโภคในเครือข่ายฐานลูกค้าของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ซึ่งมีมากกว่า 100 ล้านผู้ใช้งานทั่วประเทศ นี่คือก้าวสำคัญของยุทธศาสตร์ ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน ที่เรากำลังดำเนินการ”
.
“หัวใจสำคัญของ Amaze คือการมุ่งนำเอาประโยชน์สูงสุดกลับไปสู่ผู้บริโภคและสมาชิก ด้วยการใช้ข้อมูลที่ดี ถูกต้อง และแม่นยำ ทำให้เราสามารถเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น และต่อยอดด้วยจุดแข็งของการเป็นบริษัทไทยที่มีความโดดเด่นด้านบริการหลังการขายและการรับประกันคุณภาพ เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้ให้บริการระดับโลก”
.
พร้อมทิ้งท้ายว่า “Amaze คือก้าวแรกของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีที่สร้างโดยคนไทย เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการในยุคดิจิทัล และผลักดันให้คุณภาพชีวิตของคนไทยดีขึ้นอย่างยั่งยืนในระยะยาว”
.
#TODAYBizview
#MakeTomorrowTODAY

บทความแนะนำ

พีดีเอ็ม แบรนด์ ยกระดับเสื่อไทย สู่ของตกแต่งบ้านระดับโลก

     

     “PDM” มีที่มาจากคำว่า “Product Design Matters” หรือแปลง่าย ๆ ว่า “การออกแบบผลิตภัณฑ์นี่มันสำคัญมาก" บริษัทเกิดจากการรวมตัวของกลุ่มดีไซน์เนอร์ที่มีประสบการณ์การทำงานร่วมกับบริษัทชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ กวาดรางวัลสุดยอดนักออกแบบมาแล้วหลายเวทีทั่วโลก   


      ธุรกิจในกลุ่มมีทั้งการให้คำปรึกษาด้านการออกแบบ พัฒนา และผลิตเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งทั้งภายในและภายนอกอาคาร ให้กับผู้ส่งออกและผู้ประกอบการ SMEs รวมทั้งการร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ในโอกาสพิเศษกับแบรนด์ชื่อดังต่าง ๆ อีกด้วย

 

       สินค้าที่สร้างชื่อเสียงให้กับ PDM คือ เสื่อ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์แรกที่ผลิตขึ้นมาจากแนวคิดที่ต้องการให้เสื่อไทยกลายเป็นพรมเมืองร้อน ที่สะท้อนอัตลักษณ์ของแบรนด์ PDM Brand ที่ไม่เพียงสวยแบบสากล แต่ยังทนทานด้วยวิธีการทออย่างพิถีพิถัน ตรวจสอบรายละเอียดทุกขั้นตอน รวมทั้งต้องเป็นสินค้ารักษ์โลกด้วย

 

‘Product Design Matters’
      หนึ่งในกลยุทธ์ที่ทำให้แบรนด์ชนะใจลูกค้าและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องมาจาก 3 สิ่ง คือ โปรดักต์ การสื่อสารประชาสัมพันธ์ และดาต้า มาร์เก็ตติ้ง ซึ่งการจะทำโปรดักต์ชิ้นใดออกมาขาย ก็ต้องดูว่าของชิ้นนั้นเป็นสิ่งที่อยากทำหรือไม่เป็นอันดับแรก

 

      ‘Product Design Matters’ หรือ ‘การออกแบบผลิตภัณฑ์นั้นสำคัญเป็นอย่างยิ่ง’ ปรัชญาในการทำงานของ PDM Brand จึงไม่เพียงสร้างภาพลักษณ์ที่สวยงาม แต่คือการสังเกตและศึกษาพฤติกรรมผู้ใช้ เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกว่าผู้บริโภคมีความต้องการ ความฝัน หรือปัญหาใดแม้เพียงเป็นจุดเล็ก ๆ ในชีวิตประจำวัน เพื่อออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ทำให้การใช้ชีวิตของผู้คนดีขึ้นในมิติใดมิติหนึ่ง

 

“งานดีไซน์ที่ตอบโจทย์ครบทุกความต้องการ”

         PDM แบ่งเป็น 4 โมเดลธุรกิจ อย่างแรกคือ ‘Original Design’ คือ คิดเอง ทำเอง ขายเอง ด้วยความที่ไม่มีโรงงาน ทาง PDM จะชวนดีไซเนอร์มาทำงานด้วยกันบ้าง กับออกแบบเองบ้าง อย่างที่สองคือ ‘Select’ คือทำตัวเป็นกูรู เลือกหาของดีไซน์ดี ๆ ซื้อมาขายไป อย่างที่สามคืองาน ‘Collaboration’ เป็นการทำงานร่วมกับแบรนด์ชั้นนำต่าง ๆ และอย่างสุดท้ายคือทำเป็นโปรเจ็กต์ ‘Supervision’ ทำของพรีเมียมให้กับองค์กรต่าง ๆ โดยทาง PDM ทำทั้งระบบ ตั้งแต่ผลิต ตรวจสอบคุณภาพ และส่งของให้

 

        อย่างที่สองคือ โปรดักต์กลุ่ม Living คือพวกเฟอร์นิเจอร์ โซฟา เก้าอี้ โต๊ะ ฯลฯ 

 

        อย่างที่สามคือ Fashion Living มีสินค้าอย่างกางเกงช้าง กระเป๋าเดินทาง กระเป๋าครอสโอเวอร์
และยังได้ร่วมงานกับแฟชั่นดีไซเนอร์หลายคนด้วย

 

        และอย่างที่สี่คือ เครื่องใช้ไฟฟ้าในไลน์ Home Appliances

 

“สำหรับก้าวต่อไปของ PDM ซึ่งกำลังจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 11 นี้ ได้รับการเปิดเผยว่า PDM Shop กำลังจะเป็นรูปเป็นร่างให้ได้ชมและช้อปกันในอีกไม่นานนี้ 

 

       ส่วนฝันต่อไปที่ดีไซเนอร์ในฐานะเจ้าของแบรนด์อย่างคุณดิวอยากจะไปให้ถึง คือการทำให้ PDM กลายเป็น National brand ที่เมื่อพูดถึงข้าวของที่มีดีไซน์โดดเด่นในภูมิภาคอาเซียน ใคร ๆ ก็ต้องนึกถึงแบรนด์ PDM

 

 

ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่

 

บริษัท พีดีเอ็ม แบรนด์ จำกัด

 

ที่อยู่: 8 Pattanakarn 20 Yak 4 Suanluang Bangkok, Thailand, Bangkok 10250

โทร: 094 976 3883

อีเมล: info@pdmbrand.com

เว็บไซต์: https://pdmbrand.com/

Facebook: https://www.facebook.com/PDMBRAND

บทความแนะนำ