ครม.อนุมัติสินเชื่อ SME green productivity 15,000 ล้านบาท ดอกเบี้ยต่ำ 3% ใน 3 ปีแรก
คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโครงการสินเชื่อ SME green productivity เพื่อส่งเสริมการปรับปรุงธุรกิจและการเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจสีเขียว ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ ธพว. จะปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการ SME วงเงินรวม 15,000 ล้านบาท รายละไม่เกิน 10 ล้านบาท ดอกเบี้ย 3% ใน 3 ปีแรก
โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้ SME และฟื้นฟูธุรกิจ สร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าและบริการ ช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ในการปรับตัวและเปลี่ยนแปลงสู่ธุรกิจสีเขียว ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
โอกาสทองสำหรับธุรกิจสีเขียว ครม. อนุมัติสินเชื่อ SME green productivity 15,000 ล้านบาท ดอกเบี้ยต่ำ 3% ใน 3 ปีแรก
**ข่าวดีสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ที่ต้องการปรับปรุงธุรกิจและเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจสีเขียว** เมื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบโครงการสินเชื่อ SME green productivity เพื่อส่งเสริมการปรับปรุงธุรกิจและการเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจสีเขียว ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดย ธพว. จะปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการ SME วงเงินรวม 15,000 ล้านบาท รายละไม่เกิน 10 ล้านบาท ดอกเบี้ย 3% ใน 3 ปีแรก
วัตถุประสงค์เพื่อ เพิ่มสภาพคล่องให้ SME และฟื้นฟูธุรกิจ สร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าและบริการ ช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ในการปรับตัวและเปลี่ยนแปลงสู่ธุรกิจสีเขียว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : ฐานเศรษฐกิจ
#SMEONE #SMEไทยก้าวไกลทันโลก #สินเชื่อ #SME
งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระเกียรติพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
ขอเชิญชวนผู้ประกอบการ SME และประชาชนร่วมลงนามถวายพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
ผ่านระบบออนไลน์ ที่เว็บไซต์หน่วยราชการในพระองค์
https://wellwishes.royaloffice.th/index.php/home/index/38
และขอเชิญร่วมลงนามถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
ผ่านระบบออนไลน์ที่ https://formyking.ocsc.go.th/gorvernment.php
Samuay & Sons อีสานจานหรูจากเมนูท้องถิ่น
รักอาหาร รักอีสาน รักบ้านเกิด และรักแม่ นับได้ว่าเป็นวัตถุดิบหลักที่สร้างร้านอาหาร Samuay & Sons ให้เกิดขึ้นมา และทำให้ร้านนี้เป็นมากกว่าร้านอาหารอีสานที่เราพบเห็นได้ทั่วไป แต่กลับใส่เติมความเป็นอีสานเต็มตัวไว้ในอาหารทุกเมนูได้อย่างเต็มคำ
Samauy & Sons นั้น เริ่มมาจากความตั้งใจของ 2 พี่น้อง เชฟหนุ่ม - วีระวัฒน์ และเชฟโจ้ - วรวุฒิ ตริยเสนวรรธน์ ที่ชื่นชอบการทำอาหารมาตั้งแต่สมัยไปค้นหาความฝันอยู่ที่สหรัฐอเมริกา แต่เมื่อคุณพ่อล้มป่วยเป็นมะเร็ง เลยมีเหตุให้ต้องกลับมาอยู่ที่บ้านเกิดที่จังหวัดอุดรธานี และนำความรู้ความตั้งใจ กลับมาเปิดร้านอาหาร โดยตั้งใจตั้งแต่แรกว่าจะใช้ชื่อแม่เป็นชื่อร้าน เพราะเห็นแม่เป็นฮีโร่ของตน จึงเป็นที่มาของชื่อร้านว่า ซาหมวย แอนด์ ซันส์
