One Stop Service Center กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ (OSSC) เป็นภารกิจที่สำคัญอย่างหนึ่งของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ให้บริการตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์สุขภาพเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคตามกฎหมาย และการตรวจชันสูตรเพื่อเป็นการสนับสนุนการป้องกันโรคและการรักษาพยาบาล
ซึ่งในปัจจุบัน กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์มีหน่วยงานที่ให้บริการดังกล่าวกระจายอยู่ตามอาคารต่างๆ ทั้งสิ้น 10 อาคาร ทำให้ผู้ใช้บริการ ทั้งจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไปต่างต้องเสียเวลา ไม่ได้รับความสะดวกในการเข้ามาติดต่อและรับบริการ จากหน่วยงานให้บริการต่างๆ
ดังนั้นกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จึงได้จัดตั้ง ศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว หรือศูนย์รวมบริการ
(One Stop Service Center : OSSC) เพื่อเพิ่มความสะดวกและรวดเร็วในการให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว แก่ประชาชนผู้ที่มาติดต่อส่งตัวอย่างตรวจวิเคราะห์ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นการขอรับคำปรึกษา การยื่นคำขอ การขอรับใบอนุญาตรับรอง การชำระค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ทำให้ผู้ประกอบการสามารถวางแผนการตลาดและการดำเนินธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว
One Stop Service Center กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ (OSSC) ให้บริการผู้ประกอบการSMEหรือเจ้าของธุรกิจที่ต้องการยกระดับมาตรฐานเพื่อเป็นผู้ประกอบการSME ที่ต้องการตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์เพื่อให้ได้มาตรฐานการคุ้มครองผู้บริโภคตามกฎหมาย โดยผู้ประกอบการต้องขอข้อมูลจากทางอย. มาก่อนว่าสินค้าต้องตรวจอะไร และทางศูนย์จะวิเคราะห์ ออกผลให้ รวมทั้งติดตามผล ผู้ประกอบการทุกประเภทสามารถใช้บริการได้ เหมาะอย่างยิ่งกับผู้ประกอบการที่เน้นการผลิตด้านอาหาร เครื่องสำอางค์ ยา
โดยในระยะเริ่มต้นนี้จะให้บริการ รับตัวอย่างเพื่อนำมาตรวจวิเคราะห์สารและรับรายงานผลการตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์สุขภาพ อันประกอบด้วยด้านอาหาร ยา ชีววัตถุ เครื่องสำอาง รังสี เครื่องมือแพทย์ และสมุนไพร ยกเว้น วัตถุเสพติด โดยจะมีเจ้าหน้าที่จากLABต่างๆ มารอรับตัวอย่างและให้คำแนะนำ เพื่อให้ผู้ประกอบการนำไปยื่นเพื่อขอรับอย. โดยจะรับตรวจผลิตภัณฑ์เกือบทุกประเภท เช่น ด้านอาหาร , ยา , การตรวจสารปนเปื้อนในอาหาร , อาหารในภาชนะปิดสนิท , เครื่องสำอาง , ครีมกันแดด , ครีมทาหน้าขาว , ยา , เจลแอลกอฮอลล์ , วัตถุอันตราย รวมไปถึงตรวจวิเคราะห์บรรจุภัณฑ์ว่าไม่มีสารตกค้าง และปลอดภัยตามมาตรฐานอย. เช่น จุกยางนม , กระป๋อง , แก้วน้ำ
มีบริการตรวจเช็คความปลอดภัยของตัวสินค้าผ่านการผลิต คือ อันดับแรกจะดูสารเคมีหรือจุนลินทรีย์ในวัตถุดิบว่ามีสารปนเปื้อนไหม ตลอดจนตัวบรรจุภัณฑ์ รวมถึงความปลอดภัยในขั้นตอนการผลิต และเฝ้าระวังติดตามผลภายหลัง เคสตัวอย่างเรื่องความปลอดภัยที่เคยตรวจ เช่น ตัวน้ำดื่มบรรจุขวด , เคสซูชิเรืองแสง , ราในน้ำผลไม้กล่อง
