มาตรการสนับสนุนให้ SME เข้าถึงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ
ความเป็นมา
กฎกระทรวงกำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2563 ได้ผ่านการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2563 และประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2563 โดยกฎกระทรวงกำหนดให้หน่วยงานของรัฐจัดซื้อจัดจ้างสินค้าหรือบริการจากผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ที่ได้ขึ้นบัญชีรายการพัสดุและบัญชีรายชื่อไว้กับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)
สิทธิประโยชน์
1) กรณีจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีคัดเลือก : กำหนดให้หน่วยงานภาครัฐจัดซื้อจัดจ้างจากผู้ประกอบการ และสินค้าหรือบริการของ SME ที่ สสว. ได้ขึ้นบัญชีไว้
ไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของงบประมาณจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่อยู่ในบัญชีรายชื่อผู้ประกอบการ SME โดยให้หน่วยงานของรัฐ ดำเนินการดังนี้
2) กรณีจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bidding) : ให้แต้มต่อด้านราคาแก่ SME ร้อยละ 10
หากผู้เสนอราคาเป็น SME ตามบัญชีรายชื่อที่ สสว. ได้ขึ้นบัญชีไว้ สามารถเสนอราคาได้สูงกว่าราคาต่ำสุดของผู้เสนอราคารายอื่นไม่เกินร้อยละ 10
โดยระบบ e-GP จะคำนวณคะแนนให้อัตโนมัติ
เงื่อนไขสำคัญ
เป็นผู้ประกอบการ SME ที่ขึ้นทะเบียนสินค้า/บริการ ไว้ที่ thaismegp.com ที่คุณสมบัติเป็นไปตามนิยาม SME ที่ สสว. กำหนด โดยพิจารณาจากเกณฑ์รายได้เท่านั้น
นิติบุคคล : สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (กระทรวงพาณิชย์ออกให้ไม่เกิน 6 เดือน)
บุคคลธรรมดา : ทะเบียนพาณิชย์ หรือหลักฐานการจดทะเบียนกับหน่วยงานราชการ
นิติบุคคล : งบการเงินปีล่าสุด
บุคคลธรรมดา : เอกสารหรือหลักฐาน การยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เช่น
เอกสารการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
การขึ้นทะเบียน
SME ขึ้นทะเบียนออนไลน์ด้วยตนเองที่ www.thaismegp.com
ติดต่อสอบถาม
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)
โทร. 1301 | Email : thaismegp@sme.go.th | ศูนย์ให้บริการ SME ครบวงจร (OSS) ทั่วประเทศ
“เรื่องในอดีตที่จบไปแล้วเกี่ยวข้องกับชีวิตในปัจจุบันอย่างไร” หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีคำถามนี้อยู่ในหัว แสดงว่าคุณอาจจะยังไม่เข้าใจคำว่า “ประวัติศาสตร์” ดีพอ
นิตยสารคิดฉบับนี้ชวนมาอ่านให้เห็นว่าความหมายที่แท้จริงของประวัติศาสตร์คืออะไร เราสามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ โดยการหยิบใช้ประวัติศาสตร์อย่างไรได้บ้าง
ตลอดจนสำรวจรูปแบบการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ว่าควรเป็นไปในทิศทางใด เพื่อทำให้ประวัติศาสตร์เคลื่อนไปเป็นปัจจุบัน และพร้อมที่จะเป็นฐานแห่งอนาคต
ไม่ใช่เพียงบันทึกเก่าเก็บที่รอวันถูกลืม
ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมอาหารสุขภาพ หรือ TISTR ก่อตั้งขึ้นเพื่อตอบสนองนโยบายรัฐบาลในการพัฒนาระบบเศรษฐกิจ เนื่องจากประเทศไทยมีความได้เปรียบในด้านความหลากหลายของวัตถุดิบและทรัพยากรทางด้านอาหารอยู่ในอันดับต้นๆของโลก ทางศูนย์มีหน้าที่มุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับวัตถุดิบภายในประเทศรวมทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพ สำหรับกลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจในสุขภาพโดยใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ในการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจในด้านอาหารสุขภาพของไทยให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลกโดยมีบริการทั้ง
การวิจัย พัฒนา บริการพื้นฐาน วิเคราะห์ ทดสอบ และให้คำปรึกษาด้านอาหารและเครื่องดื่มฟังก์ชัน ผลิตภัณฑ์อาหาร และสารสำคัญในอาหารจากธรรมชาติ รวมไปถึงวัตถุอันตราย และเครื่องสำอาง โดยเด่นในเรื่องของ การวิจัยพัฒนาด้านอาหาร คลังข้อมูลต้นแบบเรื่องบรรจุภัณฑ์ ข้อมูลผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ รวมถึงการทดสอบมาตรฐานบรรจุภัณฑ์ เพื่อผู้ประกอบการSME ทุกประเภทโดยเฉพาะผู้ประกอบการด้านอาหาร ผู้ประกอบการที่เคยมาใช้บริการเช่น ธุรกิจผัก ผลไม้ อาหาร เครื่องดื่ม
งานบริการด้านวิจัยและพัฒนา
งานบริการด้านโครงสร้างพื้นฐาน
ผู้ประกอบการที่สนใจเข้ามาใช้บริการของทาง ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมอาหารสุขภาพ สามารถ Walk-in เข้ามาเลยหรือสมัครผ่านเว็บไซต์ โดยมีขั้นตอนในการรับบริการดังนี้
หรือติดต่อที่
ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมอาหารสุขภาพ (ศนอ.) สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.)
35 ม. เทคโนธานี ถนน เลียบคลองห้า ตำบล คลองห้า อำเภอ คลองหลาวง จังหวัด ปทุมธานี 12120
โทรศัพท์ 02-577-9137
โทรสาร 02-577-9137
E-mail : Innofood@tistr.or.th
ศูนย์ส่งเสริงอุตสาหกรรม ภาคที่ 11 สงขลา ก่อตั้งมาเพื่อแก้ปัญหาให้กับผู้ประกอบการ เพื่อส่งเสริมสนับสนุน ช่วยเหลือผู้ประกอบการในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยผ่านกิจกรรมหรือโครงการต่าง ๆ ที่จัดทำขึ้นมาตามความต้องการพัฒนาอุตสาหกรรมของผู้ประกอบการในพื้นที่ ส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม วิสาหกิจชุมชน ผู้ประกอบการ และผู้ให้บริการธุรกิจอุตสาหกรรมให้มีขีดความสามารถที่สูงขึ้น โดยการให้ความรู้ แนวคิด การจัดตั้งธุรกิจ และบ่มเพาะธุรกิจ โดยมีผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาแนะนำและช่วยเหลือ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ รวมไปถึงสร้างความเป็นเอกลักษณ์ให้กับผลิตภัณฑ์ และนำงานวิจัยมาเพิ่มมูลค่าโดยใช้วัตถุดิบที่มีอยู่ในภาคใต้เพื่อผู้ประกอบการ- SME ทุกประเภท เช่น Micro SMEs ที่เพิ่งเริ่มต้น เช่น ประมงพื้นบ้าน ปศุสัตว์ การปลูกพืช การแปรรูปอาหาร
