เข้าถึงทุกข้อมูลข่าวสาร เคล็ดลับความสำเร็จในการทำธุรกิจ และผลิตภัณฑ์ทางการเงินดีๆ ที่คัดสรรมาพร้อมเสริฟ์ให้กับผู้ประกอบ SME ทุกท่าน และสิทธิประโยชน์ต่างๆ อีกมากมายส่งตรงจาก ธนาคารกรุงไทย ผ่าน Line Official Account เพียงเพิ่มเพื่อนผ่านไลน์ ชื่อ @krungthaiSME หรือสแกน QR Code ด้านล่าง
สินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการ เสริมสภาพคล่องทางธุรกิจ
จุดเด่นของสินเชื่อ
✅ อนุมัติวงเงินเร็ว
✅ ไม่ใช้หลักประกัน
✅ ค่าใช้จ่ายสุดพิเศษ
✅ รับซื้อสูงสุด 90%
รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: https://airafactoring.co.th/
SME D Bank เปิดดัชนีเชื่อมั่นเอสเอ็มอี Q3 ขยับ ตอบรับนโยบายรัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจ
เดินหน้าลดภาระให้ผู้ประกอบการ จัดเต็มสินเชื่อรีไฟแนนซ์คู่โปรแกรมพัฒนาธุรกิจ
SME D Bank จับมือ ศศินทร์ เผยผลสำรวจดัชนีเชื่อมั่นเอสเอ็มอี ประจำไตรมาส 3/2566 ปรับขึ้นเล็กน้อย จากการปรับแผนการตลาด และความคาดหวังต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจหลังเลือกตั้ง เช่นเดียวกับแนวโน้ม 3 เดือนข้างหน้ากระเตื้อง อานิสงส์เข้าสู่ไฮซีซั่นดันค้าขายท่องเที่ยวคึกคัก ภายใต้ปัจจัยท้าทาย ส่วนใหญ่กังวลต้นทุนธุรกิจเพิ่ม จากการปรับค่าแรงขั้นต่ำ และขาดแคลนแรงงานฝีมือ ด้าน SME D Bank ประกาศแก้ปม เดินหน้ามอบบริการ “เติมทุนคู่พัฒนา” พาเข้าถึงสินเชื่อ “SME Refinance” วงเงิน 5,000 ล้านบาท ช่วยลดภาระ ผ่อนหนักเป็นเบา ควบคู่โปรแกรมพัฒนา เติมทักษะให้แรงงาน เสริมแกร่งเพิ่มศักยภาพธุรกิจ
นางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เผยว่า “ศูนย์วิจัยและข้อมูล ธพว.” ร่วมกับ “ศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษา” สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดทำ “ผลสำรวจความเชื่อมั่นเอสเอ็มอีต่อเศรษฐกิจและธุรกิจ ไตรมาส 3/2566 และคาดการณ์อนาคต” จากการสำรวจผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจำนวนกว่า 500 ตัวอย่างทั่วประเทศ ครอบคลุมทุกประเภทอุตสาหกรรม พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจและธุรกิจของเอสเอ็มอีในไตรมาส 3/2566 ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (2/2566) จาก 65.90 มาอยู่ที่ 66.40 เนื่องจากผู้ประกอบการ มีการปรับตัวด้านแผนการตลาดต่อเนื่อง ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น รวมถึง มีความคาดหวังต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลภายหลังการเลือกตั้ง
ส่วนแนวโน้มความเชื่อมั่น 3 เดือนข้างหน้า ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจและธุรกิจเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเช่นกัน จาก 65.61 มาอยู่ที่ระดับ 66.79 เพราะได้รับอานิสงส์เข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวสิ้นปี หรือไฮซีซั่น ร้านค้า ภาคเอกชนต่างๆ มักจัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขาย ประชาชนจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ และคาดจำนวนนักท่องเที่ยวจะเดินทางเข้ามามากขึ้น
เมื่อพิจารณาดัชนีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจและธุรกิจ แยกตามประเภทอุตสาหกรรม พบว่า ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในภาคบริการโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมก่อสร้าง มีความเชื่อมั่นสูงกว่ากลุ่มอื่น เนื่องจากได้ทำสัญญาโครงการก่อสร้างใหม่เพิ่มขึ้น ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวมีความเชื่อมั่นสูงรองลงมา เนื่องจากมีการเดินทางและจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ทำให้ระดับความเชื่อมั่นในภาพรวมยังคงสูง