One Stop Service Center กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แนะนำผู้ประกอบการที่จะส่งตัวอย่างเพื่อขอใบอนุญาติ อย. ให้ไปปรึกษากับทางอย.ก่อนเพื่อจะมาขอรับการตรวจมาตรฐาน ผู้ประกอบการจะได้รู้ว่าต้องเอาผลตรวจอะไรไปขอใบอนุญาติ อย. แต่สำหรับผู้ประกอบการที่จะมาตรวจเพื่อตรวจสอบคุณภาพ สามารถขอคำแนะนำที่ศูนย์ได้ ซึ่งในอนาคตจะมีการส่งตัวอย่าง แบบขอตรวจออนไลน์ และสามารถส่งตัวอย่างผ่านไปรษณีย์ หรือบริษัทเอกชน โดยสามารถดูผลตรวจได้ที่ E-Report เพื่อเพิ่มช่องทางการตรวจให้ผู้ประกอบการ
One Stop Service Center กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ยังมีโครงการสนับสนุนช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP ทั้งสินค้าและเครื่องสำอาง OTOP ตรวจมาตรฐานผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มจุดที่ขาดเพื่อให้สินค้าได้มีมาตรฐาน เป็นส่วนช่วยยกระดับผลิตภัณฑ์
ผู้ประกอบการท่านใดที่สนใจ หลังจากศึกษารายละเอียดที่ต้องตรวจจากทางอย. แล้วให้นำตัวอย่าง ใบประกาศ ใบนำส่ง แล้วแจ้งรายละเอียดกับทางศูนย์ว่าต้องการตรวจอะไรบ้างตามมาตรฐานอย. สามารถติดต่อด้วยตัวเองได้ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ที่อยู่ : 88/7 ซอยบำราศนราดูร ถ.ติวานนท์ ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000 หรือที่ศูนย์ใกล้เคียง 16 ศูนย์ทั่วประเทศ หรือกรอกใบนำส่งตัวอย่างออนไลน์ที่เว็บไซต์และส่งตัวอย่างผ่านขนส่ง
โทรศัพท์ : 0-2951-0000,0-2589-9850-8 . โทรสาร : 0-2591-1707 . E-mail : prdmsc@dmsc.mail.go.th
เว็บไซต์ https://www3.dmsc.moph.go.th/
หมายเหตุ ราคาและระยะเวลาขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์
Published on 29 October 2020
SMEONE เพิ่มโอกาสให้ SME ไทย
ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการค้า (EXIM Excellence Academy : EXAC) เป็นหน่วยงานส่วนหนึ่งภายใต้ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ให้บริการผู้ประกอบการแบบ One Stop Service เพื่อดูแลผู้ส่งออกหรือนักลงทุนไทยเรื่องการลงทุนในต่างประเทศ
ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางบริการ มีทั้งให้คำปรึกษา ให้ความรู้ แนะนำการลดความเสี่ยงส่งออก และสนับสนุนทางการเงิน การให้สินเชื่อ ประกันการส่งออก เพื่อยกระดับความสามารถผู้ประกอบการ สำหรับผู้ที่เริ่มต้นจะทำการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs หรือผู้ที่ส่งออกอยู่แล้วแต่ต้องการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพื่อขยายตลาดให้กว้างไกลมากขึ้น
ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการค้า มีหน้าที่ให้ความรู้ อบรม ให้คำแนะนำเพื่อสร้างโอกาสและธุรกิจในการส่งออก ต่อยอดความรู้ต่างๆ จากคนที่ไม่เคยส่งออกให้มีความรู้ในการส่งออกได้ สามารถเข้าขยายตลาดไปยังประเทศที่ยากขึ้นและประสบความสำเร็จมากขึ้น เน้นมุ่งไปสู่เป้าหมายของการ “บ่มเพาะ ต่อยอด สร้างโอกาส ”