แม้ว่าทั้ง 2 คน จะใช้ชีวิตในการทำอาหารฝรั่งมาตลอด แต่เมื่อต้องกลับมาอยู่บ้านเกิด หากคิดจะทำร้านอาหารแล้ว เปิดเป็นร้านอาหารไทยดูจะเป็นทางที่ตัวเองสนใจ และเหมาะกับกลุ่มลูกค้าในพื้นที่เสียมากกว่า อีกสิ่งหนึ่งคือ เชฟนั้นมีความสนใจในเรื่องราวของวัตถุดิบของภาคอีสานที่มีความหลากหลาย เพราะเป็นพื้นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ทำให้มีวัตถุดิบที่ผู้คนทั่วไปอาจยังไม่รู้จักอีกมาก รอให้ค้นพบและนำมาทำให้เป็นอาหารที่รับประทานได้ ซึ่งเชฟได้รับรู้เรื่องราวจากการเดินทางไปใช้ชีวิตใกล้ชิดกับพ่อค้าแม่ค้า ศิลปินท้องถิ่น จนถึงปราชญ์ชาวบ้านทั่วทั้งภูมิภาค
เล่าเรื่องอีสานผ่านเมนู
คนอีสานท้องที่นั้น รู้จักพืชผัก ผลไม้ หรือวัตถุดิบหลาย ๆ อย่างในท้องถิ่นของตัวเองกันอยู่แล้ว ในเมื่อภาคอีสานนั้นเต็มไปด้วยวัตถุดิบชั้นดี ที่รอการเผยแพร่ ในฐานะของเชฟที่เกิดในภาคอีสาน ก็ควรที่จะนำวัตถุดิบเหล่านี้มาแนะนำให้คนทั้งประเทศได้รู้จักด้วย
ใช่ว่าทุกวัตถุดิบจะสามารถนำมาทำอาหารได้ทันที เชฟในนำวัตถุดิบแต่ละชนิดที่ตนไปพบเจอ มาลองศึกษาหาความเป็นไปได้ ผ่านกรรมวิธีที่จะดึงรสชาติต่าง ๆ ออกมาให้ได้รสดีที่สุด จนเกิดเป็น Food Lab ที่เป็นเหมือนห้องทดลองขนาดย่อม ๆ ให้เชฟได้เล่นสนุกกับการหมัก ดอง คั้น เคี่ยว หรือวิธีใดก็ตามที่ได้ผล
จากเมนูอาหารอีสานดั้งเดิม ก็ค่อย ๆ เพิ่มเติมความน่าสนใจมากขึ้น ด้วยวัตถุดิบแปลกตา ที่เชฟสรรหามาผสมผสานเข้าในเมนู เช่น เมนูทาโก้ ที่ทั่วไปมักใช้เป็นแผ่นแป้งตอร์ติญา แต่เมื่อผ่านมือเชฟของร้านนี้ก็จะถูกปรับเปลี่ยนให้สมเป็นลูกอีสานมากขึ้น ด้วยการเปลี่ยนเป็นแป้งที่ทำขึ้นจากเมล็ดขนุน
ทุกวันนี้ถึงแม้ว่าร้าน Samuay & Sons จะได้รับรางวัลต่าง ๆ มามากมาย และได้มีชื่ออยู่ในมิชลินไกด์ แต่เชฟเองก็ยังคงไม่หยุดที่จะพัฒนาประสบการณ์ของการทานอาหารให้กับลูกค้า เพราะมีความตั้งใจว่าอยากนำเสนอวัตถุดิบอีสานให้เป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลาย โดยต้องการสร้างมาตรฐานของร้านให้ดีที่สุด และรักษามาตรฐานให้สูงขึ้นอย่างสม่ำเสมอ
การสร้างคอมมูนิตี้ในบ้านเกิดก็เป็นสิ่งสำคัญ ในเรื่องของการทำธุรกิจเมื่อมีการพึ่งพากันก็ยิ่งช่วยเพิ่มความเข้มแข็ง ซึ่งสามารถพัฒนาต่อให้สามารถดำเนินไปได้อย่างยั่งยืน เมื่อคนในชุมชนมีรายได้ อยู่ได้ คนก็ไม่จำเป็นต้องย้ายถิ่นฐานไปที่อื่น คนก็จะเห็นคุณค่าในสิ่งที่ตัวเองทำ ยิ่งเป็นการสร้างคุณค่าให้กับจังหวัด เพื่อดึงดูดผู้คนให้เห็นคุณค่าของเรามากกว่า
ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่
Samuay & Sons
ที่อยู่: 103/8 ถ.ศรีชมชื่น ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมืองอุดรธานี อุดรธานี 41000
โทร: 098-891-9249
อีเมล: samuayandsons.ud@gmail.com
เว็บไซต์: www.samuayandsons.com
Facebook: SamuayNsons
Instagram: samuayandsons
เส้นขนมจีนอบแห้ง Mr.Bob ที่อยากให้คนอร่อยได้ทุกที่ ทุกเวลา
เพียงความตั้งใจเล็ก ๆ ที่อยากให้คนไทยทั่วประเทศได้กินเส้นขนมจีนที่อร่อยและดีต่อสุขภาพ กลายเป็นธุรกิจใหญ่ที่ส่งออกเส้นขนมจีนอบแห้งไปหลาย ๆ ประเทศในโลก