จุดเด่นของศูนย์ฯ คือการนำศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรมเข้ามาร่วม มีการทำ Pilot Plant โดยเทคโนโลยีใหม่ ซึ่งเป็นผลดีกับผู้ประกอบการ อย่าง Micro SMEs ที่เพิ่งเริ่มต้น และยังไม่มีงบในการลงทุนพัฒนา ก็สามารถเข้ามาใช้เครื่องมือจากศูนย์ฯ ในการพัฒนาช่วงเริ่มต้นได้ ทั้งเครื่องอบ เครื่องทอดสุญญากาศ เครื่องนึ่งฆ่าเชื้อเพื่อยืดอายุสินค้า โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
1. นำแนวคิดของผู้ประกอบการมาพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยให้บริการเทคโนโลยีที่ผู้ประกอบการอาจเข้าถึงได้ยาก โดยการให้บริการเทคโนโลยีในการผลิต ด้วยบริการเครื่องจักรหลากหลายประเภท เช่น เครื่องอบ เครื่องทอดสุญญากาศ เครื่องนึ่งฆ่าเชื้อเพื่อยืดอายุสินค้า ตลอดจนการออกแบบบรรจุภัณฑ์ การออกแบบตราสินค้า โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
2. การพัฒนาจะใช้เทคโนโลยีและงานวิจัยต่าง ๆ โดยใช้วัตถุดิบในพื้นที่ วัตถุดิบเด่น ๆ เช่น ยางพารา เกษตรแปรรูป อาหารทะเล ประมงพื้นบ้าน ปศุสัตว์ การปลูกพืชในพื้นที่
3. การพัฒนาผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ การออกแบบผลิตภัณฑ์โดยใช้เทคโนโลยี เช่น การออกแบบบรรจุภัณฑ์ การออกแบบตราสินค้า โดยมีนักวิทยาศาสตร์ทางด้านอาหารให้คำปรึกษาแนะนำ ควบคู่ไปกับนักออกแบบบรรจุภัณฑ์
4. ให้ความรู้และแนวคิดในการทำธุรกิจเบื้องต้น เช่น การสร้างแบรนด์ที่มีอัตลักษณ์ การสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ การขออย. เรื่องลิขสิทธิ์ต่างๆ รวมทั้งมีเงินทุนหมุนเวียนที่จะช่วยสนับสนุนกับผู้ประกอบการแบบครบวงจร
5. Service Provider พื้นที่ที่พัฒนาขึ้นมาสำหรับให้คำปรึกษา แนะนำ ต้อนรับผู้ประกอบการที่ Walk In เข้ามาให้คำปรึกษาแนะนำและช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ หรือ ผู้เชี่ยวชาญในพื้นที่ เช่น ในช่วงวิกฤติ COVID-19 ทางศูนย์ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบเป็นการอบรมส่งเสริมผู้ประกอบการในการทำธุรกิจออนไลน์ ผ่านออนไลน์โปรแกรม เพื่อเพิ่มช่องทางในการจำหน่ายสินค้าในช่วงสถานการณ์ที่ผ่านมา
6. มีเครือข่ายในโครงการที่ชื่อว่า “บูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ” เพื่ออำนวยความสะดวก ผู้ประกอบการสามารถนำเพียงผลิตภัณฑ์ตั้งต้นเข้ามารับคำปรึกษาจนสามารถสร้างต้นแบบผลิตภัณฑ์ได้
อีกหนึ่งบริการของทางศูนย์ที่มีให้ผู้ประกอบการคือการบริการให้พื้นที่เช่าในการดำเนินธุรกิจ อย่างผู้ประกอบการที่มีโปรดักซ์แต่ไม่มีพื้นที่และอยากทดลองผลิต โดยผู้ประกอบการต้องเสนอแผนงานธุรกิจให้กับทางศูนย์ฯ ก่อนที่จะได้รับอนุญาติ โดยคัดจากความจำเป็นและโอกาสความเป็นไปได้ในทางตลาดที่สามารถพัฒนาต่อไปได้ ทางศูนย์ก็จะให้เช่า โดยอัตราค่าเช่าตารางเมตรละ 2 บาท เดือนละหลักร้อย มีทั้งหมด 7 Unit และพื้นที่ Co-working Space ที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้แลกเปลี่ยนข้อมูลกันเอง
ผู้ประกอบการที่สนใจใช้บริการติดต่อเพิ่มเติมทาง ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 11 165 ถนนกาญจนวนิช
ตำบล น้ำน้อย อำเภอ หาดใหญ่ จังหวัด สงขลา 90110
โทร 074-211905-8 , 074-211565 , 074-211565
โทรสาร 074211904
อีเมล ipc11@dip.go.th