1.บ่มเพาะ : EXAC จะช่วยสนับสนุนผู้ส่งออกรายใหม่ และผู้ส่งออกที่มีตลาดส่งออกแล้ว ให้เริ่มต้นการส่งออกได้เร็วกว่าที่จะต้องเริ่มด้วยตนเอง ให้ความรู้การทำธุรกิจกับต่างประเทศ เรื่อง Logistic ศุลกากรและภาษี อาทิ กลยุทธ์การค้าระหว่างประเทศ การบริหารเงินในธุรกิจส่งออก แนะนำการจัดเตรียมเอกสารเพื่อการส่งออก และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆสู่ตลาดสากล มีการจัดกิจกรรมสัมมนาและเวิร์คชอปเพื่อให้ความรู้ผู้ประกอบการในเรื่องการส่งออกอย่างครอบคลุม
Workshop : การประชุมเชิงปฏิบัติการที่ผู้ประกอบการจะได้รับประสบการณ์จากการร่วมกันฝึกพัฒนาทักษะและการปฏิบัติจริง ในเรื่องของวิธีการจัดการ การวางแผนธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ ฯลฯ
สัมมนา : เสริมสร้างความรู้ โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญจากภาครัฐ และเอกชน มาให้คำปรึกษา แนะนำ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านการส่งออกแก่ผู้ประกอบการในทุกมิติ
2.ต่อยอด : เพิ่มศักยภาพทางการเงินให้กับผู้ประกอบการทางด้านการลงทุน ให้การสนับสนุนทางด้านการเงินให้สามารถส่งออกไปยังต่างประเทศได้ ไม่ว่าจะเป็นบริการสินเชื่อการส่งออก นำเข้า สินเชื่อผู้ผลิตเพื่อผู้ส่งออก หรือสินเชื่อเพื่อขยายกำลังการผลิต
3.สร้างโอกาส : ให้ประกันความเสี่ยงในการส่งออก คือการทำประกันการส่งออกนั่นเอง โดยสำหรับกลุ่ม START UP ทาง EXAC จะมีทั้งสินเชื่อและบริการออกหนังสือค้ำประกันการส่งออก เอกสารต่างๆ เช่น หนังสือค้ำประกันการรับเงินล่วงหน้า (Advance Payment Bond) ซึ่งถือเป็นบริการที่สำคัญมาก บางครั้งผู้ประกอบการอาจจะกังวลเกี่ยวกับการค้าส่งออกไปต่างประเทศแล้วไม่สามารถเก็บเงินได้ ซึ่งบางทีอาจจะเป็นการเสียโอกาสที่จะเปิดเส้นทางธุรกิจใหม่ๆกับกลุ่มประเทศใหม่ๆที่มีความต้องการสินค้าและกำลังการซื้อสูง เพราะฉะนั้นการมีบริการประกันการส่งออก จึงเป็นสิ่งที่สามารถช่วยเพิ่มความมั่นใจและโอกาสให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs หน้าใหม่ได้ รวมทั้งให้บริการประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนจากความผันผวนในตลาดโลกด้วย
นอกจากนี้ทางศูนย์ความเป็นเลิศด้านการค้ายังรับเป็นที่ปรึกษาทางธุรกิจแฟรนไชร์เพื่อการส่งออกไปในหลายๆสาขาในต่างประเทศ เรื่องการทำสัญญาต่างๆ ซึ่งบริการทั้งหมดของทาง EXAC เป็นการต่อยอดและผลักดันให้ผู้ประกอบการสามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจการส่งออกกับต่างประเทศให้มีศักยภาพและความมั่นคง เข้มแข็งในตลาดโลกต่อไป
ผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจการลงทุนในต่างประเทศหรือมีความสนใจที่จะลงทุน และต้องการที่ปรึกษาด้านการเงินสามารถเข้ามาใช้บริการกับทางศูนย์ได้ที่ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการค้า EXAC : EXIM Excellence Academy ชั้น L อาคารเอ็กซิม 1193 ถนน พหลโยธิน แขวงพญาไท กรุงเทพ ฯ 10400 ช่องทางการติดต่อเพื่อขอรับข้อมูลที่ 0 2 271 3700 ต่อ 3502 หรือ E-mail :exac.exim.go.th