นอกจากนี้ ศูนย์วิจัยฯ ได้สำรวจปัญหาด้านแรงงานในผู้ประกอบการเอสเอ็มอี พบว่า 76.94% มีความกังวลด้านภาระต้นทุนแรงงานที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากการปรับค่าแรงขั้นต่ำ รองลงมา 23.73% ขาดแคลนแรงงานทักษะหลากหลายที่สามารถหมุนเวียนงานได้ ขณะที่ 21.29% ขาดแคลนแรงงานที่มีความรู้ด้านเทคโนโลยีและดิจิทัล และ 17.96% ต้องลดจำนวนแรงงาน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจ
ส่วนทักษะที่ต้องการเสริมให้แรงงานได้เรียนรู้เพิ่มเติม มากที่สุดถึง 59.42% คือ การตลาดและขายผ่านช่องทางออนไลน์ ตามด้วย 54.77% ทักษะเฉพาะทางตามสาขาอาชีพ 35.48% การตลาดและขายหน้าร้าน และ 29.71% ทักษะภาษาต่างประเทศ
นางสาวนารถนารี กล่าวเสริมว่า จากผลสำรวจดังกล่าว ดัชนีเชื่อมั่นที่ปรับขึ้นเพียงเล็กน้อย สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ทั้งต่อความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจในปัจจุบัน และอนาคต โดยเฉพาะปัญหาต้นทุนธุรกิจ และทักษะแรงงาน ส่งผลให้ความเชื่อมั่นในการลงทุนอยู่ในระดับต่ำ ในการนี้ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งระยะยาวด้านการบริหารจัดการต้นทุนให้แก่ผู้ประกอบการ ดังนั้น SME D Bank จัดเตรียมบริการด้านการเงินควบคู่การพัฒนาช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีลดต้นทุนพร้อมกับเพิ่มศักยภาพธุรกิจไปพร้อมกัน
ด้านการเงินมีผลิตภัณฑ์สินเชื่อ “SME Refinance” วงเงิน 5,000 ล้านบาท สามารถนำไปใช้วางแผนบริหารจัดการธุรกิจได้ล่วงหน้า และลดต้นทุนการเงิน จุดเด่นดอกเบี้ยต่ำ และเป็นอัตราคงที่ ปีแรก 2.99% ต่อปี และช่วง 3 ปีแรก เฉลี่ยอยู่ที่ 3.50% ต่อปี วงเงินกู้สูงสุด 50 ล้านบาท ผ่อนนานสูงสุดถึง 15 ปี แถมปลอดชำระเงินต้นสูงสุดถึง 12 เดือน เปิดรับคำขอกู้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2566 อีกทั้ง จัดโปรโมชั่นพิเศษ สำหรับผู้ประกอบการที่ยังไม่เคยใช้สินเชื่อจาก SME D Bank มาก่อน เมื่อยื่นกู้และเบิกใช้วงเงิน ตั้งแต่ 1-50 ล้านบาท ภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายน 2566 ได้รับ “Cash Back” มูลค่าสูงสุด 60,000 บาท สำหรับเป็นค่าประเมินหลักทรัพย์ค้ำประกัน มูลค่าสูงสุด 30,000 บาทต่อราย และค่าจดจำนองหลักประกัน มูลค่าสูงสุด 30,000 บาทต่อราย
ควบคู่กับโปรแกรม “พัฒนา” ฟรี! ช่วยเสริมแกร่งผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ผ่านโครงการ “SME D Coach” โดยมีโค้ชมืออาชีพ ให้คำปรึกษาและแนะนำธุรกิจ รวมถึง จัดกิจกรรมพัฒนาทักษะแรงงานที่จำเป็นให้ต่อเนื่อง เช่น อบรม สัมมนาขยายตลาดออนไลน์ การใช้เครื่องมือเทคโนโลยีดิจิทัล เป็นต้น
สนใจรับบริการสินเชื่อและงานพัฒนา แจ้งความประสงค์ได้ผ่านช่องทาง เช่น เว็บไซต์ www.smebank.co.th, LINE Official Account : SME Development Bank เป็นต้น รวมถึงสาขา SME D Bank ทั่วประเทศ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1357
SEIDA แรงบันดาลใจจากโจทย์ใหญ่ของชีวิต
เราต่างรู้กันดีว่า เส้นผมนั้น คือส่วนที่ดูแลยากเป็นอันดับต้นๆ ในร่างกาย และทุกคนต่างต้องเคยเผชิญกับปัญหาเส้นผมและหนังศีรษะ ที่กระทบกับชีวิตประจำวันจนสูญเสียความมั่นใจ และมักเป็นปัญหาเรื้อรังที่ยากจะแก้ให้หายขาด เราจึงสามารถพบเห็นผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะมากมายหลากหลายสูตรในท้องตลาด หากใช้แล้วแก้ปัญหาได้ก็นับว่าโชคดี แต่ถ้าหากว่าไม่มีสูตรไหนที่สามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับเส้นผมของเราได้ จะทำอย่างไร