ความคิดนี้เริ่มมาจาก คุณบ๊อบ - วีระพงษ์ โสดามรรค ที่ได้เดินทางไปต่างประเทศแล้วอยากหาเส้นขนมจีนทาน ซึ่งเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ยาก เมื่อพบเส้นขนมจีนอบแห้งที่วางขายอยู่ แล้วลองเอามาทำอาหารดู ก็พบว่า ไม่ว่าจะเป็นเส้นขนมจีนแบบใด แต่ละเส้นล้วนขาดกลิ่นหอมและรสสัมผัสที่เป็นความอร่อยเฉพาะตัวของเส้นขนมจีนไป จึงเกิดโจทย์คำถามขึ้นในใจว่า “ต้องทำอย่างไร ให้คนไทยได้มีเส้นขนมจีนอบแห้งที่อร่อย สามารถเก็บไว้ได้นาน ทานได้ทุกที่ทุกเวลาที่ และดีต่อสุขภาพ”
เมื่อกลับมาถึงประเทศไทย ก็ทำการค้นคว้า จนได้ข้อมูลว่าในไทยนั้น มีแต่ขนมจีนเส้นสด ซึ่งเสียง่ายไม่สามารถเก็บได้นาน และมีกลุ่มคนที่ต้องการทานขนมจีนแต่มีปัญหาด้านสุขภาพในระบบทางเดินอาหารจึงไม่สามารถทานได้ จึงเกิดแนวความคิดที่อยากทำเส้นขนมจีนที่ตอบโจทย์ทั้งหมดนี้
หลังจากที่ทำการศึกษา และพัฒนาจนสามารถคิดสูตรของเส้นขนมจีน ที่ไม่ผ่านกระบวนการหมัก เพื่อให้ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพสามารถรับประทานได้ และ ใช้กระบวนการอบแห้งที่ทำให้เส้นขนมจีนนั้น ยังคงรสชาติความหอม อร่อย และสามารถเก็บไว้ได้นานถึง 1 ปี ออกเป็นสินค้าจำหน่ายภายใต้ชื่อว่า เส้นขนมจีนอบแห้ง Mr.Bob
อบแห้งด้วยนวัตกรรมธรรมชาติ
นอกจากวิธีคิดที่คำนึงถึงกลุ่มลูกค้าแล้ว เส้นขนมจีนอบแห้ง Mr.Bob ยังคิดถึงสังคมและสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกันด้วย จึงคิดหากรรมวิธีการผลิต ที่ให้ผลผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ใช้กระบวนการหมัก ไม่ใช้สารเคมีหรือสารปรุงแต่ง ไม่ทำร้ายสุขภาพของพนักงานและผู้บริโภค และในขณะเดียวกันก็ไม่ทำร้ายสิ่งแวดล้อม
คุณบ๊อบได้ไปปรึกษากรมพัฒนาพลังทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ร่วมกับภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้พัฒนาขึ้นมาเป็น โรงอบเส้นขนมจีนพลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ด้วยพาราโบลาโดม ที่ใช้วิธีการสะสมความร้อนจากแสงอาทิตย์ไว้ในโดม ช่วยเพิ่มความร้อนในการอบเส้นขึ้นได้ 3-7% และตัวโดมเองยังช่วยป้องกันเส้นจากฝุ่นและแมลงอีกด้วย ช่วยประหยัดพื้นที่ ประหยัดเวลาอบ และประหยัดค่าใช้จ่าย สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้มากขึ้นโดยไม่ต้องขยับขยายพื้นที่
ในด้านการช่วยเหลือสังคมนั้น คุณบ๊อบ ได้รับซื้อข้าวที่สะอาด มีคุณภาพจากเกษตรกรท้องที่ในราคาสูง เพื่อนำมาทำเป็นแป้งขนมจีน ช่วยให้เกษตรกรมีรายได้มั่นคง ผ่านพ้นช่วงเวลาวิกฤตราคาข้าวตกต่ำมาได้
ด้วยการทำธุรกิจอย่างใส่ใจ ทำให้ เส้นขนมจีนอบแห้ง Mr.Bob ชนะรางวัลสุดยอด SME แห่งชาติ MSME Provincial Awards 2023 มาได้ เป็นอันดับที่ 1 ของจังหวัดกาฬสินธุ์
ในปัจจุบันเส้นขนมจีนอบแห้ง Mr.Bob ได้มีการขยับขยายตลาดออกไปวางจำหน่ายในต่างประเทศ ทั้งในภูมิภาคเอเชีย, ตะวันออกกลาง, จนถึงยุโรป
ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่
บริษัท วีพีพี ขนมจีนไทยอบแห้ง จำกัด (โรงงานขนมจีนอบแห้ง Mr.Bob)
ที่อยู่: 247/1 หมู่ 2 ต.สมเด็จ อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ 46150
โทร: 081-262-3273
Line: mrbobvpp
เว็บไซต์: www.mrbobnoodle.com
Facebook: Misterbob.vpp