Published on 29 October 2020
SMEONE เพิ่มโอกาสให้ SME ไทย
มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม เป็นหน่วยงานที่สนับสนุนการทำงานของอุทยานวิทยาศาสตร์และมหาวิทยาลัย เพื่อพัฒนาความเข็มแข็งของผู้ประกอบการในพื้นที่บนพื้นฐานของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เน้นบริการแก้ปัญหากระบวนการผลิต แผนการตลาด เช่น มีผลิตภัณฑ์แต่ไม่รู้ขายใครดี หรืออยากพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทางศูนย์จะเน้นในด้านการออกแบบบรรจุภัณฑ์ การออกแบบโลโก สื่อสิ่งพิมพ์ ตราสัญลักษณ์ รวมถึงบริการงานวิจัย บริการวิเคราะห์ค่าเบื้องต้น เช่น ค่าความชื้นในบรรจุภัณฑ์กระป๋อง ค่าสี หรือผลิตภัณฑ์ตัวนี้เก็บได้นานเท่าไร เหมาะกับสินค้าหลากหลายประเภทไม่ว่าจะเป็น เครื่องสำอาง เกษตรแปรรูป อาหาร หรือการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า เช่น ผลงานการทำเซรั่มจากเปลือกหุ้มเมล็ดมะขาม เหมาะกับผู้ประกอบการSME ทุกประเภทโดยเฉพาะผู้ประกอบการด้านเครื่องสำอาง เกษตรแปรรูป อาหาร
SCI-Park มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงครามมีบริการ ดังนี้
1.การบริการออกแบบนวัตกรรม ให้คำปรึกษาแนะนำด้านการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ เน้นที่การออกแบบบรรจุภัณฑ์ การออกแบบผลิตภัณฑ์ สัญลักษณ์ เครื่องหมายทางการค้า สื่อสิ่งพิมพ์และงานออกแบบอื่น ๆ ตลอดจนการเลือกวัสดุที่ใช้ในการทำบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสินค้าแต่ละประเภท
2.บริการวิเคราะห์ทดสอบตัวอย่าง บริการออกหนังสือรับรองผลการวิเคราะห์ทดสอบซัลเฟอร์ไดออกไซด์ตาม มอก.17025(ISO/IEC 17025)
3.บริการพื้นที่ห้องปฏิบัติการ ให้บริการห้องปฏิบัติการแก่ภาคอุตสาหกรรม และเร็วๆนี้จะมี ห้องปฏิบัติการซัลเฟอไดร์ออกไซด์ ได้รับรองมาตรฐาน ISO17025 คือ ตรวจสารตกค้างในผลิตภัณฑ์เช่น ของหมักดอง มะม่วงแช่อิ่ม วัตถุกันเสีย
4.บริการอุปกรณ์เครื่องมือวิทยาศาสตร์ในการศึกษาวิจัย
5.บริการเทคโนโลยีการพิมพ์ ดำเนินการผลิตบรรจุภัณฑ์และสื่อสิ่งพิมพ์โดยทางศูนย์ฯ จะประสานจัดหาโรงพิมพ์และบริษัทผู้ผลิตให้
6.ให้บริการความรู้เกี่ยวกับกลยุทธ์การออกแบบและการตลาด
นอกจากนี้ยังมีการให้บริการและคำแนะนำในการจัดเตรียมเอกสารหรือข้อมูลเพื่อจดขึ้นทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา เช่น การส่งเสริมให้มีการสร้างสรรค์ทรัพย์สินทางปัญญา (IP creation) ให้ความรู้ด้านทรัพย์สินทางปัญญา การสืบค้นฐานข้อมูลทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อสำรวจแนวโน้มเทคโนโลยีหรือทำแผนที่ สิทธิบัตร การให้คำปรึกษางานทรัพย์สินทางปัญญา สำหรับการจดแจ้งทรัพย์สินทางปัญญาที่เหมาะสมกับงาน
ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถนำแนวคิด หรือ ผลิตภัณฑ์เข้ามาต่อยอดที่ศูนย์อุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ห้องโครงการจัดตั้งกองจัดการทรัพย์สินและสวัสดิการ ชั้น 2 อาคารพิบูลวิชญ์ (ตึก ร.)