นี่เป็นโจทย์ใหญ่ที่เกิดขึ้นกับน้องสาวของ คุณทราย ศุภานัน ขอเจียม ที่มีภาวะแพ้ภูมิตัวเอง จนทำให้ผมร่วงเป็นจำนวนมาก กระทบกับชีวิตการทำงานจนทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งที่เคยมีความมั่นใจนั้น กลับเปลี่ยนบุคลิกเป็นคนเก็บตัว ไม่ขอออกไปพบเจอผู้คน ไม่ขอเข้าประชุมพบเจอหน้ากับลูกค้า และถึงแม้จะทดลองใช้ผลิตภัณฑ์สูตรต่างๆ ที่หาได้ในท้องตลาด ก็ยังไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาให้ดีขึ้นได้ จนเริ่มท้อและถอดใจ
จุดนี้เองที่ปลุกความกล้าให้คุณทราย ต้องทุ่มสุดตัวศึกษาหาความรู้อย่างละเอียด ทำความรู้จักกับส่วนผสมของยาสระผมทุกตัว เพื่อหาสูตรผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยรักษาอาการของน้องสาวให้ได้ เมื่อไม่มีอะไรในท้องตลาดที่มาช่วยแก้ปัญหาให้น้องสาวได้ คุณทรายจึงเลือกที่จะสร้างผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมสูตรใหม่ขึ้น โดยตั้งเป็นเป้าหมายที่จะต้องทำให้สำเร็จให้ได้โดยไม่มีคำว่ายอมแพ้ เพื่อคืนชีวิตและความมั่นใจให้น้องสาวได้เห็นว่า ถ้าพี่สาวคนนี้ไม่ยอมแพ้ น้องเองก็ต้องไม่ยอมแพ้
หลังจากใช้ความพายามค้นคว้าและพัฒนามานานกว่า 3 ปี ในที่สุดคุณทรายก็สามารถหาสูตรที่ช่วยแก้ปัญหาให้กับน้องสาว ด้วยการปรับสมดุลให้กับเส้นผมและหนังศีรษะได้สำเร็จ และพัฒนาต่อมาเป็น SEIDA ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะที่มีวิธีคิดแบบเดียวกับสกินแคร์
สร้างประสบการณ์ใหม่ในการดูแลตัวเอง
วิธีคิดของ SEIDA นั้น คุณทรายมองว่าเส้นผมและหนังศีรษะเปรียบเหมือนดินสำหรับเพาะปลูกต้นไม้ การดูแลสภาพหนังศีรษะนั้นเหมือนกับการเตรียมดิน ต้องมีความสมดุลทั้งความชุ่มชื้นและสารอาหารที่เหมาะสม รวมถึงต้องมีการบำรุงรักษาดูแลอย่างถูกวิธี
การดูแลเส้นผมของ SEIDA จึงเป็นการดูแลแบบองค์รวม ตั้งแต่ก่อนสระผม ขณะสระผม ไปจนถึงหลังสระผมเสร็จ ด้วยอุปกรณ์ที่ช่วยดูแลเส้นผมรูปแบบต่างๆ ตั้งแต่ยาสระผม ครีมบำรุงเส้นผม แปรงสระผมที่ช่วยทำความสะอาดและนวดหนังศีรษะอย่างทั่วถึงโดยไม่ทำร้ายชั้นผิว ไปจนถึงหวีเด้งดึ๋งสำหรับผมเปียก ที่จะปรับรูปทรงไปตามศีรษะของแต่ละคนให้มีแรงหวีที่เหมาะสม
ส่วนผสมภายในยาสระผมของ SEIDA เอง ก็มีวิธีคิดเดียวกับสกินแคร์ดูแลผิวหน้า เพราะผิวหน้าและหนังศีรษะนั้น เป็นผืนเดียวต่อเนื่องกัน จึงควรมีการบำรุงรักษาและให้ความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน ส่วนผสมต่างๆ จึงต้องมีความอ่อนโยนและไม่มีสารเคมีที่ก่อให้เกิดการแพ้ หรือทำร้ายผิว และนั่นทำให้ SEIDA ยอมเลือกที่จะนำเข้าวัตถุดิบจากเกาหลีที่มีสารอาหารครบถ้วน เพื่อให้ได้ส่วนผสมที่มีคุณภาพมาตรฐานสมบูรณ์ที่สุด ที่จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องผมขาดหลุดร่วงได้ครอบคลุมเห็นผลจริง
ด้วยความตั้งใจจริง และทำ0ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดที่ช่วยแก้ปัญหาให้กับผู้คนได้จริง ทำให้มีการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี จนเกิดกระแสบอกต่อกันแบบปากต่อปากในโลกออนไลน์ และทำให้แบรนด์เติบโตเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว
ทั้งหมดนี้น่าจะเป็นผลลัพธ์จากสมการของความโชคดีที่คุณทรายยึดถือไว้ นั่นก็คือ ความโชคดี ได้มาจากการเตรียมพร้อมให้ตัวเองเป็นผู้ที่พร้อมมากๆ ในทุกสถานการณ์ บวกกับโอกาสที่ผ่านเข้ามา แล้วเราบังเอิญพร้อมอยู่พอดี
ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่
SEIDA
โทร: 092-495-6145
อีเมล: seidaofficial.th@gmail.com
เว็บไซต์: seidathailandstore.com
Facebook: SeidathailandStore