156 หมู่ 5 ต.พลายชุมพล อ.เมือง จ.พิษณุโลก 65000 ช่องทางติดต่ออื่นๆ โทรศัพท์ : 0 5526 7000 # 8733 , โทรศัพท์มือถือ : 064 019 1411 , Email: sciencepark@psru.ac.th , Facebook : facebook.com/scienceparkpsru
Published on 29 October 2020
SMEONE เพิ่มโอกาสให้ SME ไทย
ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมเกษตรสร้างสรรค์ หรือ ศนก. เป็นศูนย์บริการที่ปรึกษาและวิจัยด้านเทคโนโลยีการเกษตรแบบครบวงจรและถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่ผู้ประกอบการ SME ทางด้านพืชและการเกษตรโดยเฉพาะ เพื่อให้เกิดความเป็นเลิศในด้านเกษตรชุมชน ทั้งด้านงานวิจัย การพัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรมเพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการแข่งขัน สังคมและเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
ทางศูนย์พัฒนาและวิจัยทั้งระบบตั้งแต่การวิจัยพื้นฐาน วิจัยประยุกต์ การพัฒนานวัตกรรมและสามารถนำไปใช้ได้จริงในเชิงสังคมและเชิงพาณิชย์ได้อย่างมีศักยภาพ ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการทำการเกษตรเกี่ยวกับพืช ทั้งเรื่องปัจจัยการผลิต การจัดการพื้นที่ในการเพาะปลูก การปรับปรุงพันธุ์พืช การขยายพันธุ์ กระบวนการขั้นตอนในการดูแลรักษาโรคพืช เรื่องของโรงเพาะเลี้ยง เรื่องแมลงและศัตรูพืช ปัจจัยเกี่ยวกับการเจริญเติบโตของพืชผลการเกษตร กระบวนการขั้นตอนก่อนการเก็บเกี่ยว รวมไปถึงช่วงของการเก็บเกี่ยวที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ผลผลิตทางการเกษตรที่มีคุณภาพและสร้างผลผลิตและผลตอบแทนที่คุ้มค่าที่สุดให้กับผู้ประกอบการ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการ SME ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับด้านการเกษตรกรรม หรือ ต้องการนำเทคโนโลยีทางการเกษตรใหม่ๆเข้าไปพัฒนาพื้นที่ เช่น เทคโนโลยีการเก็บเกี่ยว เทคโนโลยีการยืดอายุของสดอย่างไรให้นานที่สุด
1.ให้บริการวิเคราะห์ทดสอบ ดิน น้ำ ปุ๋ย พืชและอื่น ๆ ยกตัวอย่างเช่น ผู้ประกอบการที่ทำปุ๋ยชีวภัณฑ์ในการกำจัดศัตรูพืช กระบวนการอินทรีย์ทำอย่างไรให้ถูกต้อง
2.การพัฒนาเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว เช่น การคัดบรรจุผลไม้สด การยืดอายุของผลผลิตอย่างไรให้นานที่สุด
3.งานวิจัยทางด้านพืชคลอบคลุมกระบวนการก่อนและหลังการเก็บเกี่ยว เช่น การดูแลพื้นที่ การปรับปรุงพันธุ์พืช การขยายพันธุ์พืช การดูแลรักษา เรื่องแมลงและศัตรูพืช เป็นต้น
4.วิจัยและส่งเสริมปลูกพืชสมุนไพร พืชพื้นบ้าน และพืชเศรษฐกิจใหม่ การอนุรักษ์พันธุ์พืช การปรับปรุงสายพันธุ์ การเพาะเลี้ยงเห็ด และจำหน่ายให้เกษตรกรในราคาถูก
5.มีตัวอย่างดิน ตัวอย่างพืช ตัวอย่างปุ๋ย
6.ห้องปฏิบัติการที่ทำการวิเคราะห์และทดสอบผลผลิตตามภูมิภาคนั้น ๆ
7.ห้องปฏิบัติการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช
ประโยชน์อีกอย่างที่น่าสนใจคือ หากผู้ประกอบการนำเข้าเทคโนโลยีและพืชพันธุ์ ซึ่งอาจไม่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในบ้านเรา เมื่อประสบปัญหานี้ทางศูนย์มีงานวิจัยที่สามารถสร้างเทคโนโลยีที่เหมาะสมและตอบโจทย์สำหรับประเทศไทยได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการที่จะสามารถพัฒนาและนำมาต่อยอดต่อไป รวมไปถึงการทำพืชพันธุ์ที่แข็งแรง ขยายพันธุ์ได้ในพื้นที่มาก ๆ ในเวลาเดียวกัน สายพันธุ์พืชที่ปลอดโรค หรือพัฒนาพันธุ์ใหม่ๆ ให้ขยายผลผลิตได้ในเวลารวดเร็ว รวมทั้งทำปุ๋ยยังไงให้มีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มศักยภาพและโอกาสสำหรับธุรกิจต่อไป
Published on 29 October 2020
SMEONE เพิ่มโอกาสให้ SME ไทย
เรื่องของแพ็กเกจจิ้งหรือบรรจุภัณฑ์เป็นอีกสิ่งสำคัญต่อหลายธุรกิจ หากคุณมองหาศูนย์ที่จะช่วยเหลือในด้านการปรับปรุงหรือพัฒนาบรรจุภัณฑ์ ต้องที่นี่เลย "ศูนย์การบรรจุหีบห่อไทย (TISTR)" เป็นหน่วยงานดูที่แลในด้านการพัฒนาบรรจุภัณฑ์มาตรฐาน ตั้งแต่การบรรจุสินค้าเพื่อการส่งออก ไปจนถึงการทำห่อขนมขนาดเล็ก
โดยเน้นไปที่การพัฒนาบรรจุภัณฑ์เพื่อช่วยรักษาคุณภาพสินค้า ถือได้ว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาวเหมาะสำหรับผู้ประกอบการ SMEs ในทุกประเภทธุรกิจ รวมไปถึงผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่
โดยศูนย์การบรรจุหีบห่อไทยมีบริการสำหรับผู้ประกอบการ SMEs ดังนี้
สำหรับผู้ประกอบการ SMEs ที่ต้องการใช้บริการสามารถนําตัวอย่างที่ต้องการทดสอบมาติดต่อขอใช้บริการด้วยตัวเองโดยตรงได้ที่อาคารศูนย์การบรรจุหีบห่อไทย (ศบท.)
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) 196 ถ.พหลโยธิน เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 ไกล้สถานีรถไฟฟ้า สถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
หรือ สามารถโทรมาสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทรศัพท์ : 02 579 1121-30 ต่อ 3101 หรือทาง e-mail: tpc-tistr@tistr.or.th , packtest@hotmail.com
Published on 26 October 2020
SMEONE เพิ่มโอกาสให้ SME ไทย